อ่อนแอก็ต้องเป็นทาสพวกฤษีหลอกลวง

อ่อนแอก็ต้องเป็นทาสพวกฤษีหลอกลวง

427
0
แบ่งปัน

*** อ่อนแอก็ต้องเป็นทาสพวกฤษีหลอกลวง ****

ขอสาธุคุณให้มีแต่ความสุขความเจริญ…

เรามาคุยถึงเรื่องฤษีต่อกันอีกหน่อย ว่าฤษีจริงๆที่น่าเคารพน่านอบน้อมน่ะ เขาก็มี

ข้านี่เคยอยู่กับพวกฤษีมาช่วงระยะหนึ่ง จะเรียกว่า ฤษีอย่างจักรๆวงค์ๆ

ที่เป็นหนังแสดงกันก็ไม่ได้ นี่พวกฤษีที่เขาอยู่เป็นฤษีจริงๆ เป็นพวกฤษีชาวกระเหรี่ยงพม่าโน่น

ทีนี่ฤษีทั้งหลายที่เราเห็นๆอละพบเจอกันนี่ มันพวกฤษีแบบในจอหนัง พวกฤษีที่เขาเขียนเป็นนิยายขึ้นมาขาย

ฤษีในหนัง เขาเอาหนังเสือมาห่ม หรือไม่ก็เป็นผ้าลายเสือ

ต้องเป็นลายเสือโคร่งด้วยนะ เสือดำ เสือขาว เสือดาวนี่ไม่ได้

นั่นน่ะ มันในจอหนัง พวกแต่งตัวคิดเอาว่า ฤษีมันต้องห่มหนังสือ

ดูแล้วมันขลังและมีอำนาจดี ถึงจะเรียกได้ว่าเป็นฤษี

ทีนี่ อีพวกฤษีเก๊ที่เห็นในหนัง หรือเรื่องกวีตำราที่เขาแต่งๆกันมา

มันก็เลยเอามาแต่งตัวกันมั่ง

มันไม่รู้ว่า ที่เขาแต่งเป็นหนังสือนั้น เขาสมมุติกันว่า อยู่ป่ามันไม่มีผ้า

จึงต้องหา หาหนังเสือมาห่ม มันจึงจะเรียกได้ว่า เป็นฤษี ดูแล้วมันขลังดี ตบะสูง

ทีนี้ พวกฤษีปลอม มันก็เอาอย่างบ้าง มันไม่รู้นี่ว่า ทำไมเขาต้องห่มหนังเสือ

หนังเสือมันหายาก พี่แกเลยไปหาผ้าลายหนังเสือมาห่มแทน

ตรงนี้เป็นเรื่องขำที่น่าฮ่ามาก สำหรับพวกฤษีลิเก

ต้องมีผ้าโพกแบบแขกด้วย

เหล่าพระนี่…ห่มผ้าย้อมฟาด

แต่ฤษีนี่…ห่มผ้าย้อมลายเสือ

มันเหมือนต้องพรางตัวแบบเดรัจฉานยังไงไม่รู้ นี่ พวกฤษีเก๊ ฤษีอวด

ฤษีแสดงหาแดกกะชาวบ้านที่ชอบพวกฤษี

ฤษีในป่า ที่เขาฝึกตบะ เขามีฌานเรื่องจิต

ข้าเห็นใส่ผ้าคล่ำ สีมอๆนี่แหละ

บางพวกก็เป็นผ้าขาว

บางพวกก็เป็นผ้าย้อมทึบ

ฤษีจริงๆ เจอมาหลายท่าน

แต่ยังไม่เคยเจอ ฤษีแบบลิเก ห่มผ้าลายหนังเสือซักที

ฤษีลายหนังเสือนี่ เป็นพวกลิเกหลงโรง ใครเจอก็ช่วยบอกแกกลับโรงลิเกให้ด้วยนะ

ทางโรงลิเกให้อภัยหมดแล้ว…

เวลาพวกฤษีลิเกออกโรงพวกนี้จะทำพิธีอะไร

พวกจะใส่เต็มยศ เพื่อให้ดูขลังและน่าเชื่อถือ

แต่ฤษีลิเกพวกนี้ ไม่มีเหี้ยอะไรหรอก แต่งหลอกเอาขลัง ทำเท่ห์ไปงั้น

ไม้เท้านี่ต้องเป็นหัวพญานาค หรือเป็นงูคดเคี้ยวไปมา

ถ้าไม่โชว์อภินิหารนี่ คนเขาจะไม่ฮือฮา ฤษีทั้งหลาย เขาจึงต้องหาวิธี

ฤษีพวกนี้นี่ มันปลิ้นปล้อน มันมักจะขู่และทำนายทายทักให้เป็นอย่างนั้นให้เป็นอย่างนี้

สูตรสำเร็จของพวกนี้ ก็คือ เบื้องบนเขาสั่งมา เป็นบัญชาจากพ่อปู่

เอะอะอะไร ก็พ่อปู่ เทพเทวาเบื้องบน มันเอาสูตรพวกนี้มาขู่คน

ไอ้คนที่ไร้ปัญญา มันเป็นธรรมชาติที่กลัวในสิ่งที่ตนมองไม่เห็น

มันก็กลัวก็เชื่อเป็นธรรมดา

ขอให้พ่อปู่บอกมาเหอะ อะไรที่ว่ามา หนูๆเชื่อหมด เพราะหนูนี่โง่ชิบหายจ้า พ่อปู่จ๋า

พ่อปู่นี่ มักเอาของแปลกๆแถวท่าพระจันทร์มาหลอกแดก

นี่ของพญานาค นี่เป็นของเทพนั่นเทพนี่ นี่เป็นของจากอจินไตย

ซึ่งพ่อปู่ลวงโลกบอกว่า กูก็ไม่รู้ว่ามันมาได้ยังไง เบื้องบนเขาส่งมอบให้มา

มึงทำโง่ๆและรับไปเหอะ ของมันอจินไตยๆๆๆๆๆๆ ไอ้เหี้ยยย ไม่รู้รึไง..!! มันอจินไตย

มีอยู่วันหนึ่ง ข้าล้มลงและป่วยอยู่หลายวัน

ทีนี่ เรื่องล้มและป่วยนี่ มันไปเข้าหูพวกฤษีที่ข้าไปดักคอ

มันก็เลยบอกกับเหล่าลูกศิษย์มันว่า…

มันส่งของและพลังมาเล่นงานข้า นั่น..ไอ้ธรรมกะมันหงายเงิบไปเลย

บอกพวกลูกศิษย์ว่า เห็นไหม ไอ้ธรรมกะมันมีอันเป็นไปแล้ว

ปู่ลงโทษมันแล้ว มันเป็นคนลบหลู่ และไม่เคารพพ่อปู่อย่างพวกเรา

พอข้าหายดี ข้าด่าไอ้เหี้ยยย.. มึงมาทำให้กูเกิดอีกทีซิ ในวันสองวันนี้

ให้กูล้มอีกที ให้ป่วยตามที่มันว่าอีกที…

ถ้าเป็นด้วยอำนาจพ่อปู่มึงอีก กูจะกราบตีนและสึกจากพระไปเป็นสาวกฤษีลิเกซะเลย

พวกมันรวมตัวกันแช่งพริกแช่งเกลือกันเลยวุ๊ย ศิษย์มันบอกมาว่างั้น

กะเอาข้าให้จม หลายคนก็เป็นห่วง

ปรากฏว่า ข้านี่เป็นอยู่สบาย ทำงานขึ้นเขาตามปกติ

ไม่ต้องระแวดระวังตัวอะไร เพราะข้ารู้อยู่กับใจว่า มันไม่จริง

พวกฤษีลิเก มันก็จ๋อยไปตามๆกัน

แต่มันอ้างว่า ที่พวกมันทำอะไรข้าซ้ำไม่ได้

เป็นเพราะข้า มีพวกยักษ์ที่เลี้ยงไว้ คอยดูแลคุ้มครอง

แต่มันก็เล่นงานพวกยักษ์ที่ดูแลคุ้มครองข้าไปกว่าครึ่ง

น่าน..ดูมันโม้ไปเรื่อย เพื่อแก้ตัวให้เหล่าสาวกฟัง และเหล่าสาวกมันก็เชื่อ

นี่…พวกเราน่ะ มันจิตอ่อน

พอใครกระทำอะไรที่มันขู่ๆมา พวกเราก็อดที่จะหวาดระแวงไม่ได้

ขอให้เรามีความดีที่ได้กระทำมาเป็นที่ตั้งแห่งใจเหอะ

อะไรๆ ก็ไม่ทำร้ายใจดวงนี้ได้หรอก

ที่มันเป็นนั่นเป็นนี่…

มันเป็นเพราะใจเจ้าของนี่แหละ มันอ่อนแอ

และความอ่อนแอนี้ มันหวนกลับมาทำร้ายทำลาย ใจเจ้าของเอง

ข้านี่ ช่วยได้แค่เป็นกำลังใจเท่านั้น เลิกทำตัวอ่อนแอเหอะเพื่อนเอ๋ย

หากเพื่อยังขืนทำตัวอ่อนแอ เพื่อนจะตกเป็นลูกค้าทาส ที่โดนยัดเยียดให้ซื้อศาสตร์แห่งมืดบอดและมองไม่เห็น จากพ่อค้าคนกลาง

ที่มันจ้องจะขบกัดและหลอกแดก เนื้อหนังมังสาของเพื่อน ที่อุตสาห์สร้างสมมา ด้วยความยากลำบาก

อย่าโง่เป็นทาสแห่งตัณหาแห่งความอยาก ที่กลัวนั่นนี่

ถ้ามันเก่งจริง มันมีฤทธิ์จริง ดลบันดาลอะไรได้จริงตามที่มันคุย

ข้านี่ ชีวิตชิบหายตายห่าไปนานแล้ว

ลืมตาขึ้นมาดูความเป็นจริง และอยู่กับความเป็นจริงที่มันสำผัสได้ด้วยปัญญา..!!

ขอสาธุคุณเช้าวันนี้ ขอพักกินข้าวล่ะ เดี๋ยวมีงานต้องทำอีกเยอะแยะ

วันที่ 4 ธันวาคม 2558 โดยพระอาจารย์ ธรรมกะ บุญญพลัง