กรรมอันทุบตี บุพการีผู้มีคุณ

กรรมอันทุบตี บุพการีผู้มีคุณ

1224
0
แบ่งปัน

วันนี้เมื่อยตัวทั้งวัน คงกรำงานหนักไป นี่เป็นธรรมดา ที่เราต้องเผชิญเมื่อมีรูป

การได้โยนิโสอยู่เนืองๆ เมื่อเกิดเวทนาเนื่องจากรูป มันเป็นการย้อมจิตให้เห็นชัดถึงความทุกข์เมื่อเกิดมามีรูป

ทุกข์เช่นนี้ เราไม่ชอบใจ ทีทุกข์ที่เลวร้าย คือสุขและความชอบใจทั้งหลาย มันโดนพราก เรากลับยึดมันไว้ให้ทุกข์หนัก แต่ดันไม่รู้สึกตัว

นี่..สุขที่โดนพราก มันช่างทุกข์ใจสาหัสยิ่งกว่า

เราพร้อมที่จะโดนพรากจากสุขทั้งหลายกันหรือเปล่า

เข้าพรรษาทุกปี ข้าต้องเผชิญกับการปวดเส้นและกล้ามเนื้อ นี่เป็นวิบาก ใครแก้ไม่ได้

ลูกศิษย์ : วิบากจากอะไรคะพระอาจารย์เล่าให้ฟังหน่อยค่า

พระอาจารย์ : วิบากจากการทุบตีบุพการี

ลูกศิษย์ : พระอาจารย์เล่าไว้เตือนสติได้ไหมคะ

พระอาจารย์ : ยุ่งเรื่องของข้าอีก มันนานมากแล้วจำไม่ค่อยได้ว่ะ

ลูกศิษย์ : เห็นพระอาจารย์ทำบันไดทาง เดินขื้นเขาแล้ว เอามาพิจารณาวันนี้ทั้งวัน มีหลายสิ่งหลายอย่าง เห็นในความเพียร และความปราณีตในงานที่กำลังทำ แล้วเอามาใช้กับชีวิตประจำวัน เราได้ครับ

พระอาจารย์ : เออ ของวุธมันชมเข้าท่า ข้าเองนี่ คนทั่วไปจะมองเห็นว่า เป็นคนหยาบ พูดหยาบ

มันแค่หยาบอย่างที่ข้าเป็น แต่มันละเอียดกว่าทุกคนที่เขาคิดว่าละเอียด

การเอาหินหยาบๆ มาแปะๆๆ เอาปูนยัดๆๆ เป็นอันว่าเสร็จ ดูว่าง่ายเนอะ

ไม่มีทาง ที่จะออกมาเป็นธรรมชาติหรอก ขอบอกไอ้น้อง

แม้แต่การนำหินแต่ละก้อน มาจัดเรียง ใช่ว่า ก้อนไหนก็จับยัดได้

แกก็ดูห้องน้ำข้าซิ หินมันเป็นธรรมชาติ

แต่ธรรมชาติที่ไหน จะจัดสรรหินให้มันลงตัว ถ้าจับยัดๆๆ ตามใจตนเอง

หินหนึ่งกอง คัดออกมาให้พอดี ได้แค่ไม่กี่ก้อน ที่เหลือ เอาไปใช้อย่างอื่น

แต่ของพวกเรา

เอาแค่นี้ พอแค่นี้ ไม่ต้องเอาไม่ต้องเหนื่อยไปมาก เรา..มันคิดกันแคบไป

ลูกศิษย์ : เคยเหยียบย่ำก้าวเท้าเดินขื้น บันไดฝั่งทางด้านองค์พระขาว เราสักแต่ว่าก้าวขื้นพรวดๆๆ แต่ไม่ทันคิดพิจารณา สักแต่ว่าต้องก้าวๆๆ ให้ถึงปลายทางบนยอดเขา ก็ได้แค่หอบแหกๆ เมื่อคืนวานได้หยิบ ได้ยกได้คัดเลือกหิน ให้ท่าน รู้เลย ใจผมนี้ ได้อะไรเยอะมาก

ลูกศิษย์ : หินมันหนักน่ะ วุธ แต่ละก้อนมันหนัก ยกมาแล้วไม่ใช่ว่า ใหญ่และหนักอย่างเดียว

เราอาจใช้ก้อนนั้นไม่ได้ด้วย เพราะมันไม่เข้ารูป บันไดแต่ละขั้น หินก้อนเล็กก็สำคัญ ใช่ว่าสำคัญแต่ก้อนใหญ่ๆ

ขาดก้อนเล็กไป บันไดก็ไม่มีช่องไฟ ที่ดูเป็นธรรมชาติ

คนเราก็เหมือนกัน ควรใส่ใจกับสิ่งเล็กๆ บ้าง

อย่าคิดว่า สิ่งเล็กๆ มันไม่สำคัญ

สิ่งเล็กๆ นั้นแหละ มันเป็นตัวเสริม ให้ใจเจ้าของ มีความสมบรูณ์แห่งความเป็นคน

สำหรับคนเรา สิ่งนี้ก็คือ…น้ำใจ

น้ำใจเล็กน้อยที่พอจะหยิบยื่น ให้แก่กันและกัน แม้ใครคนนั้น จะมีความสำคัญกับเราแค่เล็กน้อย

แต่น้ำใจที่เล็กน้อยของเรา มันยิ่งใหญสำหรับเขา ขอให้เรา พึงมีน้ำใจ มอบให้แก่กันและกันมากๆหน่อย

โอนะ…คุยเรื่องอื่นเหอะ ฟังนิทานใช่ไหม มาๆๆข้าจะเล่าให้ฟัง

สมัยหนึ่ง….. ข้าจะเล่านิทานไงฟังเปล่า ข้าแสดงเป็นพระเอกเอง

ข้านี่ มีแม่คนหนึ่ง แกก็ไม่ได้รักข้าซักเท่าไหร่หรอก แกมักจะรักน้องๆ มันซะมากกว่า

เมื่อโตขึ้น ข้าก็เป็นคนเจ้าเจ็บเจ้าแค้น

น้องๆ ทุก โดนข้ากลั่นแกล้งและเอาเปรียบ

ข้าเองนี้ เกิดร่ำรวยขึ้นมาด้วยการค้าที่เอาเปรียบ

น้องๆ ทุกคนข้าเอามาใช้งาน และเอาเปรียบทุกๆ คน นี่เป็นความแค้น ที่มันสะสมมาตั้งแต่ตอนเป็นเด็กๆ

เพราะข้าขาดความรักจากแม่ และเห็นแม่ โอ๋แต่น้องๆ

วันหนึ่ง ข้าได้ไปต่างเมือง และได้พบหญิงชายคู่หนึ่งที่มีฐานะมีอันจะกิน

เมื่อได้สืบสาวหาความกัน ข้าจึงได้รู้ความจริงว่า แม่ที่ข้าไม่ชอบใจนี้ จริงๆ แล้ว ไม่ใช่ผู้ให้กำเนิดข้า

ผู้ที่ให้กำเนิดข้านั้น เป็นคนใช้รับใช้ ชายหญิงคนที่ข้ารู้จักนี่แหละ

นางคนนั้น ได้แอบไปได้เสียกับใครมาก็ไม่รู้ เมื่อท้องขึ้นมา ก็กลัวนายจ้างจะไม่จ้างงาน ก็เลยจะเอาลูกออก

แม่คนที่เลี้ยงดูข้ามานี้ ได้ขอร้องไว้ การทำลายเด็กน่ะ มันเป็นบาป

หากคลอดเมื่อไหร่ เขาจะนำไปเลี้ยงดูเอง

แม่นางนั้น ก็เลยอุ้มท้องไว้ และขอลาชายหญิงที่ข้ารู้จักนี้ ไปอยู่บ้านนอกของเขา

เมื่อคลอดแล้ว เขาจึงมาทิ้งไว้ให้แม่คนที่เลี้ยงข้านี้ เอาไปไปเลี้ยงดูแทน และเขาก็มาขอทำงานต่อกับชายหญิงคู่นี้

นี่.. ชายหญิงผู้มีอันจะกินเขาเล่าให้ฟัง

เมื่อข้ารู้เห็นเช่นนั้น จึงถามหาแม่ที่แท้จริง ว่าอยู่ที่ไหน

ปรากฏว่า แม่คนนั้น ตายไปก่อนหน้าข้ามาพบชายหญิงผู้มีอันจะกินนี้ได้ไม่นาน

ส่วนแม่ที่เลี้ยงข้านี้ เขาก็รู้จัก และเรียงเรื่องราวได้ถูก

เขาเอาข้ามาเลี้ยงได้ไม่นาน ก็มีสามี และได้เกิดลูกมาอีก สามคน

ส่วนพ่อที่เป็นสามีนั้น ตายไปนานแล้ว พอข้ารู้ความจริงว่าข้าไม่ใช่ลูกที่แท้จริง

ความเกลียดชังที่โดนทุบตี และไม่ได้รับความรักเหมือนน้องๆ ก็เลยกำเริบ

ข้ากลับมา ทุบตีแม่ที่เลี้ยงข้ามาด้วยความสะใจ มันสะใจที่ได้แก้แค้นคืน เพราะด้วยความที่นางไม่ใช่แม่ข้า

ข้าใช้นางทำงานหนัก เพื่อแลกกับเงินที่ข้าจ้าง

เมื่อไม่พอใจก็เอาไม้ทุบตี ด้วยความแค้น ที่แม่นาง เคยทุบตีข้าอย่างไร้เหตุไร้ผล มาตลอด ตั้งแต่ครั้งเป็นเด็ก

ความเกลียดชังน้องๆ และแม่ ที่ไม่มีความยุติธรรมสำหรับข้า มันกินใจอย่างแรงกล้า

ข้าโดนย้อมด้วยไม้ฝาบ้าน ไม้ไฝ่ลำใกล้มือ และการอดข้าว

ทั้งๆ ที่ไม่ผิดอะไร และไม่เข้าใจ ว่าทำไมบางอย่างมันถึงได้ผิดไปซะหมด ในสายตาของแม่

แม้ตอนเป็นหนุ่ม แม่ก็มาทุบหัวด้วยไม้ให้อายเพื่อนๆ เมื่อแม่มาตามให้ไปดูแลน้องๆ

คำด่าทอที่แสนหยาบ และโดนจิกหัวใช้ ทำให้ ข้านี่ น้อยใจ แม่คนนี้ ทำไมไม่รักข้าเลย

ความแค้นจึงไปลงกับน้องๆ น้องจะเป็นที่ระบายแค้น

ยิ่งระบายกับน้องๆ แม่ก็ยิ่งทุบตีและขังไว้ไม่ให้กินข้าว

ข้าก็เริ่มเป็นคนขโมย มาตั้งแต่เด็ก ขโมยทุกสิ่ง เพื่อไม่ให้ตนเองต้องอด

เป็นคนคดโกงตั้งแต่ยังเป็นเด็ก เจ้าเลห์เพอุพาย เพื่อเอาตัวให้รอด

เมื่อโตขึ้นมา ด้วยความที่เอาเปรียบคนจนเป็นนิสัย เพราะกลัวตนอดอยาก ข้าก็เลยร่ำรวย และไม่คิดจะเอื้อเฟื้ออะไรให้แก่ใคร เพราะใครๆต่างก็รังแกข้าเป็นประจำอยู่แล้ว

และไม่ค่อยจะเลี้ยงดูแม่ ที่ชอบทุบตีและดุด่าข้าด้วยคำหยาบๆ เมื่อมารู้ว่า นี่ไม่ใช่แม่แท้ๆ

ความที่เก็บกดความแค้นมานาน มันก็เลยระเบิด แม่ข้า โดนข้าทุบตีทุกครั้งที่ข้าไม่ได้ดั่งใจ

ตอนแม่ข้าแก่ตัวหน่อย อยากจะไปเข้าพรรษาอยู่ที่วัด แต่ข้าไม่ให้ไป ข้าจะให้ทำงานอยู่ที่บ้านแทน

เมื่อแกแอบไป ข้าจึงสั่งคนใช้ จับกลับมาและทุบตี จนเส้นต่างๆ ของแม่ข้า ระบมเดินแทบไม่ได้

แต่ข้านี้สะใจที่แม่แกเดินไม่ได้ น้องๆ จะเข้ามาช่วย ข้าก็สั่งให้คนใช้จับและซ้อมจนสลบ

ปีนั้น ข้าโดนโจรเข้าปล้นร้านค้า และได้ต่อสู้กันกับพวกโจร ปรากฏว่า ข้าโดนโจรทุบตาย

เมื่อตาย ก็ไปอยู่ในนรกนานหลายอัตถกัปป์ เลยทีเดียว

กว่าจะหลุดออกมา เป็นเปรต เป็นอสูรกาย เป็นสัตว์ มันช่างยาวนาน

นี่..เพราะเป็นใจที่โหดเหี้ยม ขาดความมีน้ำใจต่อคนรอบข้าง

แม้ธรรมชาติแห่งวิบาก มันจะส่งผลให้ต้องเผชิญกับครอบครัวที่แสนโหดร้ายก็ตาม

แต่ใจที่มันมีอกุศลวิบากมันมาให้ผลและต้านด้วยความดีไม่ได้ ความเกลียดชังและเจ้าคิดเจ้าแค้น มันฝังแน่น ในใจตลอดเวลา

เมื่อมีโอกาส ข้าก็เลยเล่นงานและตอบแทน โดยไม่คิดสงสารใคร แม้ผู้นั้นจะเป็นแม่ผู้เลี้ยงดูข้ามา ตั้งแต่เล็กๆ ก็ตามที

นับจากนั้น หลังจากได้เกิดมาเป็นคน ไม่ว่าจะเป็นชาติไหนๆ ที่ได้เกิดมา

กรรมอันทุบตี บุพการี ผู้ให้ชีวิต มันก็ให้ผลติดตามมาเป็นเศษกรรม ทุกๆ ชาติไป

แม้ชาตินี้ จะเข้าถึงความเป็นผู้สิ้นสงสัย กรรมตัวนี้ก็ยังจรดจ่อรอให้ผล เมื่อถึงวันเข้าพรรษา ไปจนเกือบสิ้นปี

หมอไหนก็รักษาไม่หาย และข้านี่ ก็ต้องเป็นทุกปี บางปี

ยกแขนนี่ ไม่ได้เลย มันเจ็บปวด เส้นมันยึดเป็นก้อนๆ แต่เมื่อใกล้สิ้นปี มันจะทุเลาและหายไปเอง

ที่มันหายไปเอง ส่วนหนึ่งเกิดจากการที่ข้ายอมรับสภาพ ว่ามันเป็นธรรมดา ของวิบาก

และข้าก็อยู่ร่วมกับมันได้ โดยที่ไม่ทุกข์ใจนัก

นี่..วิบากอันเกิดจาก ทุบตี บุพการี ผู้มีคุณให้ชีวิต แม้ไม่ใช่แม่แท้ๆ ผู้ให้กำเนิดก็ตามที

โอเคนะ นิทานคืนนี้ จ่ายค่าเล่าด้วยไอ้พวกอยากรู้

พระธรรมเทศนา ณ วันที่ 3 สิงหาคม 2558 โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง