ขยาย เรื่องอเวจี ที่พระเทวทัตเสวย

ขยาย เรื่องอเวจี ที่พระเทวทัตเสวย

1042
0
แบ่งปัน

ขยาย เรื่องอวจี ที่พระเทวทัตเสวย>> ลูกศิษย์ : กราบนมัสการพระคุณเจ้า ผมต้องขอกราบขอโทษเหตุการณ์เมื่อวานหากการโพสท์ข้อความและความคิดเห็นบนเฟซท่านทีแรกกระผมคิดว่าเป็นเฟซของท่าน”วีระศักดิ์” หากข้อความใดไม่เหมาะไม่ควรอันเป็นการกล่าวล่วงในธรรม “พระนิพพาน” ซึ่งเป็นธรรมชั้นสูงเกินปุถุชนจะเข้าถึงได้จะโดยเจตนาหรือไม่เจตนาขาดการไตร่ตรองผมต้องขอกราบประทานอภัยในการกระทำรวมทั้งข้อความทั้งหมดด้วย

..กราบนมัสการด้วยความเคารพ

..จนป่านนี้พระเทวทัตก็ยังเสวยกรรมอยู่ ณ ที่แห่งนี้ อนันตริยกรรม สาธุ

<< พระอาจารย์ : ไม่เป็นไรหรอก คุณมงคลศักดิ์ ผมนี้ยินดี ที่จะคุยกับทุกคน ฉันพี่น้อง เรามีความรู้ทางธรรมเช่นไร เราก็ว่าไปตามภูมิเรา นี่ ถูกต้อง

และเราก็ยอมรับเหตุและผลของผู้อื่นด้วย นี่..ยิ่งถูกต้อง ยิ่งเป็นผู้รู้กาละเทศะด้วย ยิ่งเป็นผู้ที่น่าคบหายิ่งๆ ขึ้นไปอีก

คุณวีระศักดิ์ เขาก็เป็นผู้ปรารถนา ธรรม นี่..ยิ่งหายาก พอมาเจอกับคุณมงคลศักดิ์ ยิ่งหายากเข้าไปใหญ่ บุรุษเช่นนี้ มีธรรมและกล้า อหังการ์ในธรรม ผมชื่นชม

สร้างภาชนะรองรับธรรมเอาไว้ ผมมีอาหารมอบใส่ให้จุใจ อะไรที่ไม่ใช่ธรรม ไม่ใช่อาหาร พวกเราย่อมรู้โดยปัญญา หลอกและมั่วกันไม่ได้

ปัญญาอย่างพวกเรา มันเป็นผู้มองเห็นอะไรใช่ ไม่ใช่ ด้วยปัญญาของตัวเราเองอยู่แล้ว แสดงออกมาเถอะ เราจะชี้แจงเหตุ ปราชญ์ย่อมฟังแม้เสียงเด็กน้อย ที่พยายามอธิบาย..ด้วยความยินดีครับ…มงคลศักดิ์

พระเทวทัต เสวยอยู่ขุมนี้..

สมัยหนึ่ง หลวงพ่อฤษีลิงดำ แห่งวัดท่าซุง ท่านได้เดินทางจิต ไปหาพระเทวทัต ณ สถานที่ที่พระเทวทัต ทนทุกข์ทรมานอยู่ ที่ท่านไปในครั้งนั้น ก็เพื่อไปค้นหาและพิสูจน์ความจริงว่า พระเทวทัต มีอยู่จริงไหม

หรือว่า เป็นเพียงแค่ตำรา แต่งขึ้นมา ที่นั้น ท่านได้พบ พระเทวทัตจริงๆ โดนตรึงอยู่กับผนังเหล็กอันร้อนแรงและแดงฉาน โดยมีหอก ขนาดเท่าท่อ พีอีขนาด เส้นผ่าศูนย์กลาง 15 นิ้ว

แทงทะลุ จากบนลงล่าง จากล่างขึ้นบน จากซ้ายไปขวา จากหน้าไปหลัง และแทงสวนทวนกลับกัน ยืนกางแขนกางขา มีรูปร่างใหญ่โตมโหฬาร กระดุกกระดิกตัวไม่ได้

เมื่อกำหนดจิต ขออนุญาต ผู้ดูแล พลันหอกทั้งหลาย ก็สลายไป พระเทวทัต หดตัวมาเป็นมนุษย์ และได้พูดคุยกัน พระเทวทัต ท่านฝากบอกมาว่า

เป็นมนุษย์ อย่าทำชั่ว อย่าหลบหลู่คุณคนและแผ่นดิน อย่าดูหมิ่น แม้คนไร้ค่า อย่ากล่าวว่า พระอริยเจ้า อย่าเข้าไปสู่ความเป็นบาปทั้งหลาย

ธรรมที่พระพุทธองค์ทรงแสดง เป็นธรรมที่วิเศษสุด ไม่มีอะไรฤทธิ์ใด วิเศษเท่าอีกแล้ว เขาเองเอาความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ แห่งธรรม เป็นเจ้าของธรรม หลงในวิถีตัวตน

เขาจึงต้องมาทน ทุกข์เวทนาใน อเวจีนี้ อีกนานเท่าใดยังไม่รู้ได้ เมื่อท่านมา จึงขอฝากกุศลทั้งหลายนี้ ไปสู่ลูกหลานท่าน ว่าธรรมทั้งหลาย มีกรรมเป็นเหตุ มีวิบากเป็นผล

ตอนนี้…เขาต้องรับผลแห่งวิบากนั้น อย่างหลีกเร้นด้วยความเห็นแห่งตัวตน ไม่ได้เลย วิบาก ก็คือวิบาก มันส่งผลให้เสมอ ไม่มียกเว้นใคร…

หลวงพ่อท่านได้เครื่องมือชี้ยืนยัน และประจักษ์ใจ ว่าในนรกมีพระเทวทัต อยู่จริง ท่านจึงนำเอามาบอกลูกๆหลานๆ และองค์ท่านเอง ก็ปลงและลงใจ หาทางช่วยลูกหลานด้วยวิธีการต่างๆ

แต่นั่นแหละ เหตุเพราะพูดไปก็ไม่มีใครเชื่อ ถ้ามันเชื่อ มันคงไม่ลืมตัวมัวเมาอยู่เช่นนี้ เมื่อมาชี้การเกิดทิพย์จักขุญาณ พวกก็ไปติดมานะในสิ่งที่เห็นที่เป็นอีก

นี่…คนมันขาดธรรมรองรับใจ มันเป็นไปเพื่อตัวกูกันแทบทั้งนั้น เอาสิ่งที่รู้ที่เห็น มาฟาดฟันคนอื่นด้วยธรรมที่ยังไม่เข้าใจ

ส่วนพวกที่ไม่ได้อะไร หรือรู้เห็นอะไร ก็มาฟาดฟันผู้อื่นด้วยวาทะแห่งความคิดตนอีก ว่าไม่ใช่ ไม่มี และเป็นการลวงโลกไปโน่นอีก เป็นพวกรู้มากปากเสียไปอีก

นี่…หากท่านใดเป็นจริต ขี้สงสัย ก็ต้องฝึกมาทาง ทิพย์จักษุญาณ แต่นั่นแหละ ฝึกเมื่อไหร่ มานะใจก็มาเยือนเมื่อนั้น กำลังแห่งสติที่จะไปกดไปลด ความนอบน้อม แห่งมานะจิต มันมีไม่พอ

เพราะธรรมชาติของจิตปุถุชน ย่อมเป็นไปตามธรรมชาติอย่างนั้น แต่หากกำลังมันมาให้ผลพอที่จะรู้ได้เห็นได้ ซึ่ง พันคนหมื่นคนแห่งผู้ฝึกปฏิบัติ จึงจะมีผู้รู้ผู้เห็นจริงๆ ซักคน

นอกนั้น ส่วนใหญ่เหลวหมด เมื่อไปดู ไปรู้ ไปเห็น เอาสิ่งเหล่านั้น มาเตือน มาชี้ใจตนเองนี่ ว่ามันมี อย่าไปทำชั่วอะไรเข้าเชียว เพราะเรายืนยันได้ ด้วยตัวเราเอง โดยไม่ต้องเชื่อใคร

ถ้าผิด เราก็ผิดกับเราคนเดียว คนอื่นๆ เขาไม่ได้เห็นกับเรา เขาย่อมไม่เชื่ออยู่แล้ว ฉะนั้น เมื่อยืนยันได้ด้วยตัวเองว่ามี ก็จงอบรมและสั่งสอนใจตนเอง ให้พ้นจากขุมอบายซะก่อนเถิด

นี่..ที่ท่านฝึก ก็เพื่อไปรู้เห็นและนำมาปลงใจตนเองอย่างนี้ เพราะจริตจริยามันดื้อด้าน หากอะไรที่ยืนยันไม่ได้ มันจะไม่ยอมลง

พวกนี้เป็นพวกจริต ฉฬภิญโญ คือต้องเห็น ได้ลูบคลำ จนแน่ใจ ประจักษ์ใจก่อน ใจมันจึงจะเชื่อ จึงจะลง และน้อมมาทางดับได้ เที่ยงนี้ ขอสวัสดี มีงานรอที่จะทำอีกมากมาย ขอสาธุคุณครับ..!!

พระธรรมเทศนา จากบทธรรม เรื่อง นรก…ขุมที่ 8 ณ วันที่ 20 มีนาคม 2557 โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง