สหธรรมิก : ผมขอโอกาส และขออนุญาติพระอาจารย์นะครับ ผมช่วยเหลือคนป่วยเกี่ยวกับสิ่งที่มองไม่เห็น ประมาณว่าพวกถูกผีเข้า โดนของ แต่ผมไม่หวังผลตอบแทน
ทุกครั้งที่ผมรักษาเขาหายผมจะสุขใจครับ แต่ผมไม่มีเวทมนต์คาถาครับ ไม่ได้เรียน แต่มันเหมือนมีพลังในตัวเวลาช่วยคนแต่ไม่ใช่ร่างทรงครับ
ผมสงสัยมานานแล้วครับเกี่ยวกับพลังในตัว จนผมได้ธุดงค์ไปเจอผู้รู้ท่านนึงที่สื่อกับเทพภูมิเทวดาได้ ท่านจึงไขคำตอบให้ผม และแนะนำผมหลายอย่าง ผมทำตามท่านก็บังเกิดผลจริงครับ
ท่านจะแจงให้ผมฟังเมื่อ 3 ชาติคืนหลังที่ผ่านมาผมเป็นใครมายังไงครับ หากผู้สัมผัสสิ่งเหล่านี้ไม่ได้ก็จะถูกมองว่างมงายไปครับ เพราะทุกวันนี้ของจริงก็มี ของหรอกตาหาเงินก็เยอะครับ
แต่เรื่องแบบนี้หากผมพูดมากก็จะกลายเป็นอวดอุตริ จึงต้องระวังมากครับ
เมื่อวานผมเจอท่านผู้เฒ่า ผมจึงถือโอกาสถามเกี่ยวกับพระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลังครับ
อันนี้คือคำพูดท่านนะครับ
ผมถามท่านว่าพระอาจารย์ธรรมะกะเป็นใคร บารมีอยู่ขั้นไหน จะสร้างพระใหญ่เสร็จไหม
ท่านตอบว่า บารมีของพระอาจารย์รูปนี้ไม่ธรรมดา จะชอบอยู่ภูเขาติดน้ำ
เพราะแต่ก่อน ท่านเป็นพญางูใหญ่ (พญานาค)อยู่ที่ภูเขาเล็กๆ ที่สร้างวัดปัจจุบันนี้ครับ บำเพ็ญที่เกาะนี้มาสองชาติ จนชาตินี้ได้บวชเป็นพระ บารมีอยู่ขั้นที่7แล้ว
ซึ่งคำว่าขั้นที่7ผมนี้ถือว่าสูงมากนะครับ ในประเทศไทยมีไม่กี่รูปครับ
รุกขเทวดาที่วัดตอนนี้เป็นสายพญานาคทั้งหมดครับ บริวารเดิมพระอาจารย์เยอะครับ แต่ยังมาไม่หมด
ท่านบอกว่า พระอาจารย์จะสร้างพระได้สำเร็จครับ แต่ต้องสร้างพญานาคก่อน ถึงจะไปได้แบบไม่มีอุปสรรค
แต่ถ้าไม่สร้างพญานาคพระอาจารย์จะสร้างได้แต่ช้า และเหนื่อยครับ
ผมไม่มีเจตนาจะให้ทุกคนงมงายนะครับ ก็ควรใช้วิจารณะญานของแต่ละบุคคลครับ
แต่อยู่ๆผมนึกยังไงไม่รู้ครับ จึงอยากช่วยและร่วมเป็นเจ้าภาพด้วยครับ ผมขมาขอโทษพระอาจารย์ นะครับ หากสิ่งที่ผมนำมาเล่าสู่ฟังเป็นการไม่ควร น้อมกราบสาธุครับ
ขอเป็นเจ้าภาพร่วม10,000บาทขอหมายเลขบัญชีทางวัดด้วยนะ คุณโยมRongrat พอดีคุณมะเดียวศรี บุญญพลัง ติดต่อรับเรื่อง การร่วมเป็นเจ้าภาพสร้างฐานพระใหญ่ แล้วนะจึงขอแจ้งเพื่อทราบครับ สาธุ
พระอาจารย์ : ขอสาธุคุณ พระอาจารย์ ศิษย์ปู่ชัยแก้ว ดานพระอินทร์
ถ้าจะว่ากันถึงเรื่องการบำเพ็ญ ณ.สถานที่ตรงนี้แล้ว เรามาฟังหนุกๆ เป็นนิทานกัน
ถ้าพูดถึงผู้คนต่างๆแล้ว มักจะโต่งทางความคิดของตนเอง เรียกว่า ยึดความคิด
เมื่อยึดความคิด อะไรที่หลุดไปจากความคิดเห็นแห่งตนก็จะตำหนิ
บางสิ่งแค่เล่าให้ฟัง ว่ามันเป็นของมันอย่างนั้นอย่างนี้ ฟังกันเอาหนุกก็ได้ ไม่ใช่ว่า ตนเองไม่เคยพบเห็น แล้วจะไปตัดสินว่า สิ่งที่ผู้อื่นกล่าว ผู้อื่นพูด มันไม่มีจริง ไม่ใช่ความจริง
ตัดสินด้วยความคิดตนเอง เพราะตนเองไม่เคยรู้ไม่เคยเห็น และเป็นไปไม่ได้ ไม่มีไม่ใช่อย่างนั้นอย่างนี้เป็นเหตุ
คนเราถ้าไม่ได้เป็นศัตรูกัน การฟังกันเป็นนิทานก็ได้ ฟังกันหนุกๆก็ได้ ฟังเรื่องแปลกๆออกไปจากความคิดเห็นของเราบ้างก็ได้
ใจมันจะได้รับข้อมูลอันหลากหลายในมุมมองเรื่องแปลกๆกันบ้าง จริงไม่จริงก็ช่างแม่งมันเหอะ คนฉลาดมันแยกแยะกันได้
ถ้าฟังแล้วเสือกงมงาย เชื่อชิบหาย นี่ก็เป็นเรื่องของเขา ข้าเองนี่ หัวรั้นและดื้อจะตาย ในเรื่องความเชื่อ แต่ก็ได้เผชิญเรื่องแปลกๆอันหลากหลายมากมาย ยิ่งเรื่องทางจิตนี่ มันยิ่งพิศดารโคตรๆจะบอกให้
ข้าจะเล่านิทานเรื่องสถานที่ ที่สร้างพระแห่งบุญพลังให้ฟ้ง ฟังกันหนุกๆ
เมื่อครั้งเหยียบเกาะครั้งแรกๆ เหล่าผีบนเกาะ ต่างพากันเรียกว่า หลวงตามาแล้ว
เมื่อเรียกว่าหลวงตา ก็เลยเคือง ไม่ขึ้นไปเหยียบบนเกาะซะเป็นปีๆ นี่หูมันได้ยินอยู่คนเดียว
เพราะไอ้เราเอง มันยังหนุ่มอยู่ มาเรียกหลวงตา ไม่เตะปากนี่ ก็บุญโขแล้ว
ที่เรียกว่าเกาะนี้ จริงๆ ก็ไม่ใช่เกาะ มันเป็นแค่ยอดภูเขาที่น้ำมันท่วมไม่ถึง มีพื้นที่ราวๆ 4 ไร่
แต่ยอดภูเขานี้ มีพยานาคนามว่า ท่าน นันทะนาคราช
เป็นพยานาค สีเขียวเหลือบทอง เฝ้าดูแลสถานที่อยู่
ส่วนภูเขาอีกฟากที่ตั้งองค์พระ เป็นของฝ่ายยักษ์
นี่เห็นไหม ชักหนุกขึ้นมาแล้ว ไม่ใช่ว่าข้าจะรู้เห็นเพียงแค่คนเดียวนะ หลายคนเขาก็รู้เห็นกัน แต่การรู้เห็นสัญญามันอาจไม่เหมือนกัน
ถ้าว่ากันถึงเรื่องอดีตชาติ ที่ตรงนี้ เคยมาเกิดบำเพ็ญมากกว่า 1,500 ชาติ
และได้เป็นอาจารย์ หรือหลวงตาแห่งนาคทุกชาติ
ที่ตรงนี้ เป็นสถานที่สำคัญของการสร้างเปลือก เพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนา
ผู้นำในการสร้างในยุคที่ผ่านมา ต่างมีธรรมเต็มภูมิ ต่างทำกุศลภูมิมาเต็มทั้งนั้น วิบากแห่งภูมิ จะนำกระแสมาชดใช้ให้แก่ศาสนา
ผู้นำสร้างองค์พระพุทธะ ต่างเป็นผู้ปรารถนาพุทธภูมิกันทุกท่าน
เมื่อธรรมเวียนมาเต็มภูมิ วิบากจะก่อให้เกิดการชดใช้
การชดใช้นี้ คือการสร้างองค์พระให้กับแผ่นดิน คืนการปรารถนาพุทธภูมิที่เคยปราวนา มุ่งสู่พระพระนิพพานเป็นที่ตั้ง ในภพชาติปัจจุบัน ก็ต้องมาชดใช้ให้แก่ผืนแผ่นดินกัน
และการสร้างองค์พระพุทธะ องค์ใหญ่อย่างยิ่งใหญ่ เป็นการชดใช้ให้แก่แผ่นดินอย่างเต็มภูมิ
ในยุคของพระพุทธองค์เจ้า ซึ่งพระนามว่า พระกกุสนโธ
ที่นี้ องค์พระพุทธะก็ได้กำเนิดขึ้นมาแล้ว
ในสมัยของ พระพุทธ โกนาคม องค์พระพุทธะ ก็มีมาแล้ว
ในสมัยของ พระพุทธ กัสปะ องค์พระพุทธะก็มีมาแล้ว
มาในยุคสมัยของพระบรมครูของเรา องค์พระสมณะโคดม
พวกเรากำลังร่วมแรงกายใจในการสร้างอยู่
องค์ปฏิมาพระพุทธะ เกิดจากอำนาจแห่งกระแสจิตในการดำเนินการสร้างขึ้น
ตั้งแต่การปั้นที่ผู้ปั้นไม่เคยปั้นอะไรเป็นมาก่อน ปั้นเป็นองค์ปฏิมาขึ้นมาได้
นี่เป็นปฏิหาริ์ที่คนภายนอก ไม่เคยรู้เห็น
การสร้างก็ไม่เคยมีตังค์ซักบาท แต่ก็ยังมีความเสือกที่จะสร้างขึ้นมาอีก นี่ก็ปาฏิหาริ์
สร้างโดยไม่มีเครื่องมืออะไร และหนทางลำบากไกลแสนไกล ด้วยความศรัทธาของผู้คนนับแสน นี่ก็เป็นปาฏิหาริ์
องค์พระพุทธะนี้ เป็นปฏิมาที่สร้างขึ้นมา เป็นตัวแทนของการบรรลุธรรม ตรัสรู้ธรรม ของพระพุทธเจ้า ทุกๆ พระองค์
ไม่ได้เป็นองค์แทนของพระพุทธเจ้า พระองค์ใดพระองค์หนึ่ง
เมื่อพระพุทธเจ้าพระองค์ใด ปรินิพพานไปแล้ว องค์พระพุทธะจะมีบุรุษผู้ต้องวิบาก แห่งสัจจะอธิฐาน มาเป็นผู้นำสร้างขึ้นมา
เพื่อเป็นที่ตั้งแห่งใจ ของพุทธศานิกชนหลังพระพุทธองค์เจ้าเข้าสู่พระนิพพานไปแล้ว
ลึกลงไป 48 กิโล หรือ 3 โยชน์ องค์พระพุทธะแห่ง พระกกุสันธะ ก็ยังสถิตย์อยู่เป็นซากใต้พื้นดิน
ลึกลงไป 32 กิโล องค์พระพุทธะแห่ง พระโกมาคมะ ก็ยังมีซากสถิตย์อยู่
ลึกลงไป 16 กิโล องค์พระพุทธะแห่ง พระพุทธกัสปะ ก็ยังคงมีซากสถิตย์อยู่
มายุคนี้ เพิ่งมีฐานไม่กี่ฐาน ตั้งรอการสร้างอยู่
และทุกๆพระองค์ ท่านนันทะนาคราช เป็นผู้ดูแลทุกๆพระองค์ ในมหากัปป์นี้
นี่เป็นนิทานคร่าวๆ ที่ผีเขาโม้มาให้ข้าฟังอีกที ข้าฟังจากผีๆที่นี่เขาโม้มาให้ฟัง ข้าจึงนำมาโม้ให้พวกเราฟังต่อ
นี่ถ้าเป็นเรื่องจริงละก็ เอาไปสร้างหนังฮอลิวูดได้เลย
คุยกันเล่นๆ เป็นนิทานยามหัวค่ำ
อ้อ ผีบอกว่า ทั้งสามโลก ทั้งผีน้อยผีใหญ่ ไม่มีผีไหน ทั้งผีในชั้นพรหม ชั้นสวรรค์
เขาบอกว่า รู้จักกิติศัพท์ความดื้อด้านของ ธรรมกะ ทุกผี ไม่มีผีองค์ไหนไม่รู้จัก
ผีแม่นาค ป้าแกยังรู้จักเลย ถ้าไม่เชื่อ เรียกป้าแกมาถามดู
เราคุยกันหนุกหนานนะครับ ว่างๆ แล้วจะมาโม้เรื่องที่ผีๆ เขามาโม้ให้ฟัง
จริงไม่จริงต้องไปถามท่านผีๆ ทั้งหลายโน่น
อะไรที่ไม่ใช่คน ข้าเรียกว่าผีหมด ผีมียศมันจึงงอนข้าชิบหาย
การจะแสดงธรรมในเชิงลึก มันต้องมานั่งฟังกันสดๆ
การอ่านแค่อักษรหน้าเพจนี่ มันแค่ถูเอา เรียกว่าเกายังไม่ได้ มันไม่หายคัน
แค่แจงกันพอเป็นกระสัย ไม่ใช่ตำราที่จะต้องไปยึดมั่นอะไรมากนัก
บางเรื่องแค่ชี้ให้เห็นเป็นแนวทาง ว่ามันมีทางลึกลงไปตามแนวนี้ เราพอตามรู้ตามเห็นได้ ก็เท่านั้น
นี่ว่าว่างๆ ก็จะขยายเรื่อง กรรมนิยามต่ออีกซักหน่อย
เพราะเรื่องกรรมนี่ มันเป็นวิบากในเชิงลึกที่หลากหลายพูดง่ายๆว่า
ในโลกนี่สรรพสิ่งเกิดกำเนิดขึ้นมาได้ เพราะมีเหตุแห่งกรรมมันเป็นเหตุ
ง่ายกว่านั้นก็คือ
กรรมเป็นเหตุ วิบาก เป็นผล
โลกนี้อยู่ด้วยหลักเหตุหลักผล เพราะเหตุและผล เป็นหลักแห่งอริยสัจ
พระธรรมเทศนา จากบทธรรม เรื่อง ธรรมชาติแห่งจิตนิยาม ณ วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2558 โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง
