*** “ใจเขาใจเรา” ***
ถ้าเรายื่นมือไปข้างหน้า ไม่มีมือใดมือหนึ่งยื่นตอบกลับมา เราจะรู้ว่า มือเราไม่มีค่าสำหรับใครๆเลย..
ยามใดที่เราอับจนสิ้นไร้หนทาง หากมือที่ยื่นไปของเรายังมีค่า อีกมือที่ยื่นมา เขาจะช่วยจับและพยุงมือเราที่เดียวดายและไขว่คว้า
ยามใดที่สิ้นแล้วความรัก มือเราที่ยื่นออกไปไข่วคว้า มือที่เราต้องการ มือเดียวของใครคนนั้น
สร้างความไร้ค่า ว่างเปล่าต่อมือที่เอื้อมไปอย่างเดียวดายของเรา
ยามใดที่เราเอื้อมมือเพื่อรอรับความเมตตา ความรัก ความเอื้ออาทรต่อกัน ด้วยความหิวโหย ตรอมตรม ทุกข์ระทม แล้วว่างเปล่าจากมือที่ตอบรับ..
นั่นเพราะว่า..เราเองนั้น ยามมีมือที่แข็งแรง เราไม่ค่อยได้สร้างคุณค่าให้แก่มือที่มันมี
เราไม่ค่อยจะหยิบยื่นสิ่งดีๆ ความรัก ความเอื้ออาทร ความเมตตาสงสาร ต่อใครๆเท่าไหร่นัก
อาจจะเป็นมือที่เอาแต่ได้ กักตุน หน่วงเหนี่ยว เอาเปรียบต่อมือใครๆที่เขาหยิบยื่นและไขว่คว้าเข้ามาหามือเรา
ชีวิตนั้น อย่าเอาแต่ความรู้สึกของเราฝ่ายเดียว หัดรองรับมือที่ใครๆเอื้อมเข้ามาหาบ้าง
เราสร้างค่าด้วยการหัดเอื้อมมือของเรา เข้าไปช่วยเข้าไปคว้าเข้าไปจับ มือที่อ้างว้าง
เปล่าเปลี่ยวพยุงมือที่ดูเหมือนไร้ค่าและหมดพลังนั้นบ้าง
วันหนึ่ง..มือที่ไร้ค่าและหมดพลังนั้น อาจเป็นมือของเราเอง ที่พยายามไขว่คว้าความว่างเปล่าจากมือใครๆ
หมั่นนึกถึงใจเขาใจเรา สร้างค่าให้แก่ใจเราใจเขา ด้วยการเอื้อมมือของเรา เข้าไปช่วยเข้าไปโอบกอดใครๆเขาก่อน
มือที่มีค่า ย่อมสร้างขึ้นมาจากการเป็นผู้ให้ทั้งสิ้น เราต่างสร้างมันขึ้นมาได้
เอื้อมมือของเราออกไปช่วยใครๆเขาก่อน อย่ารอแต่ให้ใครๆเอื้อมมือมาหาแต่เรา
สร้างคุณค่าวันนี้ให้ดีต่อมือของเรา วันหนึ่งเราอาจมีมือที่ต้องยื่นออกไปไขว่คว้าให้ใครเขามาช่วยพยุงบ้างก็ได้
โลกนั่นไม่มีอะไรแน่นอน ไม่มีอะไรได้ดั่งใจ ธรรมชาติเป็นเช่นนี้ หัดสร้างและยอมรับมันให้ได้ด้วยมือของเรา
วันนี้ไอ้ชาย มือมันมีค่า มันใส่เลสทองคำหนาๆ ชอบเอื้อมมือไปโชว์ใครๆเขา มีอีกมือเอาอีโต้ตัดฉับเข้าให้ ลากมือมันไป หายจ๋อยทั้งเลสทั้งมือ..
พระธรรมเทศนา ณ วันที่ 21 พฤษภาคม 2563
โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง