อาริยะโมเดล

อาริยะโมเดล

234
0
แบ่งปัน

*** “อาริยะโมเดล” ***

หวัดดียามเช้า

คนที่ด่าพระอย่างนั้นอย่างนี้นี่ ด่าแบบคุมไปทั่ว

พวกนี้ไม่ค่อยมีใจทำกุศลกับพระอยู่แล้ว

ถ้าทำกับพระ ก็ต้องเป็นพระที่ตนถูกใจ ว่าไปตามความเห็นตน

ผู้คนเหล่านี้ ล้วนอัตตาจัด

เรียกว่า บ้าธรรม บ้าความดี บ้าเหตุ บ้าผล บ้าความรู้ บ้าตำรา

บ้าเพื่อให้เป็นไปในความคิดเห็นแห่งตน
นั่นถูกนี่ผิด

พระบวชมาแล้วต้องแป๊ะตามธรรมวินัย ตามอักขระที่ตำราเขาเขียนมา

ตอแหลเรียกศรัทธาน่ะได้ แต่มันไม่เป็นไปตามเหตุปัจจัย

การบวชนี่ ว่าไปตามเหตุปัจจัยที่มันพอควรพอดีๆ

พวกบวชมาแล้วทำแต่เรื่องอัปรีย์ ทำลายศรัทธานี่ก็เยอะ

พระบวชมาแล้ว ก็อยากเป็นพระดีๆทั้งนั้นแหละ

บวชมาแล้วไม่ใช่มาอยู่สบายๆอย่างที่ใครเขาคิดกันหรอก

การฝึกอบรมจิตนี่ มันต้องทวนใจทั้งนั้น

แต่พอบวชไปๆ สันดานเดิมมันครอบงำเอาน่ะ ทำไงได้

มันขาดความละอายชั่วกลัวบาป บ้ายศ บ้าตำแหน่ง สะสม กลายเป็นเปรตไปซะนี่

พระดีๆน่ะมีเยอะ น่ากราบน่าไหว้เป็นเสาหลักให้แก่ชาวบ้าน

แต่ไอ้พระมาเฟียพระเฮงซวยนี่ก็มีเยอะ เวลาคนด่า เขาก็ด่าคุมไปหมดแหละ

เลยกลายเป็นว่า พระนั้นต้องได้ดั่งใจตน ห้ามอย่างนั้น ห้ามอย่างนี้

อ้างตำรา อ้างพระพุทธองค์ว่า แล้วตำหนิ ด่าพวกพระซะป่นปี้

ชีวิตข้า เคยเจอพวกผี ที่ตายแล้วมาเร่ร่อน

ตอนเป็นคน มันก็มีอาการเดียวกับที่คนเขาเป็นกันตอนนี้แหละ

มนุษย์นั้นมองไม่เห็นบาป

เมื่อไม่เห็นก็ไม่เกิดความละอายใจตน

วันหนึ่ง เมื่อต้องเผชิญ

ความเร้าร้อนแห่งใจและทุรนทุรายจะครอบงำจิต

กลายมาเป็นวิญญาน ที่พร่ำเพ้อรำพันว่า ไม่น่าเลยๆๆๆ

จะว่าจะกล่าว ก็ให้ว่าไปตามเหตุปัจจัยเถอะ

อย่าให้ถึงกับ ชักชวนผู้คนให้เกลียดชังเหล่าพระสงฆ์ เพื่อให้เห็นด้วยกับตน

ดูเหมือนหวังดี แต่ทำลายสงฆ์ซะป่นปี้ ด้วยมาตฐานที่ตนรู้ตนอ่านมา จำมา ว่าต้องเป็นอย่างนี้ๆๆ

นี่แหละ…พวกอัตตาจัด ยิ่งหัวหงอกหนังหน้าแก่เหี่ยว อัตตายิ่งจัดขมปี๋ เลยแหละท่านเอ๋ย..

มาว่ากันถึงเรื่องสมาธิ

เรื่องสมาธินั้น ข้าทำมาก เจริญมาก ทำมานาน

แต่ใจข้านี่ก็ยังเลวเหมือนเดิมนั่นแหละ ไม่เปลี่ยนแปลง

ที่คิดชั่ว มันก็ชั่วอยู่นั่นแหละ ไม่ใช่ว่านั่งสมาธิแล้วจะไม่ทำให้ใจคิดชั่ว

หรือทำแล้วหายขาดจากกันจากความชั่ว

สมาธินี่ ใช้รองรับปัญญา ที่มันจะเกิดน่ะ

ไม่มีสมาธิ ปัญญามันก็เกิดยาก เพราะขาดกำลัง

จะเป็นคนดีเลวนี่ มันเนื่องด้วยปัญญา

เรานำปัญญาอันเกิดจากการอบรม มาเป็นเครื่องอยู่ตามเหตุปัจจัย

ส่วนวิธีการทำ ก็ลองค้นๆลงไปดู ข้ากล่าวไว้หลากหลาย

ทำแล้วอย่าทรนงตนเลย ว่าตนเป็นนักสมาธิ เป็นคนดี

ไม่งั้นคนที่ไม่ทำ หรือทำน้อยกว่าตน มันก็จะเป็นคนเลวหมด

ยิ่งทำยิ่งเป็นคนดี เหนือชั้นคนอื่นที่ไม่ทำ อย่าไปทำ…


>>> คำถาม <<< นมัสการครับพระอาจารย์ผมเป็นคนบ้าคาถาต่างๆมากมายเดียว

พุทโธ เดี๋ยวก็ไตรสรณคมน์

เดี๋ยวก็นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ

จะพะกะสะ นะชาลีติ อิธะคะมะ

สุนะโมโล สารพัดคำภาวนามัน

มั่วไปหมดเหมือนคนจับจดเลย

ไม่ก้าวหน้าสักที ผมกราบขอความเมตตาจากพระอาจารย์ได้โปรด

ให้คำสอนและคำแนะนำในการ

ปฏิบัติให้ก้าวหน้าด้วยครับ

ป ล ผมเป็นคนชอบแนวอภิญญา

แต่ติดที่เป็นฆราวาสต้องทำงานหาเงินเลยไม่สามารถทุ่มเทได้ดั่งใจ

ขอพระอาจารย์ได้โปรดสั่งสอนด้วยครับกราบขอโทษด้วยครับที่ถามมายาวมากสาธุๆกราบขอบพระคุณครับ

<<< พระอาจารย์ตอบ <<< เราชอบคำบริกรรมอะไร เราก็ตั้งมั่นกับคำบริกรรมนั้น

ชอบคาถาก็ว่าคาถา

ชอบหลายๆคำ ชอบหลายๆบท

ก็ว่าไปตามที่ตนถนัด

คาถาต่างๆ บริกรรมต่างๆ เป็นเพียงที่ตั้งแห่งใจให้มีเครื่องเกาะยึด

จริงๆก็ไม่ใช่สาระอะไร

ไม่ท่องก็ได้ ถ้าท่องอะไร ก็ใช้ใจเพ่งคำท่องนั่น

ถ้าท่องแล้วไม่เพ่ง มันไม่เป็นสมาธิ


คำถาม >>> กราบ นมัสการพระอาจารย์ครับ แล้วการคิดพิจารณา กับการคิดฟุ้งซ่าน มันต่างกันอย่างไรครับ สาธุๆๆ

<<< พระอาจารย์ตอบ <<< พิจารณา มันอยู่กับสิ่งที่เพ่งในเหตุปัจจัย

ฟุ้งซ่าน มันหลากหลายเรื่องไม่มีจุดหมาย

>>> คำถาม >>> การเจริญสติให้ได้มากที่สุดในแต่ล่ะวัน อาจจะไม่ได้นั่งสมาธิเลย..

กับบางคน ไม่ได้เจริญสติเลย แต่มาเน้น
กับการ นั่งสมาธิ เอาสักครึ่งชั่วโมง นี่..

ผลจะต่างกันยังไงครับ ท่านอาจารย์..

กราบสาธุ ครับ. 🙏

<<< พระอาจารย์ตอบ <<< เจริญสติก็ระลึกได้มากเท่าที่ปัญญามี

ส่วนการนั่งซักครึ่งชั่วโมง ก็เป็นการสะสมแรง ไว้เจริญสติให้มันแข็งแรง

>>> คำถาม >>> หนูทำไม่ได้เพราะกลัวผี พอเริ่มนิ่งๆหน่อย เงียบหน่อย สงบเข้าหน่อย ผีในมโนที่คิดเอง ชอบออกมาก่อกวน เฮ้ย เสียงไรอ่ะ ประมาณนี้อ่ะคะ แก้ยังไงดีคะพระอาจารย์

<<< พระอาจารย์ตอบ <<< ก็หาเพื่อนนั่ง แล้วค่อยๆแก้ไปจนนั่งคนเดียวได้

อาการกลัวนี่ต้องสร้างความแยบคายแห่งจิต ต้องเอาปัญญาเข้าไปแก้

ถ้าเรามั่นใจว่าเราเป็นคนดี เป็นผู้บริสุทธิ์ เราเอาความมั่นใจนี้มาเป็นเครื่องตั้งมั่นแห่งใจ

ความกลัวจะเบาบางลงไปตามกำลังของปัญญา

>>> คำถาม >>> คุกเข่าก้มกราบ กราบ กราบพระอาจารย์ด้วยใจอันเคารพยิ่ง ใคร่ขอกราบเรียนถามพระอาจารย์ว่า

สมาธินี้มันมีกี่ประเภทมันเป็นสมาธิชั่วก็มี สมาธิดีก็มี ใช่หรือไม่ครับ

หรือสมาธินี้เป็นกลางๆ ที่ผู้ใดอบรมดีแล้วเจริญมามากแล้ว จะเอาไปใช้ในทางใด

เพราะเห็น คนที่เล่นคุณไสย์มนต์ดำ ก็ใช้สมาธินี้ไปในทางที่ชั่ว

แล้วสมาธิที่ได้มีโอกาสเสื่อมถอยไหมครับ กราบสาธุครับ (ถามให้น้องๆครับ)

<<< พระอาจารย์ตอบ <<< ดีชั่วอยู่ที่คนใช้ ไม่ใช่สมาธิมันเป็นน่ะ

สมาธินั้นไม่มีเสื่อม ที่ดูเสื่อมเพราะไหลไปกับกิเลสตัณหามากไปน่ะ

ตัณหามันเชี่ยวกรากกว่า ใจจึงไหลไปในความเชี่ยวกรากแทน

>>> คำถาม >>> ถ้าคิดเรื่องงาน วางแผนขั้นตอนการทำงานและการแก้ไขปัญหา อย่างนี้คือพิจารณามั้ยครับ

<<< พระอาจารย์ตอบ <<< เป็นการวางแผนเพื่อไปสู่ผลที่เราต้องการ

การพิจารณาคือการหาเหตุหาผล สาวลงไปเรื่อยๆจนถึงจุดที่ตนมองเห็นว่าใช่ หรือไม่ใช่ตามกำลังแห่งปัญญา

พระธรรมเทศนา ณ วันที่ 20 มิถุนายน 2561

โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง