นรกขุมที่ 9 โลกันต์นรก ท่อนที่ 2

นรกขุมที่ 9 โลกันต์นรก ท่อนที่ 2

662
0
แบ่งปัน

นรกขุมที่ 9 โลกันต์นรก ท่อนที่ 2หวัดดี ทุกคน มาๆๆๆๆๆ ต่อเรื่องโลกันต์นรก พวกแกนี่ โชคดี มีผู้เฒ่าเล่านิทานให้ฟังทุกวัน คนเรามันหนักมาในทางหากิน จนลืมคิดว่า ชีวิต ไม่ได้มีเพียงแค่นี้

ต่างก็ทุกข์กับความไม่ได้ดั่งใจ เป็นเจ้าของความไม่ได้ดั่งใจ ถอดถอนไม่ออก ในโลกันต์ นรก มีสัตว์ประเภท ถอดถอน เรื่องปวดกระบาลนี่แหละ เยอะ

มันถอดถอนกันไม่ออกเครียดและคิดมาก ทั้งยึด และอึดอัด ขัดข้องกับการที่ต้องเผชิญกับคนรอบข้าง แต่เป็นพวกคอยเอาเปรียบ ผู้คนและพวกพ้อง

พวกด่าทอพ่อแม่ ด้วยเหตุแห่งมิจฉาทิฏฐิ จาบจ้วงครูบาอาจารย์ กล่าวร้ายอริยสงฆ์ ทำลายและปองร้ายผู้มีคุณต่อแผ่นดิน พวกนี้ มารวมหมู่อยู่ใน โลกันต์นรกขุมนี้

พวกโกงแผ่นดิน ด่าทอผู้ปกครองแผ่นดิน โดยหามูลจริงที่ประจักษ์ใจไม่ได้ พวกนักการเมืองฉ้อโกง พวกเบียดเบียนเงินสงฆ์เงินวัด พวกยายชี ที่รอรับสังฆทานแทนพระ พวกมารศาสนาทุกศาสนา พวกเอาของสงฆ์และแผ่นดิน โดนเจตนา พวกนี้ลงโลกันต์นรก

พวกทำลายชาติ ทำลายแผ่นดิน พวกปลิ้นปล้น ยุยงปั่นป่วนผู้คน ให้เห็นตาม ในเรื่องที่กุขึ้นมา พวกจ้องเอาเปรียบบริษัท ด้วยเจตนา ทั้งๆ ที่อาศัยบริษัทหล่อเลี้ยงชีพ พวกพระ พวกสงฆ์ ที่ประพฤตินอกรีต ชี้ธรรมที่เป็นมิจฉา อาศัยของศรัทธา แต่ทุศีล พวกนี้ เฮกันไปอยู่ โลกันต์นรก

พวกนอกรีต แต่ทำตัวเป็นผู้รู้ธรรม ชี้ธรรม เขียนธรรมตามความรู้สึกนึกคิด เพื่อหวังสรรเสริญ และลาภสักการะ ทั้งที่ถากหัวและไม่ถากหัว พวกนี้ อาศัยศรัทธาหล่อเลี้ยงชีพ โดยการหลอก ตายเมื่อไหร่ พุ่งไปโลกันต์นรก

พวกกล่าวตู่ธรรม ให้ร้าย ป้ายสีผู้ทรงคุณ โดนอารมณ์ ชักชวนผู้อื่นให้คล้อยตามในสิ่งที่ตนเองคิดเอา เพื่อทำลาย พ่อ แม่ ครูบาอาจารย์ พระอริยเจ้า พระมหากษัตย์ ท่านผู้ทรงศีล ท่านผู้ทรงคุณต่อแผ่นดิน โกงเงินวัด โกงเงินแผ่นดิน โกงชาติบ้านเมือง โกงผู้หวังดี และคดโกง เอาเปรียบลูกค้าทั่วไป ที่เขาเป็นคนดี พวกนี้ ไปลงโลกันต์นรก

ที่จริงมันก็ยังมีอีกมากมาย ในการหาวิธีไป เยือนนรกขุมนี้

บางพวก ก็หลุดมาจากมหานรกขุมอื่น แล้วมาเสวยวิบากต่อที่ขุมนี้ ก็มี

บางพวกต้องไปตัดสิน วิบากกรรม ในยมโลกก่อน ก็มี

บางพวก กายแตกปั๊บ พุ่งมากำเนิดปุ๊บที่นี่เลย ก็มี

พวกที่มาเกิดที่นี่แล้ว มันจะรำพึงรำพันกับตัวเอง ทำนองว่า นี่เวรกรรมอะไรของกู ที่ต้องมาจมอยู่กับความมืดมิดอยู่แต่เพียงผู้เดียวเช่นนี้

ร่างกายอันใหญ่โต มโหฬารที่เป็นร่างสัตว์ ขนาดมหึมา ตนเองก็มองไม่เห็น ความใหญ่โตของเรือนร่าง ที่ต้องปีนป่าย ใช้เล็บมือเล็บเท้าที่แข็งแรง และคมกริบ เจาะกระแทกเกี่ยวห้อยโหนไปตามผนังหินที่เย็นเฉียบนั้น มันมีความสูง ตั้ง 6,000 วา ก็ราวๆ 12,000 เมตร น่ะท่าน

ตัวตนใหญ่โตมโหฬารปานนั้น ทำให้ตนเอง หิวแต่อาหาร และต้องสู้ทนกับความหนาวเหน็บ ที่แทรกซึมเข้าสู่กระดูก

นี่..เป็นวิบากที่ เอาความคิดแห่งตัวตน ที่มันใหญ่ล้นฟ้า ไม่ฟังใคร พอตายไป ได้มากำเนิดอยู่ที่นี่ กายก็เลยใหญ่ไปด้วย

คนที่คิดว่าตนเองถูก คนอื่นผิด ไม่รับฟังคำทักท้วง นำทิฏฐิแห่งตนไปประจานให้ผู้อื่นฟัง หากผู้โดนประจาน เป็นอริยชน มันผู้นั้น ซวย…มาลงขุมนี้แน่ๆ

เราจึงควรระวังกาย วาจา ใจ ของเราให้ดี อย่าให้มันไปราวีใคร ที่ดูแล้ว น่าจะทรงคุณ แต่หากเรา ไม่รู้ไม่เห็น ว่าจริงๆ แล้วท่านเป็นอย่างไร

แต่เห็นพฤติกรรม การแสดงออก มันผิดศีลธรรม อย่างนี้ ด่าแม่ได้ ไม่ต้องกลัว ไม่ลงนรกหรอก ไม่ว่าจะถากหัว หรือหัวดำห่มขาว

ด่าแม่มันไปได้เลย ไม่ต้องกลัว ไม่ลงนรกหรอก หากเห็นประจักษ์ชัดว่าเลวจริง ชีวิตคนเราเกิดมา สั้นนิดเดียว อย่าไปคิดว่า มันยาวนานเลย

เราอยู่กันเพลินๆ หน่อยเดียว อายุมันก็ไหลไปไกลแล้ว ที่สำคัญ มันต้องจาก มันต้องเจ็บ มันต้องแก่ และมันต้องตาย

เราเกิดมา มีความสุขกับการกิน มีความสุขกับการนอน มีความสุขกับการสืบพันธ์ และระหวาดระแวงภัยที่จะมาถึงตัว จิตเหล่านี้ แม้แต่สัตว์ มันก็มีของมัน

เกิดเป็นมนุษย์แล้ว มันน่าอายสัตว์ ที่ทำได้แค่นี้ เช่นเดียวกับสัตว์ ไปเกิดเป็นสัตว์ต่อแน่ๆ หลังจากหมดภูมินี้ เพราะมันเอาจิตสัตว์ มาใช้กับเรือนร่าง ที่ได้มีโอกาส เป็นมนุษย์

ทั้งๆ ที่การได้เกิดเป็นมนุษย์ มันสามารถ แหวกวัฏฏะ ก้าวพ้น ออกจากภูมิที่เป็นทุกข์ทั้งหลายได้ การเกิดกำเนิด แม้จะไปเป็น เทวดา พรหม หรือ ในภูมิไหนๆ สุดท้าย มันก็ต้องกลับมาเวียนว่าย อยู่ในภพภูมิเดิมๆ อีก มันไปไหนไม่ได้ ที่ไปไม่ได้ เป็นเพราะเราขาดปัญญาที่จะไป

เอาละ คืนนี้ คงต้องขอโม้แต่เพียงแค่นี้ เรื่องนรก ทั้ง 9 ขุม ข้าก็ได้สาธยายออกมาตามเหตุตามปัจจัย ให้เป็นแนวทางพอควร

ขอให้ท่านทั้งหลาย มีแต่ความสุขความเจริญ ประสงค์สิ่งใดก็ขอให้ได้สมความมุ่งหมาย สมความมุ่งหวัง ที่ได้ตั้งจิตคิดอธิฐาน สรรพทุกข์ สรรพโศก สรรพโรค สรรพภัย สรรพเคราะห์ เสนียดจัญไร วินาศสันตุ ….คืนนี้ ขอสวัสดี ทุกๆท่าน..!!

พระธรรมเทศนา ณ วันที่ 21 มีนาคม 2557 โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง