มาๆๆ ข้าอธิบายให้ฟัง จุดตรงกลางนั้น เป็นจุดรวมจิต ที่พวกเกจิเขาเรียกกันว่า จุด หทัย จุดหทัยก็คือ จุดใดจุดหนึ่ง เพื่อเป็นที่ตั้ง แห่งศูนย์รวมจิต ไม่ให้มันสอดส่าย
ทีนี้ เวลาเรามองจุด ตามภาพที่เห็นนี้ เมื่อมองนานๆ หากใจไม่ฟุ้งซ่าน วงกลมสีฟ้ารอบๆ มันก็จะหายไป ที่จริง มันก็ไม่ได้หายไปไหน มันยังคงอยู่ที่เดิม โดยไม่รู้ไม่ชี้กะใครนั่นแห
เหมือนเรา เอาเหรียญมาตั้งห่างๆ กันซักคืบ แล้วเราจ้องมอง เหรียญใดเหรียญหนึ่ง ซักครู่ เหรียญอีกด้าน มันจะหายไป ซึ่งจริงๆ มันก็ไม่ได้หายไปไหน เป็นแต่เพียง เราเห็นว่ามันหายไปจากคลองจ
ตรงนี้ก็เหมือนกัน วงกลมสีฟ้าก็ไม่ได้หายไปไหน
อาการนี้ เป็นเรื่องของจิต ที่เราเรียกกันว่า ปิติ มันเป็นปฐมปิติ ปิติก็คือ อาการของจิต ที่แสดงออกมา เหนือการควบคุมแห่งใจ
จะเทียบให้ฟังตามแนวของตำรา
จุดที่เพ่งนั้น ที่เรายกขึ้นมา เพื่อเพ่ง เรียก วิตก
ประคองการเพ่งนั้น เรียกว่า วิจารณ์
ประคองจนใจไม่ค่อสาดส่าย จนวงกลมสีฟ้าหายไป เรียก ปิติ
ไร้อารมณ์ ใดมาสอดแทรกได้ ในขณะเพ่ง เรียกสุข
ทั้งหมด นิ่งอยู่ในภาวะ อยู่กับจุด ตรงกลางโดยไม่รำคาญต่อสิ่งร
หากรวมอยู่และทรงอยู่ในอากา
ทีนี้ การทำกสิณนี้ หรือการเพ่ง เอาวัตถุ ที่ตั้งมาเป็นอารมณ์ เมื่อจิตมันตั้งมั่น มันจะเกิดอาการหลอน การที่เรารู้สึกและรับรู้ว่
ธรรมชาติแห่งใจ มันอาศัย อายตนะ ในการผัสสะ สิ่งรอบๆ ตัว มันอาศัยตา หู ลิ้น จมูก กาย และอารมณ์ ในการผัสสะ เพื่อสร้างสมมุติ สิ่งใดที่มีสมมุติอยู่แล้ว เรียกว่า รู้อยู่แล้ว มีสัญญาเจตนาบันทึกไว้แล้ว มันก็จะวางใจ
ใจก็มักจะไม่สะดุ้งสะเทือนต
อะไรที่มันรู้แล้ว ไม่เป็นพิษเป็นภัยอะไรต่อรู
นี่..เป็นอาการของจิต ที่เรียกกันว่า ปิติ มันเป็นอาการ ที่ไม่มีเราเข้าไปเป็นเจ้าข
อาการที่จิตหดตัวเข้ามา รายละเอียดรอบๆ มันก็หมดความสะดุ้งตื่นตัวไ
เมื่อมันไว้วางใจ การหดตัวของมัน ก็จะบีบตัวย่อเข้ามา รายละเอียดต่างๆ ที่ไม่ใช่จุดที่ใจมันเพ่ง ก็จะหมดความสำคัญไป เราผู้ซึ่งมีภาวะเฝ้าดู เราจะเห็นว่า รอบๆ สิ่งที่เพ่งนั้น มันหายไป ทั้งๆ ที่สิ่งทั้งหลาย มันก็ตั้งอยู่เบื้องหน้า
คนที่ด้อยปัญญา ไม่เข้าใจเรื่องจิต สิ่งเหล่านี้ ก็จะเป็นเรื่องแห่งปาฏิหาร์
แต่ก่อนหาย มันจะเกิดการปรุงแต่งทางมโน
หากเพ่งและวางกำลังสติเฉยกั
หากเฉยในการย่อขยาย เราจะรู้สึกได้ว่า ตัวเราทั้งกาย มันเข้าไปอยู่ในวงกลมจุดสีแ
และหากมีกำลังเพ่งต่อ มันจะมีการปรุงต่อเนื่องไป ตามเหตุปัจจัยของแต่ละคน อย่างไม่มีที่สิ้นสุด มันจะติดการปรุงอยู่อย่างนี
ทั้งๆ ที่อาการ การปรุงนี้ เป็นธรรมชาติที่เป็นสมาธิ ไม่หนาแน่น เป็นฌานต้นๆ พวกฤษีชีไพรเขานิยมกัน ที่นิยม เพราะขาดผู้มีปัญญาชี้แนะ ถึงชี้แนะ มันก็ไม่ฟัง มันติดมานะ และทิฏฐิในตน ที่ยึดมั่น ไม่ยอมวางในเรื่องสมาธิ
วันนี้ ข้าอธิบายโม้มาพอคร่าวๆ ว่าไอ้วงกลมที่หายไป จากคลองจักษุ มันเป็นอาการหดตัวของใจ ตามอาการของจิต
ลองเอาปัญญาสอดส่องและพิจาร
กำลังเพียงแค่นี้ เพียงแค่มองไม่เห็นวงกลมสีฟ
และเราทั้งหลาย ที่เกิดเป็นคนขึ้นมาแล้ว เราทั้งหลาย ทำกันได้ ทุกๆ คน เชื่อข้าเหอะ… ไม่ต้องไปฝึกอะไรให้มันมากม
เช้านี้…หวัดดีนะจ้า… ต้องกินข้าวแล้ว
พระธรรมเทศนา ณ วันที่ 26 พฤษภาคม 2557 โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง