******** “บารมี 30 ทัศน์” ********
ขอสาธุคุณให้มีแต่ความสุขความเจริญกันทุกคน
วันนี้จะกลับเกาะกลางน้ำกันล่ะ..
ช่วงที่มาหล่อพระครั้งนี้ ได้เจอกับความยึดมั่นแห่งคนที่เข้าใจธรรมไม่ตรงนัก
ตรงนี้ก็คือคำว่า ..อธิฐานบารมี..
ข้าจะขยายคำนี้ออกมาให้ฟัง เพื่อชนทั้งหลายจะได้เข้าใจกัน
ว่าการขอนั่นนี่โน่น ไม่ได้เรียกว่า ..อธิฐานบารมี ..
คำว่าอธิฐาน บารมีนี่ เป็นเรื่องของกำลังใจ ที่อาศัยสัจจะบารมี
บารมีนี่ แปลว่า..กำลังใจ.. เป็นกำลังใจของผู้พากเพียรที่จะเดินบนหนทางแห่งความพ้นทุกข์
ผู้ที่จะพ้นทุกข์ได้ ต้องอาศัยกำลังใจในการก้าวเดิน
เริ่มแต่ การให้เป็นอันดับแรก..
การให้นี่ ผลตอบแทนคือผู้ที่ได้รับ
ส่วนผู้ที่ได้รับ เป็นผู้ที่ต้องตอบแทน
ผู้ที่มีใจให้ ใช้กำลังใจสูง ใช้กำลังใจให้ผู้อื่นเริ่มตั้งแต่ วัตถุธรรมดา ไปจนถึง วัตถุที่แสนมีค่า ต่อจิตใจ
ให้ได้แม้แต่วัตถุบุคคล ที่แสนรักแสนหวง นี่..ใช้กำลังใจสูงยิ่ง
การให้แม้แต่ชีวิต เพื่อเป็นทาน นี่เป็นการให้ในขั้น ปรมัตถ์บารมีกันเลยทีเดียว
คำว่า บารมี 30 ทัศน์ นี่หมายถึง กำลังใจระดับ ต้น กลาง และปลายสุด
..ระดับต้น.. เป็นการให้ทาน ประเภทวัตถุทาน ตั้งแต่ชิ้นน้อยๆ มีค่าน้อยไล่ไปจนถึง สิ่งที่มีค่ามากๆ
จะเป็นโบสถ์ วิหาร เจดีย์ องค์พระ หรืออะไร ต่างก็เป็นวัตถุทาน
ทานขั้นนี้ ใช้กำลังใจเท่าไหร่ ก็ยังปิดอบายภูมิไม่ได้ ยังมีสิทธิ์เป็นสัตว์ เป็นอสูรกาย เป็นเปรต และลงนรกได้ ยังไม่แน่นอน
..ระดับกลาง.. เรียกว่า อุปบารมี เป็นทานที่ใช้กำลังใจ สูงยิ่งขึ้นไปอีก ในเรื่องของจิตใจ
เป็นทานที่ใช้กำลังใจจากภายใน ที่เหนือกว่าเรื่องวัตถุทานทั้งหลาย เป็นอภัยทาน ที่ฟูขึ้นมาในใจ พร้อมที่จะให้อภัยได้ ในสิ่งที่เจ้าของไม่ชอบใจ
เป็นกำลังใจแห่งใจที่มีสมาธิในศีล ตัดใจอะไรได้ง่ายและปล่อยวางได้มากขึ้น
นี่เป็น อุปบารมี เป็นบารมีขั้นกลางที่ต้องใช้กำลังใจ มีการให้อภัยเป็นหลักประจำใจ
..ระดับสูง.. เรียกว่า ปรมัตถ์บารมี
บารมีขั้นนี้ เป็นกำลังใจขั้นสมาธิสู่ปัญญา เป็นกำลังใจขั้นปัญญาที่สละได้แม้แต่ชีวิตตนเองเพื่อเป็นทาน
ขึ้นอยู่กับภูมิวิสัยแห่งวาสนาของแต่ละคน
ผู้ที่มีกำลังใจขั้นสูงสุดนี่ เรียกว่า ปรมัตถ์บารมี
หากกำลังใจเต็มรอบ ได้ชื่อว่าเป็นผู้มีบารมีเต็มรอบทั้ง 30 ทัศน์
บารมี 30 ทัศน์ ก็หมายความว่า..
กำลังใจเต็มรอบมาตั่งแต่ บารมีต้น อุปบารมี และปรมัตถ์บารมี
เป็นใจพร้อมที่จะมีกำลังใจเพื่อก้าวเข้าไปสู่ประตูแห่งแดนนิพพาน
บารมีทั้งสามรอบ เริ่มแต่ บารมีต้น กลาง ปลาย
ต่างเป็นบารมีทั้ง 10 ต่างกันที่กำลังใจความหนาแน่นแห่งการสะสมกำลังใจมาเท่านั้น
เริ่มต้นด้วยใจที่เป็นผู้ให้ เป็นอันดับแรก เรียกว่า ทานบารมี
ผู้เกิดทานบารมี ย่อมเกิด ศีลบารมี
ผู้เกิดศีลบารมี ย่อมเกิด เนกขัมบารมี
ผู้เกิดเนกขัมบารมี ย่อมเกิด ปัญญาบารมี
ผู้เกิดปัญญาบารมี ย่อมเกิด วิริยะบารมี
ผู้เกิดวิริยบารมี ย่อมเกิด ขันติบารมี
ผู้เกิดขันติบารมี ย่อมเกิด สัจจะบารมี
ผู้เกิดสัจจะบารมี ย่อมเกิด อธิฐานบารมี
ผู้เกิดอธิฐานบารมี ย่อมเกิด เมตตาบารมี
ผู้เกิดเมตตาบารมี ย่อมเกิด อุเบกขาบารมี
ครบยังวะนี่..
นี่เป็นบารมีทั้ง 10 ทัศน์ เมื่อเต็มสามรอบแห่งกำลังใจ เต็มเมื่อไหร่ เรียกว่าเป็นผู้มีบารมี 30 ทัศน์
บุรุษผู้เต็มบารมีทั้ง 30 ทัศน์ เป็นบุรุษที่มีกำลัง ก้าวพ้นโลกได้ตามเหตุและปัจจัย เมื่อวิบากมาให้ผล
เดี๋ยวต้องทานอาหารและออกเดินทางกลับเกาะ ขอพักไว้แค่นี้ก่อน
ขอสาธุคุณโมทนาให้ม้แต่ความสุขความเจริญกันทุกท่าน
ขอสาธุคุณ
จะอธิบายเรื่อง อธิฐานบารมี เลยเข้าได้แค่เปลือก ไว้วันหลังเด้อ..
พระธรรมเทศนาจากบทธรรม เรื่อง ******** คำพูดเป็นอัตตาสมมุติ ยึดก็หนัก ****** ณ วันที่ 4 มิถุนายน 2558 โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง
