ธรรมแท้ธรรมเทียม

ธรรมแท้ธรรมเทียม

1402
0
แบ่งปัน

กราบนมัสการพระอาจารย์นะค่ะ ทำความดีแล้วต้องโชว์ แต่ส่วนมากจะเป็นความดีปิดทองหลังพระ แบบไหนจะดีกว่ากันเจ้าค่ะ สาธุค่ะ

พระอาจารย์ : การปิดทองหลังพระ เป็นการทำความดีที่ผู้คนมองไม่เห็น

เปรียบเป็นใจที่สูง แต่ไม่ใช่ว่าเราเอาทองไปปิดด้านหลังองค์พระอย่างที่เราเข้าใจ แล้วจะบอกว่า นี่เป็นการทำความดีอะไรอย่างนั้น

การทำความดีโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน เป็นความดีที่สูงยิ่งเปรียบเหมือนเป็นการติดทองหลังพระ

การติดทองจะหน้าพระหรือหลังพระ เป็นแค่การเปรียบเปรอการกระทำ

หากทำด้วยใจที่เป็นกุศล นี่เป็นใจที่ดีงาม ไม่ว่าจะติดทองด้านไหน

แต่หากเป็นใจที่กระทำด้วยใจอกุศล

ไม่ว่าจะติดด้านไหน มันก็เป็นใจที่เลวไปด้วยกันทั้งคู่เหมือนๆ กันน่ะคุณ Shornthanun Khongmunmongkhol

คนเราทั้งหลายนั้นมีมุมเดินมุมคิดหลายด้าน

เป็นเพียงแต่คนเรานั้นมักปกปิดด้านที่เราสมมุติว่ามันเลวมันหยาบไว้

และเราก็มักจะโชว์ในด้านที่ปรุงความเลิศหรูคู่ความเป็นกูอันสูงส่งไว้อวด

เมื่อรู้จักกันคบกันคุยกันด้วยวันเวลาผ่านกาลคืบคลานไป

ความจัญไรทั้งหลายที่ปกปิดไว้มันย่อมเผยหาง

นี่… เป็นธรรมดาของคนทั้งหลาย ที่ไม่ปิดอะไรได้มิดชิด อย่างน้อยเจ้าของก็มองเห็นอยู่
หากที่ซ่อนไว้มันจะเป็นไร

หากนำมาเผยให้เห็น ให้รู้ก่อนมาคบหากัน

ยังไงมันก็ซ่อนอยู่ในตัวเจ้าของ มันไม่ได้หายไปไหน

เปิดๆ กันออกมาให้มันรู้แจ้งจะได้ไม่ต้องเคลือบแคลงใจ

ว่าทำไมแต่ก่อนดี้ดี เดี๋ยวนี้ไง๋เสือกอับปรีย์เหี้ยจัญไรไปซะแล้ว

คนเราเปิดใจกันพูด ว่ากันตรงๆ ตามเหตุปัจจัยและอัธยาศัย

ดีก็แค่นี้ เลวก็แค่นี้ มึงจะคบหรือไม่คบมึงก็เลือกตัดสินใจดู

นี่..คนเรามันเป็นธรรมชาติที่จริงใจ

ไม่ต้องมาหลอกลวงใจใคร ว่าใจนี้มันเป็นดวงใจที่แสนดี

ไอ้ดีและอับปรีย์นี่ มันไม่ได้แยกกันอยู่ห่างไกลเพียงไหน

มันรวมอยู่ในใจดวงนี้ มันมีที่อยู่ในที่แห่งเดียวกัน

ไหนๆ ก็จะคบกัน ก็เปิดๆ ใจกันให้เห็นในส่วนที่ใจซ่อนเร้นกันไปเลย เมื่อคบกันแล้วมันจะได้คบกันนานๆหน่อย

พระธรรมเทศนา จากบทธรรม เรื่อง ” มีดีอะไร มันก็ต้องโชว์ พวกลามกจกเปรตยังโชว์ตัวเกลื่อนโลก ไม่เห็นเป็นเหี้ยอะไร ” ณ วันที่ 31 มีนาคม 2558 โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง

นี่..ข้าโดนด่ามาอีกว่า เอาธรรมเทียมๆมาประกาศหลอกลวงคน ธรรมแท้ต้องเป็นธรรมที่พระพุทธเจ้าพูดโน่น

มันมาตัดสินกันด้วยธรรมแท้ธรรมเทียมกันซะแล้ว มันหวังดีจังกับหน้าเฟสข้านี่

ธรรมแท้ ธรรมเทียมอะไรนี่ มันคือการลวงโลก และถูกโลกลวง

พวกถูกโลกลวงนี้ หากถูกใจ ธรรมเหี้ยอะไรมันก็ถูกใจไปซะหมด

และจะบอกธรรมที่เจ้าของมันถูกใจ ว่าเป็นธรรมแท้

หากธรรมไหนมันไม่ถูกใจ ต่อให้ตรงต่อความหมายตามสัจธรรมเพียงใด

มันก็ไม่ชอบใจ มันยัดเยียดลงไปว่านี่…คือคำแห่งธรรมเทียม

นี่..ไอ้พวกนี้มันเอาภูมิปัญญาด้านดีของมันออกไปตัดสินตามกระแสโลก

ส่วนไอ้พวกลวงโลก มันจะอวดโลกว่าเชื่อกูเหอะ กูเป็นพหูสูตรทางธรรม

แต่มักเอาธรรมที่ถูกใจจากตำรามาเป็นของตัวกู

อะไรที่ตำราไม่ได้เขียน กูว่ามันไม่ใช่

ไอ้ตัวกูนี่มันฝักใฝ่ตำรา มันไม่รู้ว่า ไอ้ตัวกูนี่ มันยังโง่หลายๆ แค่ตีโจทย์ตีความหมายจากตำรา มันยังตีไม่เป็น

แต่มันลวงโลกว่า มันเป็นพหูสูตรรู้หมดจบตำรา

วันหนึ่ง…เมื่อมันได้เขียนตำรา มันก็เขียนด้วยอัตตาโง่ๆ ที่มันเป็นและมันยึด

วันข้างหน้า พวกลูกหลานที่ตามมาเรียนรู้กันมา

ก็ต้องบ้าและยึดตามตำราที่มันเคยยึดและเอาอัตตาขยายเขียนลงไปด้วยความงี่เง่า

ในยุคหน้า สัจธรรมที่ออกจากใจที่บริสุทธิ์และดีงามก็เลือนหายไป

มันก็เหมือนกับคนไทยยุคนี้ ที่ยึดตำราเพราะไม่รู้ว่า ตำราทั้งหลาย มันขยายมาจากภูมิคนแปล

มันไม่รู้มันจึงยึดภูมิคนแปลเป็นธรรมจากพระโอษฐ์

ธรรมจากพระโอษฐ์แห่งภูมิคนแปล มันแปลตื้นๆ ด้านจริยธรรมน่ะมันพอฟัง

แต่พอไปแปลธรรมในความหมายเชิงลึกแห่งจิต อันเป็นสัจธรรม ภูมิธรรมมันแปลเข้าไปไม่ถึง

เมื่อไม่ถึง มันก็เป็นการแปลไปตามภูมิธรรมตน ที่เข้าใจอันเนื่องมาจากตำราที่ตนเรียนรู้มา

ผู้ตามมาศึกษาธรรมตามตำรา เอาแค่ประเด็นของประโยคแปลด้วยอักษรวิจิตร

มันคิดลึกลงไปตามกฏ อิธทัปปัจจยตาไม่เป็นเลย

มันเอากฏกูที่เข้าใจ ลงไปแปลและเข้าใจความหมายตามที่กูเป็น

นี่..สัจธรรมที่เลือนหาย กลายเป็นธรรมแห่งกู แต่บอกตะโกนก้องไป ว่าธรรมแห่งกูชอบใจทั้งหลายนี่ …พระพุทธเจ้าพูด

มันเสือกพูดแทนพระพุทธเจ้าซะนี่

ว่านี่ธรรมแท้ ว่านี่ธรรมเทียม เดี๋ยวข้าก็ด่าซะเลย อ้ายยย..เหี้ยยย..!!

พระธรรมเทศนา จากบทธรรม เรื่อง ” มีดีอะไร มันก็ต้องโชว์ พวกลามกจกเปรตยังโชว์ตัวเกลื่อนโลก ไม่เห็นเป็นเหี้ยอะไร ” ณ วันที่ 31 มีนาคม 2558 โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง