ผีกลัวกันทำไม

ผีกลัวกันทำไม

707
0
แบ่งปัน

***** “ผีกลัวกันทำไม” *****

>> คำถาม : กราบนมัสการพระอาจารย์ครับ มีเรื่องกราบขอรบกวนพระอาจารย์ ช่วยแสดงธรรมให้หน่อย ครับ

เกี่ยวกับเรื่อง การที่คนเราจะมีองค์เทพ เทวดา หรือวิญญาณต่างคอยช่วยดูแล ปกปักษ์รักษา หรือที่เรียกว่าเทวดาประจำตน

ซึ่งจะมีกันทุกคนเป็นดวงวิญญาณที่เกี่ยวเนื่องกันมา ตั้งแต่ชาติก่อนๆ

และการรับองค์ ทรงเจ้า องค์แท้ องค์เทียม สังเกตุได้อย่างไรครับ

ถ้าเราไปวิจารณ์ จะเป็นบาปกรรมหรือไม่ครับ แล้วกับบางคนทำไมถึงประทับร่างได้ แต่บางคนประทับร่างไม่ได้ครับ

พอดีเคยมีประสบการณ์มาพักนึงแต่ยังสงสัยอยู่ครับพระอาจารย์

<< พระอาจารย์ : เราก็ทึกทักกันไปเอง ว่าแต่ละคนมีเทวดารักษาปกป้อง

สิ่งทั้งหลายที่เกิดขึ้น มันเป็นเรื่องของวิบากที่ต่างต้องเผชิญ

ซึ่งแต่ละคนก็ย่อมเผชิญไม่เหมือนกัน

เรื่องประทับทรงองค์เจ้า เป็นพลังงานผี ที่ยังไม่หมดอายุขัยทั้งนั้นแหละ

ไม่มีเทพเทิบอะไรหรอก มันเป็นบันทึกความทรงจำของผีที่แสดงออก

ที่นี่เยอะแยะ ที่อยู่ๆ ผีเข้าเวลาข้าทำพิธีอะไร

แต่ข้าไม่ได้ให้ความสำคัญหรอก ส่วนใหญ่เป็นลูกหลานเก่าๆ ที่ยังไม่มีรูป

แค่เข้ามาแสดงออกให้รับรู้ เดี๋ยวก็กลับไปเอง ตามแต่วิบากของแต่ละคน

แต่บางคนก็เอาสิ่งเหล่านี้มาหากินหลอกลวงผู้คน ก็เยอะแยะ

พลังงานที่ผ่านร่างนี่มี ที่โกหกว่ามีพลังงานผ่านร่างนี่ก็มี

แต่ไม่ว่าจะมีหรือไม่มี มันก็เป็นแค่ธรรมชาติอย่างหนึ่งของการแสดงออก ที่ไม่ได้มีความวิเศษ วิโสอะไร

ปัญหาของผู้ประสพพบเจอสิ่งเหล่านี้คือ ใจอ่อนขาดการอบรมและขาดปัญญา

เพราะความไม่รู้เป็นเหตุ จึงเกิดความนอบน้อม หวาดหวั่น กลัวว่าจะมีผลต่อชีวิตตน

การจำนนต่อสิ่งเหล่านี้ เป็นเรื่องของคนโง่

เรามันไม่รู้ว่า จริงๆแล้วสิ่งเหล่านี้เป็นธรรมชาติอย่างหนึ่งที่อาศัยสัญญาวิบากต่อกันทำให้เกิดให้มี

และการคาดหวังว่าสิ่งเหล่านี้ จะช่วยดลบันดาลให้ชีวิตดีขึ้น

เราจึงยอมจำนนต่อเทพต่างๆที่เราทึกทักเอา ทั้งๆที่บางพวกก็เป็นแค่อาการโรคจิตอย่างหนึ่ง ที่พากันทึกทักเอาเอง

เรื่องจิตนี่ซับซ้อน ทำเอานักปฏิบัติและคนเราโง่กันไปเลยทีเดียว


ขอให้เราฉลาดในธรรม

เราก็จะมีชีวิตอยู่อย่างไม่เป็นทาสของความงมงาย

ความเชื่อที่ว่าตามๆ กันมา แต่ขาดการวินิจฉัย

เราก็จะเชื่ออยู่อย่างนั้นโดยไม่เปลี่ยนแปลง

และจะเชื่อว่าเป็นเช่นนั้น ไปจนวันตาย

มันเสียดาย ที่ได้เกิดมาเป็นสัตว์ที่มีภูมิปัญญา

เรื่องผีนี่ มันเป็นอะไรที่คนสำผัสได้

มันมองเห็นได้ รู้ได้ในบางคนที่ฝึกฝนมา

มันเป็นพลังงาน ที่มีคุณมีโทษได้

การนับถือผี มันจึงเกิดขึ้นมานับแต่โบราณ

ไทยเรานี่ มันนับถือผีมาแต่ครั้งบรรพบุรุษ

ภาคเหนือ ภาคใต้ อิสาน กลาง ต่างก็นับถือผีมาก่อน

ที่นับถือนั่น ไม่ใช่จู่ๆ ก็นับถือ

มันนับถือเพราะความเป็นพลังงาน เพราะความมีอิทธิฤทธิ์

และมันก็มีซะด้วย

จริงๆ ฤทธิ์มันก็มีไม่มากหรอก เรามันจำนนต่อสิ่งที่มองไม่เห็นเอง

ที่สำคัญ เรามันชอบทึกทักกัน

ลึกลงไปจากนั้นก็คือ..

ตัวผีเอง มันก็ไม่รู้ว่ามันเอง ต้องการอะไร

ผู้มีปัญญาจะเห็นว่า เรื่องพวกนี้ มันเป็นธรรมดาที่มันมีตามธรรมชาติ

ผู้ที่ไม่เคยพบไม่เคยเผชิญ มันก็ย่อมไม่เชื่อ

แต่ไม่เชื่อ มันก็ยังกลัวผีอยู่ดีนั่นแหละ

เพราะความกลัวนี่มันเป็นธรรมชาติรักษากาย

ตราบใดที่เรายังขาดปัญญา

เราก็จะตกเป็นทาสของสิ่งเหล่านี้ ด้วยความจำนน

ผู้แสดงความคิดเห็น >>> ผีท่านอั๋นเป็นเรื่องราวที่พลิกความคิดไปอีกแนวเลย

ซึ่งไม่ค่อยมีครูบาอาจารย์ท่านใดกล่าวถึงสักเท่าไหร่
ถึงจะมีพูดอยู่บ้างแต่ก็ไม่ละเอียด

เท่ากับที่ พอจ.เล่าจากประสบการณ์จริงกับการพูดคุยกับผี….

สาธุธรรมครับ…

*** พระอาจารย์

ประสบการณ์โดยตรง มันช่วยให้เราเห็นมุมมองที่ตรงตามความเป็นจริง

ว่าความจริงในสิ่งที่เห็นกับสิ่งที่คิด มันแตกต่างกันตามเหตุปัจจัย

เรื่องผีนั้น มันเป็นธรรมชาติอย่างหนึ่งที่เป็นพลังงาน

การได้เผชิญย่อมทำให้เราวินิจฉัยอาการต่างๆด้วยปัญญาได้

ว่าจริงๆแล้ว ที่เราเชื่อๆและฟังๆกันมานั้น แนวทางความจริงเกี่ยวกับเรื่องเช่นนี้มันเป็นเช่นไร

การเห็นจริงและตรง มันก็จะคลายความสงสัยลงไปได้

พลังงานต่างๆ มันก็ล้วนต่างแล้วเคยมีรูปด้วยกันทั้งสิ้น

เมื่อรูปสลายลง พลังงานมันก็ยังคงเวียนวนรอรับวิบากไปตามเหตุปัจจัยที่เจ้าของได้สร้างกระทำมา

นั่นก็คือกรรมอันเป็นวิบากที่เป็นกุศลและอกุศล

มันเป็นธรรมชาติอย่างนั้น เราจึงไม่ควรที่จะไปหวาดกลัวอะไรกับสิ่งเหล่านี้

ความกลัวเป็นอาการหลงอย่างหนึ่ง

เราแก้ได้ด้วยอบรมเข้าไปเรียนรู้และวินิจฉัยให้ตรงต่อความเป็นจริง

ปัญหาคือความหลงทั้งหลาย ปัญญาเรามันมีไม่พอที่จะไปคลายความสงสัย ในสิ่งที่หลงทั้งหลายเหล่านั้น
…………………………………………………………………

ความรัก..ย่อมมีทุกข์ เป็นเสี้ยนหนามซ่อนรอการตำเนื้อเจ้าของ

เมื่อไหร่ที่ความรักเน่าเหม็นพุพอง

เราจะเห็นหนองที่เต็มไปด้วยเหล่าหนอนแห่งอาฆาต แย่งชิงรุมกัดกินหัวใจเจ้าของเอง

เรื่องจิตวิญญาณมันซับซ้อนและหลายหลากปัจจัย

การจะหาใครมาอธิบายให้ตรงด้วยประสบการณ์เป็นเรื่องยาก

เรื่องชี้ธรรมให้ผีนี่ เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์

ที่ชี้ให้เห็นธรรมดาของภาวะจิตของทุกคน ที่วันหนึ่ง เราจะต้องเผชิญ

เราพึงควรเตรียมใจไว้

ว่าเรา..ก็ไม่พ้นไปเสียจากเรื่องเหล่านี้

เราควรเตรียมตัวเตรียมใจ

อบรมจิตใจเราให้มันมีหนทางแห่งกุศล

กายแตกแล้ว มันก็ยังมีพลังงานอีก

ที่สำคัญ พลังงานนั้น มันก็อยู่ด้วยความทุกข์ ที่วางอะไรไม่ได้เช่นดั่งตอนมีกาย

นี่..เป็นสิ่งที่เราเข้าไปไขว่คว้ารับรู้ไม่ถึง

ชีวิต..ต้องหมั่นพลิกเหมือนดินที่พร้อมจะปลูก

ชีวิตแห้งแล้งดุจลูกรัง

จะหาความชุ่มฉ่ำแห่งน้ำจากไหน มาเพาะชีวิต

พระธรรมเทศนาโดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง 10 เมษายน 2560