*** “ถูกผิดเป็นอัตตาตน ท่านพึงรู้จักมันอย่าเพิ่งไปครอบงำมันว่าเราเป็น” ***
หากเราเข้าใจธรรมชาติชนิดแทงตลอดสาย
ความโกรธอาฆาตแค้น
ก็จะไม่มีเหลืออยู่ในใจเรา
นั่นเป็นธรรมแห่งไตรลักษณ์
เราเข้าถึงไหม..
อริยสัจอยู่เหนือไตรลักษณ์
มันเป็นหลักเหตุหลักผล
ขอให้เข้าใจธรรมแห่งอัตตาและอนัตตาก่อน
อัตตาและอนัตตา เป็นธรรมชาติแห่งไตรลักษณ์
การลดทอนอัตตาลง
ก็จะเข้าใจธรรมชาติต่างๆได้มากขึ้น
บางครั้ง..เราอาจเห็นคนอื่นผิดคนอื่นถูก
ผิดถูกนี่เป็นอัตตาอันเกิดมาจากสัญญาเรา
ที่สร้างสัญญาขึ้นมา
หากเข้าใจเราก็อยู่กับสิ่งที่ถูกและผิดนั้นได้
สิ่งที่ถูกและผิด เป็นสมมุติอย่างหนึ่ง ที่ไม่มีในธรรมชาติ
อะไรที่ไม่มีในธรรมชาติ มันเป็นธรรมชาติสมมุติอย่างหนึ่งที่เราสร้างมันขึ้นมา เพื่อการอยู่ร่วมให้เกิดความง่ายดายขึ้น
หากเราแจ้งในสมมุติ เราจะอยู่เหนือสมมุตินั้นด้วยสมมุติที่ใครๆเขาก็อยู่กันอย่างไม่เดือดร้อนอะไรนัก
สมมุติเป็นอัตตาตัวหนึ่ง ที่เราสร้างขึ้นมาเพื่อให้รู้จักและเรียนรู้ธรรมชาติ
แต่เราไม่รู้ว่า ธรรมชาติที่เราเรียนรู้และสร้างขึ้นมานั้น มันเป็นเพียงแค่สมมุติ
เมื่อจิตเราเสพเนืองๆและตกอยู่กับกระแสสมมุติ
ความถูกผิด ใช่ ไม่ใช่ อะไรทั้งหลายมันก็เกิดกับหัวใจเรา
เมื่อมันเกิดและเราไม่รู้จักมัน ไม่เท่าทันภาวะสัญญาของมัน
เราก็จะตกไปเป็นทาสสิ่งต่างๆด้วยอารมณ์
และจำนนต่อแรงถาโถมที่มากัดกินหัวใจเราอยู่เนืองๆ ไม่มีวันสงบสุข
ผู้มีความสุข คือผู้ที่เข้าใจธรรมชาติเหล่านี้ ว่าเป็นสิ่งสมมุติขึ้นมาเป็นอัตตาทั้งสิ้น
ท่านอยู่เหนืออัตตาสมมุติด้วยปัญญา
ไม่ได้อยู่ด้วยอัตตาที่หลงไปในกระแสสมมุตินั้นด้วยอาการหลงเช่นผู้คนทั้งหลาย
ผิดถูกเป็นอัตตาท่านรู้ไหม..ท่านพึงเข้าใจธรรมชาติทั้งหลายด้วยอายตนะที่ท่านมี
การเข้าใจธรรมชาตินั้น เป็นธรรมแห่งไตรลักษณ์.
ธรรมทั้งหลายที่เราชอบใจกันนั้น
เป็นธรรมแค่วลีและหัวข้อ
วลีธรรมและจำหัวข้อมาพูด
ชาตินี้ไม่มีวันเข้าถึงธรรมหรอก
มันแค่ถูกใจและเห็นว่าใช่
เอาตัวตนเข้าไปเป็นกันทั้งนั้นแหละ
พระธรรมเทศนา ณ วันที่ 24 มีนาคม 2563
โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง