*** “เกลียดดด แล้วได้อะไร” ***
คนเรานี่เกิดมาย่อมมีรักมีเกลียด นี่เป็นธรรมดา
มันเป็นพื้นฐานเครื่องอยู่ของความเป็นมนุษย์เรา
ยามเกลียด มันก็ผลักใสแหละ ดีแค่ไหนก็ไม่อยากเห็นหน้า รับรู้ รับฟังอะไร กับคนที่เกลียด
ซ้ำมาลามไปเกลียดวัตถุ สิ่งของ หรืออะไรต่ออะไรกับคนที่ตนเกลียด
มันเกี่ยวอะไรกับวัตถุสิ่งของด้วย อันนี้มันเป็นพวกหลง ไม่ชอบคน พาลเกลียดไปถึงวัตถุ
สาวคนหนึ่งเอาตุ๊กตาแสนสวยมาทุบๆๆๆแล้วกรีดฉีกด้วยคมมีด เพียงเพราะคนรักเธอนอกใจไปกับใครอื่น
ตุ๊กตาไม่รู้เรื่องอะไรด้วยเลย ซวยไปกับอารมณ์ที่ผุดออกมาจากความเกลียดชัง
รู้ไหม..ในเกลียดนั้นก็มีรักอยู่ แต่ยามนั้นเจ้าตัวมองไม่เห็น มันแช่แข็งอยู่กับความเกลียดชัง
คนเราเกลียดได้ พอๆกับรักได้ ยามรักนี่ อะไรๆๆก็ดีไปซะหมด เลวร้ายแค่ไหนก็ดี มันยอมได้เพราะใจรัก
รักกับเกลียดนี่จริงๆมันเป็นตัวเดียวกัน เหมือนอุณหภูมิ ร้อนกับเย็น
ร้อนมากก็อยู่ยาก พอๆกับเย็นมากก็อยู่ยากเช่นกัน อะไรที่พอดีๆน่ะอยู่สบายมากกว่า
เราห้ามไม่ให้เกลียดนั้นไม่ได้ พอๆกับห้ามไม่ให้รักนั้นก็ไม่ได้เช่นกัน
ทั้งสองส่วนนี้ผลมันแตกต่างกันในสิ่งที่ต้องรับ แต่มันก็เกิดจากอารมณ์จากเราทั้งคู่
หากเกลียดเป็นบาป รักก็เป็นบาปเช่นเดียวกัน เพราะมีผลที่ต้องเสวยเหมือนกัน แตกต่างแค่ความรู้สึกที่ได้รับ
เกลียดเป็นหนามแหลมที่ทิ่มแทงใจ รักเป็นน้ำผึ้งชโลมใจ คนเราจึงต้องการความรัก และต้องการความรักที่ได้ดั่งใจ
และสิ่งที่เราคาดไม่ถึงก็คือ ความรักที่ไม่ได้ดั่งใจนั่นแหละที่มันแปลงกาย กลายเป็นเกลียด รักมากก็เกลียดมากแหละ
คนที่ตกเป็นทาสของความเกลียดชัง ตายไปมีสิทธิไปเป็นสัตว์และอสูรกายที่น่าเกลียดน่ากลัว ขึ้นอยู่กับอารมณ์มากน้อยแค่ไหน
เกิดมาใหม่ รูปกาย ไม่งาม น่าชัง เหม็น อยู่ฟากพวกน่าผลักใส
ผู้มีความรักต่อกัน มองเห็นมิตรภาพที่ดีต่อกัน ให้โอกาสกัน อภัยกัน เข้าใจต่อกัน
พวกนี้ตายไป ไปเกิดในภพภูมที่ดีที่งาม เกิดมาเป็นผู้มีรูปสวยงาม น่าใครน่ามอง เจริญตาเจริญใจ
อย่าเชียว..อย่าให้ความเกลียดมันเชี่ยวกรากในหัวใจ มองเห็นเขา ให้เหมือนที่เราเห็นตัวเรา
รักเราเช่นไร ควรพึงทำใจรักเขาเช่นนั้น แต่ยากชิบหายวายป่วง
อย่าให้ความเกลียดเราปนเปื้อนในหัวใจ หัดอภัยต่อใครๆ เพื่ออบรมหัวใจเราที่เหลือเวลาย้อมสิ่งดีๆอีกไม่นานนี้ ให้เรา เพื่อเรา เดินออกไปคนเดียวอย่างสง่างาม
ยังไงเราก็ต้องตายต้องจากโลกนี้ไป อย่าออกไปพร้อมกับความเกลียดชังที่พกออกไปเต็มหัวใจ
วันที่ท่านจากไป ท่านจะไปแบบบูดๆเบี้ยวๆ แล้วต้องกลับมาร้องขอส่วนบุญต่อใครๆเขาไปทั่ว มันควรไหม
ทำวันนี้ให้ดี หันกลับมารักกันไว้ดีกว่า อย่าไปเอาอัตตาตน แล้วเกลียดชังใครๆเขาฝังในใจเรา
ยิ้มและรักเขาให้เหมือนที่เรารักตัวเอง นี่เป็นมนุษย์เทวาโมเดล
ที่จะจากไปแล้วมีโอกาสกลับมาเป็นมนุษย์ที่สวยสดงดงาม..
บอกแฟนข้างๆว่าอย่าเกลียดเรานะเธอ แค่แบ่งตังค์ไปให้น้องสาวสวยข้างบ้าน
ให้เขาไว้เรียนเป็นค่าเทอมค่ากินค่าหน่วยกิตแค่นี้ ตายไปเราจะได้ไปเป็นเทวดากัน..
พระธรรมเทศนา ณ วันที่ 12 มิถุนายน 2563 โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง