หวัดดียามเที่ยง
วันนี้เกิดปิติธรรมขึ้นมาในบางเรื่อง แต่ข้าก็จำไม่ได้ซะแล้ว
ธรรมผุดนี่ มันก็เหมือนความฝัน มันจำได้แค่เลือนลาง ที่จำๆ มามันก็เป็นกากแห่งธรรม ที่เจ้าของดื่มด่ำเนื้อมันไปหมดแล้ว
มันเหมือนกับว่า.. ความรู้ธรรมที่เป็นธรรมจักรหมุนเวียนไปเป็นแผ่นเป็นเลเยอร์บางๆ
เจ้าของมองผ่านแผ่นธรรมอย่างเกิดปิติใจ แผ่นใหม่ ก็ไหลลงไปทับถม
แผ่นแรกเป็นฐานให้แผ่นที่เข้าไปถม แผ่นที่เข้าไปถมเป็นฐานให้แผ่นต่อไปที่เข้าไปถม
นี่ มันเป็นฐานธรรมให้กันและกัน กันอย่างนี้ มันไหลต่อเนื่องกันไป
ใจเจ้าของก็ดื่มด่ำธรรมไปจากต้น กลาง ไปสู่ปลาย ธรรมทั้งหลายหลั่งไหลให้เจ้าของซึมซาบแต่เพียงผู้เดียว
นี่...เป็นเรื่องแห่งปัจจัตตังเลยทีเดียว เจ้าของเอง ก็จำได้มั่งไม่ได้มั่ง มันทำให้เห็นชัดว่า
ใจเรานี้ กับการปรุงแห่งจิตที่มันสาธยายธรรม มันคนละตัวกัน
ความเป็นเจ้าของนี่อย่างหนึ่ง เราคิดเราอ่าน เราทำ...