ไอ้ขี้เรื้อน

ไอ้ขี้เรื้อน

287
0
แบ่งปัน

*** “ไอ้ขี้เรื้อน” ***

ขอสาธุคุณสวัสดีให้มีแต่ความสุขความเจริญ

ด้ายนั้นร้อยผ้าเองไม่ได้มันต้องใช้เข็มนำ

คนเรานั้น หากเข้าใจว่าเรายังอ่อนแอ

เราพึงตามหนทางแห่งผู้มีกำลังไปก่อนเถิด

เข็มนั้นใช้สอยผ้า

แต่เข็มที่ไร้ด้าย

ผ้าผืนไหนจะเย็บเป็นเสื้อได้

ชีวิตนั้น มันอาศัยเหตุปัจจัยกัน

เราพึงมองหาไปยังเหตุปัจจัย

ความเข้าใจในการใช้ชีวิต มันก็จะพอดีๆ

คุยไปคุยมา มันดันไปออกเป็นวาทะกรรมแห่งธรรมไปเลย

หวัดดีๆ

อากาศเริ่มร้อนขึ้น หลังจากเย็นๆมาหลายวัน

เมื่อวันสองวันก่อน ช่วงบ่ายสองนี่ ยังต้องห่มผ้า

แต่ตอนนี้ สบายๆ

ชีวิตนั้น เราหาได้ดังใจไม่

เราพึงเรียนรู้

เมื่อความไม่ได้ดั่งใจมันเกิด

ลองหาเหตุดู ว่ามันเกิดจากอะไร

แคบเข้ามาในการพิจารณา..

ความไม่พอใจทั้งหลายนั้น

มันเกิดจากเราหรือผู้อื่นทำ

นี่..คนเรามองไม่เห็นเหตุตรงนี้

ตรงที่ เรามักจะโทษอยู่แต่ผู้อื่น

ความไม่ได้ดั่งใจทั้งหลายนั้น

จะเห็นว่า เกิดจากเพื่อนก็ดี

เจ้านายก็ดี

ลูกน้องก็ดี

ใครๆเขาก็ดี

คนที่รักก็ดี

ที่ชังก็ดี

เหตุนั้นเกิดจากเรานี่แหละ

แต่มันชอบแก้ตัว ว่าเขาทำให้เราเป็น

ถ้าเขาไม่ทำอย่างนั้น

เราก็คงไม่เป็นอย่างนี้

นี่..มันกิเลส เป็นมานะ เป็นทิฏฐิ มันอยากโชว์

ว่าตนนั้นมันเป็นคนดี

ตนสะอาดชิบหายวายป่วง ตนไม่เคยผิด

เราไม่เข้าใจว่า เขาก็เป็นของเขาอย่างนั้นแหละ

เป็นแต่เรานี่แหละ อยากจะให้ได้ดั่งใจเรา

เมื่อเกิดความไม่ได้ดั่งใจเรา

เราก็เลยโทษว่าเขานั่นแหละ

ทำให้เราเกิดความไม่ได้ดั่งใจ

เราไม่รู้ว่าเมื่อเราโทษเขา

เขาก็ย่อมไม่พอใจ

เพราะบางครั้ง

เขาก็ไม่เข้าใจ ว่าทำไมเวลาเขาทำอะไร

เรามันถึงไม่ชอบใจในสิ่งที่เขาทำ

นี่..เราจะอยู่กับความจริงกันอย่างไร

บางคน อยากออกจากงาน

เพราะไม่ถูกกับเพื่อนร่วมงาน

ไม่ถูกกับผู้บังคับบัญชา

ไม่ถูกกับใครก็ได้ ที่เขานั้นทำไม่ถูกใจเรา

เราก็เลยอยากหาที่ทำงานใหม่

อยากเปลี่ยนงานใหม่

อยากแม้กระทั่ง เปลี่ยนคนข้างตัวใหม่

ไม่อยากอยู่ใกล้ และวนเวียนกับสิ่งเหล่านี้

เพื่อนเอ๋ย..เรามันก็เหมือนหมานั้นแหละ

นอนตรงนี้ก็ไม่ดี ตรงนู้นก็ไม่ดี

ตรงไหนที่น่าแสนสบาย มันก็ไม่ดี

มันมัวโทษสถานที่ โทษผู้คน โทษคนข้างตัว

แต่มันไม่โทษขี้เรื้อนที่มันเป็น

มันจะไปอยู่วิมานตรงไหน มันก็คันยิ๊กๆๆๆอยู่นั่นแหละ

เพราะมันเป็นขี้เรื้อน..

คนเราก็เหมือนกัน

ไอ้ห่า..ชอบโทษนั่น โทษนี่

โทษคน โทษสถานที่

แต่ไม่โทษใจตน ที่มันสันดานเฮงซวย

นั่นก็ไม่ดี นี่ก็ไม่ดี

ถ้าคน หรือสถานที่มันไม่ดี

คนอื่นก็ต้องไม่ดีด้วยซิ

นี่..เป็นแต่ตัวเรา

ผลมันก็แสดงอยู่ ว่ามันเกิดจากตัวเรา

ที่ไม่ชอบ ไม่พอใจในสิ่งที่คนอื่นเขาเป็น

แก้ก็แก้ที่เราซิ อย่าไปแก้ที่ใครเขา

เขาทั้งหลาย มันก็เป็นของเขาอย่างนั้นแหละ

เข้าใจเขาเถิด

เวลาไม่พอใจ เรานี่แหละทุกข์ ไม่ใช่เขาทุกข์

เราไม่พอใจ ไปเปลี่ยนที่ใหม่ เปลี่ยนคนใหม่

เดี๋ยวก็เป็นไปเหมือนเดิม

และไปโทษที่ใหม่ โทษคนใหม่อีก

เพราะตนมันไม่ยอมรักษาขี้เรื้อนที่ตนเป็นซะก่อน

อยู่ที่ไหน มันก็ไม่มีความสุขขึ้นมาได้หรอก

ตนมันไม่ยอมเข้าใจโลก

ว่าคนและสถานที่ทั้งโลก

เขาก็มีความเป็นธรรมดาอย่างนี้นี่แหละ

เขาเป็นของเขาอย่างนั้น

เมื่อเข้าใจโลก ว่ามันเป็นธรรมดาอย่างนี้

มันก็ไม่รู้ว่าจะไปทุกข์อะไรกับใครๆที่เขาเป็นให้วุ่นวายไปทำไม

ทำในสิ่งที่เราทำ

เรามีหน้าที่อะไร ก็ว่าไปตามหน้าที่

วันหนึ่งก็ต้องจากกัน

จะจากเป็นหรือจากตาย มันก็ต้องจาก

อยู่อย่างคนเกิดมารู้จักโลกซิ

ว่าทุกสิ่ง ไม่มีอะไรได้ดังใจ

ไม่มีอะไรแน่นอน

ธรรมดาของโลกมันเป็นเช่นนี้

พึงทำใจยอมรับมัน ด้วยความเข้าใจ

ขี้เรื้อนในใจเรา มันจะได้ทุเลาเบาบางจางคลายหายไปซะที

โลกจะสดใสเมื่อเราเข้าใจธรรมดาของผู้คน

แม้แต่ผัวมึงเมียมึงเพื่อนมึงลูกมึง ก็เหมือนกัน..

พระธรรมเทศนา วันที่ 7 กุมภาพันธุ์ 2561

โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง