ยึดศีล…..ก็ทุกข์ ท่อน 2

ยึดศีล…..ก็ทุกข์ ท่อน 2

1443
0
แบ่งปัน
…ว่าจะมาโม้ต่อยามเที่ยง แต่ต้องลงไปทำงาน เพราะกำลังทำแพขนของอยู่ ขาดข้าคน การทำงาน ไม่สะดวก เพราะไม่มีคนวางผัง ว่างแล้วค่อยโม้ต่อต้องลงไปขัดและโป้วไม้เอง ทั้งวัน
จึงไม่ว่าง พอดีฝนพรำลงมา จึงต้องรอ และต้องบอกแนวให้ท่านมหาเชื่อมเหล็กอีก เพราะใช้มานาน พังและผุเยอะ

พวกเรามา จะได้มีแพออกไปรับได้ ไม่งั้นก็ต้องว่ายน้ำกันเข้ามา 3 กิโลเอง น้ำลึกแค่ร้อยกว่าเมตรเอง ไม่ค่อยน่ากลัวเท่าไหร่ มีตัวอะไรแปลกๆ  ด้วยคอยงับขา

เมื่อเช้าโม้ถึงไหนแล้วหนอ จะมาโม้ต่อให้ฟังเดี๋ยวดึกไป ง่วงนอนอีก

อ้อ..โม้ถึงตรงนี้

พราหมณ์ถามว่า แล้วศีลที่บริสุทธ์ในความเป็นพุทธ มันเป็นอย่างไร ถึงจะได้เรียกว่า มันเป็นใจ ที่มีศีลบริสุทธิ์

เพราะศีลที่บริสุทธิ์ ย่อมบริสุทธิ์ได้ ด้วยข้อศีล ใจไม่มีข้อศีลย่อมไม่บริสุทธิ์

นี่..พราหมณ์ยุคนั้นกะคนยุคนี้ คิดเหมือนกัน อาศัยตำราและว่ากันสืบๆ กันมา เป็นสรณะ

พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า พราหมณ์ … นี่โม้เดาเอานะ เพราะไม่มีในตำราเขาเขียนบอกไว้

ถ้าเขามาทำร้ายเรา

มาเบียดเบียนเรา

มาขโมยของของเรา

มาเป็นชู้กับลูกเมียเรา หรือคนของเรา

มาโกหกเรา พราหมณ์ชอบไหม..??

พราหมณ์ตอบว่า ไม่ชอบแน่ หากใครเขามาทำกับเราเช่นนั้น ใครๆ ก็ย่อมไม่ชอบ

พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า..

แล้วถ้าเราไปทำเช่นนี้กับใครเขา ใครๆ เขาจะชอบที่เราทำไหม..??

พราหมณ์ตอบว่า ใครๆ เขาก็คงไม่ชอบเหมือนกัน

หากเขาทำกับเรา เราไม่ชอบ แต่เราชอบที่จะกระทำกับเขา อย่างนี้คนดีหรือเลว

พราหมณ์ตอบว่า.. คนเลวซิ เช่นนี้คนเลวแน่ๆ

พระพุทธองค์ทรงถามว่า.. คนเลว เมื่อกายแตกตายไป จิตย่อมไปมืดหรือสว่าง

พราหมณ์ตอบว่า.. ไปมืด คนเลวตายไปย่อมไปมืด

พระพุทธองค์ สาธุคุณที่พราหมณ์ตอบ

แล้วทรงตรัสถามว่า..

หากเขาทำเรา เราไม่ชอบ เราก็พึงมีสติ ยับยั้งใจเรา ไม่ควรไปทำลายทำร้ายต่อเขาเช่นกัน เพราะเขาก็คงไม่ชอบเหมือนกับเรา คนเช่นนี้ เป็นคนดีหรือคนเลว

พราหมณ์บอกว่า.. อย่างนี้เป็นคนดี

คนดีกายแตกตายเมื่อไหร่ จิตไปมืดหรือสว่าง

พราหมณ์ ตอบว่า..  คนดีก็ย่อมไปสว่าง เพราะความที่เป็นคนดี

พระพุทธองค์ทรงสาธุคุณ แล้วตรัสว่า นี่แหละคือใจที่เป็นศีล ศีลแห่งใจอันมีสติยั้งคิดเช่นนี้ มันอาศัยศีลเป็นข้อๆ ตรงไหน

ความบริสุทธิ์แห่งศีล มันเกิดที่ใจ ใช่ที่ข้อศีล

ศีลนี้ อาศัย สติ

สติ อาศัย การพิจารณา

การพิจารณา อาศัย ศรัทธา

ศรัทธา อาศัย การฟังธรรมจากสัตบุรุษ

การฟังธรรมจากสัตบุรุษ จะช่วยให้ใจ มองเห็นความจริงที่ซ่อนตัวอยู่เบื้องหน้าได้ นี่..คือใจที่เป็นศีล

ศีลเช่นนี้ รักษาเจ้าของ ไม่ให้เดือดร้อนจากข้าศึก ใจเจ้าของมีความละอายต่อการเบียดเบียน การขโมย การเป็นชู้ การโกหก

ผู้มีความละอายต่อสิ่งเหล่านี้ ย่อมเป็นคนดี ย่อมเป็นใจที่เป็นอริยชน ที่เหล่ามนุษย์หรือเหล่าพรหมเทวา ทั่วสากลโลกพิภพ ต่างก็แย้งไม่ได้ นี่คือศีลแห่งใจ ที่จะก้าวไปสู่การปิดอบายภูมิ

นี่..เรื่องที่มาแห่งศีล 5 ของชาวพุทธเรา ท่านทรงกล่าวไว้เป็นข้อย่อ ในเหล่าข้อศีลทั้งหลาย ที่โลกเขานิยมกัน ไม่จำเป็นต้องกล่าวไกลไปในทุกๆ  ข้อ

แค่ยกตัวอย่างมาประกอบ ว่าใจที่มีความละอายต่อบาป เพียงอย่างเดียว ศีลจะมีซักล้านข้อ มันก็บริสุทธิ์ทั้งล้านข้อ

ข้อศีลเป็นเพียงคอกกั้นใจ ไม่ให้ไหลออกไปนอกคอก ยามอยู่กับหมู่เหล่าเท่านั้

คนที่ยึดข้อศีลเป็นข้อๆ โดนเฉพาะพวกพระ ที่ชอบโม้ว่า ตนมีศีลมากถึง 227 ข้อ

เอาความมีมากข้อ ไปฟาดฟันผู้อื่น ดุจตนนี้เป็นเทวดา เพราะมีศีลมากข้อ

ข้อศีลเหล่านี้ หากใจมันยังเหี้ยยย อยู่ ต่อให้มีเป็นล้านข้อ มันก็เป็นพระเหี้ยยยๆ

และพระเหี้ยๆ มีมากซะด้วย เขาให้บวชมาเพื่อเอาออก บวชมาเพื่อแสวงหาความพอดี  แต่นี่ ส่วนใหญ่ มีแต่บวชมาสะสม กันชิบหายวายป่วง

ชาวบ้านมีอะไร มาเหอะในวัดมีหมด และมีดียิ่งกว่าชาวบ้านที่ไปขอเขาแดกอีก ห้องปูพรม เฟอร์นิเจอร์ชั้นดี ยังกะวัง ทีวี แอร์ ตู้เย็น รถยนต์ เงินในบัญชี มีหมด

ขอให้วางท่าดี พูดเพราะๆ หน่อย บวชนานๆ ท่วงท่าดูสงบ แกล้งนั่งหลับตาหน่อย เย็ดเข้เอ๊ย…!! ชาวบ้านหลงประเคนให้ชิบหาย

ธรรมมันไม่มีอะไรมาสอนใจตน แล้วจะไปชี้ทางให้ใครออกจากสมมุติได้ เป็นได้แค่เอาธรรมจากตำรา จากวลีครูบาอาจารย์ ลอกๆ กันออกมา แล้วโม้ๆ ยัดส่งไป

นักบวชชาวพุทธเรา หลอกลวงตัวเองและโลกกันชิ๊บหาย หลอกกันโดยไม่รู้ตัว เพราะตนโง่และไร้ปัญญาพิจารณาเป็นเหตุ

อ้าว..ชิ๊บหายนี่มันในเฟสนี่หว่า ลืมไป นึกว่าโม้อยู่ในไลน์กับน้องๆ ล่อภาษาเพื่อนฝูงกันซะ แต่ข้าไม่สนน่ะ จริตมันไปแล้ว

เออ..ๆๆ เข้าเรื่องต่ออีก

ส่วนเรื่องการดื่มสุรานี้ อรรถาจารย์ ท่านใส่ไว้ภายหลัง ในข้อศีลที่พระพุทธองค์ท่านได้ทรงกล่าวกับพราหมณ์

กล่าวเมื่อไหร่ยังไงไม่รู้ แต่ที่รู้ๆ นัยยะแห่งข้อศีลมีมาในแนวนี้ ตอนประกาศศาสนา

การกล่าวยกตัวอย่างในข้อศีลที่โลกเขานิยมกัน เพื่อชี้ให้เห็นใจที่เป็นศีล ศาสนาเรา นำพุทธโอวาทนี้ มาเตือนสอนใจ นำมาเป็นคอกกั้นไม่ให้ใจ ทะยานแหกออกไปยังนอกคอก

หากรักษาใจไม่ได้ ก็ขอให้ใจอยู่ในวงล้อมแห่งคอกนี้ ใจดวงนี้ ยังไงก็พอไปสว่างได้ เพราะมีข้อต่างๆ เป็นที่ตั้งและเตือนใจ อย่างน้อย ก็ไม่ต้องถืออะไรให้มากๆ ข้อ

เอากันแค่ ไม่เบียดเบียนกัน ไม่ขโมยของกัน ไม่เป็นชู้กัน ไม่โกหกกัน แค่นี้ ปุถุชนทั่วไป ก็แทบแย่กันอยู่แล้ว

ศีลสี่ห้าข้อนี้แสนหนัก แต่ความชั่วจัญไร ไม่มีระบุเป็นข้อ เพราะทำได้สบายง่ายดายชิ๊บหาย

นี่..ใจยังจัญไร ของง่ายๆ ดันคิดมากและทำยากเย็น โหยยย คนใจชั่วมักกล่าวว่า ศีลห้ารักษายากชิบหาย ใจอ่อนแอเช่นนี้ควรไปฝังตัวในนรก นั่นแหละคู่ควร

ข้อศีลเหล่านี้ แม้รักษาดี หรือแม้แต่ใจที่มีความละอาย ไม่กล้าทำชั่ว แต่ถ้าโดนสุราเข้าไปซักสองสามแก้ว แม้พระอรหันต์ ก็สิ้นลายกลายเป็นใส้เดือนได้เหมือนกัน

เพราะเรา มันทำให้ขาดสติ เมื่อเมามาย มันก็จะไปทำลายใจและความดีทุกอย่างในทุกข้อศีล

ความละอายที่มี มันก็จะไม่มี ใจมันครองสติและสัมปชัญญะไม่ได้ พิษสุรา มันทำลายแม้แต่พระผู้ทรงคุณขั้นสูงสุด หากหวดเข้าไปซักกลมสองกลม

อย่างข้านี้ แค่ดมๆ ก็เมาหัวทิ่มส้วมแล้ว ทั้งบุหรี่และเหล้า แม้แต่การพนัน มันไม่เอาไม่คบกันมา ตั้งแต่ก่อนเกิดอีก นี่..ก็ไม่เข้าใจมันเหมือนกัน ว่าทำไมใจถึงไม่เอา

สุราแม้เป็นข้อห้าม ในข้อศีล แต่ขอให้ทราบอย่างหนึ่งก็คือ พุทธศาสนา ไม่มีข้อห้าม ในศีล 5 ไม่มีข้อห้ามซักข้อ

พุทธศาสนา แค่ชี้ให้เห็นโทษแห่งการมีใจเขาใจเรา หากฆ่า ท่านก็จะมีวิบากที่ต้องรับ จะขโมย จะโกหก จะเป็นชู้ ไม่ว่ากระทำในสิ่งใดๆ ต่อผู้อื่น มันมีผลแห่งวิบากที่เราต้องเผชิญ

ท่านชี้ให้เห็นเหตุและผลในวิบาก หากเจ้าของกระทำกรรมในสิ่งเหล่านี้ขึ้นมา ท่านไม่ได้ห้าม

แต่หมู่เรากลับนำเอาข้อศีลเหล่านี้ มายัดเยียดว่าเป็นข้อห้าม ฝรั่งมันยังเคยมาด่าข้าเลยว่า..

พุทธศาสนานี้ จำกัดสิทธิมนุษยชน ห้ามนู่นห้ามนี่ ข้อห้ามเยอะชิบหาย และคนก็ยึดติดข้อห้ามกัน แล้วชี้สอน ความเป็นอนัตตา ฝรั่งก็ถุยใส่ เท่านั้นเอง

พุทธศาสนานี้ ไม่มีข้อห้าม ข้อห้ามทั้งหลาย เป็นเรื่องของพวกนอกศาสนา ที่ทำความเลวระยำมา มันจึงโดนข้อห้ามว่า อย่าทำ หากอยากเป็นทายาทแห่งพุทธบุตร

ใจที่ได้รับการอบรมในคอกศีลนั่นแหละ จะเป็น 227 311 10 8 หรือ 5 เมื่อเข้าใจดีแล้ว ข้อศีลเหล่านี้ ไม่มีความหมาย เป็นคอกกั้นที่โดนทำลาย ด้วยปัญญาที่เข้าถึงความเป็น พุทธิจิต

การดื่มสุรา หากเราตั้งสัจจะเอาไว้ มีลิมิตอาณาเขตแห่งการตั้งจิตอธิฐาน ว่าขอดื่มแค่ ขวดเดียว แค่ครึ่งขวด หรือแค่แก้วเดียว ต่อวัน จากไม่เคยมีลิมิตให้กับใจตนเอง

อย่างนี้ เรียกว่า เป็นผู้มีศีล ไม่ได้ขาดจากศีลเพราะการดื่มสุรา ไม่ต้องหยุดหรอก แต่ถ้างดขาดได้ก็ดี ถือเป็นยอดคน แม่งดื่มมาตั้งหลายปี เป็นคนดี ไม่ใช่การหยุดแดกเหล้าว้อย

คนดีคือคนรู้จักยับยั่งชั่งใจ 1 ขวดเมา ก็ลดลงมาเหลือครึ่งขวด ครึ่งขวดเมา ก็ลดลงมาเหลือแค่แก้วเดียว ดื่มแค่อย่าให้ขาดสติ

มันต้องตั้งสัจจะไว้ วันหนึ่งหากจะกินเหล้า ขอกินแค่แก้วเดียว อะไรอย่างนี้ ตั้งสัจจะและละอายคำอธิฐานตนเองให้ดี แค่นี้ก็ถือว่าเป็นผู้มีศีล

ศีลมันไม่ได้ชั่วดีที่ปากใครมาพยากรณ์ให้นี่หว่า ศีลนี้มันเป็นความปกติใจของเจ้าของเอง

ไม่ใช่ว่า ทำผิดในข้อห้ามนิดหน่อย ประเทศไทยจะพากันล่มจมนี่

หากเราทำผิดข้อศีล เป็นปกติ จิตมันก็มีวิบากทางนรก เป็นที่ไป เราเป็นคนไป ใช่มีใครมาไปแทนเรานี่

เราเป็นผู้เลือก ที่จะลิขิตชีวิตจิตใจเรา หากเลือกเลว ก็ไปมืด หากเลือกดี ก็ไปสว่าง

จะไปมืดหรือสว่าง เราเป็นผู้ไปคนเดียว ฉะนั้น จะมีศีลหรือไม่มีศีล ขอให้ใจเริ่มต้นที่ความละอายชั่ว กลัวบาป พิจารณาใจเขาใจเรา ให้มากๆ เอาไว้ก่อน

คืนนี้ ขอพอแค่นี้ ขอความสุขความสวัสดี พึงมีกับทุกคน

พระธรรมเทศนา จากบทธรรม เรื่อง จิตเป็นเหตุ…ใจจึงมี ณ วันที่ 7 กรกฏาคม 2557 โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง