มุมมองชาวอินเดียที่มองมาทางพุทธไทย

**** “มุมมองชาวอินเดียที่มองมาทางพุทธไทย” ****

เมื่อวานได้นั่งพูดคุยธรรม เกี่ยวกับความเป็นจริงตรงหน้า ที่เรามองไม่เห็นกับชาวอินเดีย ที่ศรัทธาในพุทธะ

เขามีความเชื่อและศรัทธาในตัวข้ามาก ข้าบอกเขาว่า ความศรัทธามากมายที่เขามีนี่ มันเป็นผลร้ายมากกว่าผลดี

วิถีพุทธนั้น ไม่ใช่ศรัทธามากมายขนาดนั้น ดูว่าเขางงและตกใจ

เขาเล่าว่า ในอินเดีย เนปาล บังคลาประเทศ พม่า แม้ในไทย เหล่าพระส่วนมาก ทำตัวไม่น่าเคารพนับถือ

ส่วนใหญ่บวชเข้ามาเพื่อต้องการหาเงิน มีความเป็นอยู่ฟุ้งเฟ้อ ทำตัวเป็นเทวดา มีเงินมาก เขารู้จักพระเยอะ

ในอินเดีย ศาสนาพุทธเสื่อมลงไปมาก พระที่อยู่ในอินเดีย ไม่ได้ปฏิบัติอะไร กินนอนอยู่เฉยๆ รอรับศรัทธาจากชาวบ้าน นักท่องเที่ยวของประเทศตน

พระผู้ใหญ่ไม่บิณฑบาตร มีเครื่องใช้อุปโภคบริโภคแบบคนรวย ห้องนอนติดแอร์ปูพรม

ที่อยู่อาศัยแบบคนร่ำรวย ดูแล้วเหมือนไม่ใช่นักบวช เป็นเพียงแค่เอาจีวรมาห่มมาสวม เพื่อหลอกผู้คนว่านี่เป็นพระ

ที่อินเดีย พราหมณ์นักบวชก็คือนักบวชจริงๆ ออกจากเรือนมาหาความจริง กินอยู่ลำบาก แต่เขาพอใจในการเป็นอยู่อย่างนั้น

เวลาหนาวก็ไม่ค่อยมีเครื่องนุ่งห่มหนาๆแบบพระในพุทธศาสนา รองเท้าไม่ใส่ กินอาหารน้อยมื้อ นอนน้อยหรือไม่นอนกันเลย

ผู้คนที่นั่น เขาศรัทธาผู้บำเพียรตนแบบนี้ ไม่ใช่เป็นอยู่อย่างหรูหราแบบพระชาวพุทธ ที่ดูเหมือนหลอกลวงว่าตนคือนักบวช

เขามาเห็นข้าใส่บังสุกุลจีวร เดินทางไม่ใส่รองเท้า กินครั้งเดียว ไม่มีกุฏิ นอนง่ายๆ กินง่ายๆ อยู่ง่ายๆ

ไม่หนักไปไม่น้อยไป แต่มีธรรมที่น่าอัศจรรย์ เขาจึงมีศรัทธา เขาอยากให้พระแบบนี้ไปอยู่ที่ประเทศอินเดีย

เขาบอกว่า ข้ามีความเป็นอยู่และดวงตา เหมือนองค์ดะไลลามะ ที่เป็นที่นับถือของชาวอินเดียและธิเบต

เขาสนิทกับองค์ดะไลลามะ เพื่อนเขาชื่อเดนิสที่แสดงเป็นพระเจ้าปเสนทิโกสน ในเรื่องพระพุทธเจ้า ก็เป็นศิษย์ไกล้ชิดองค์ ดะไลลามะ

เมื่อได้มาที่นี่ ได้ฟังธรรม ที่เขาไม่เคยได้ยินได้ฟังจากใครมาก่อน ได้นำเรื่องนี้และธรรมเหล่านี้ ให้อาจารย์เขาฟังและพิจารณาดู

องค์ดะไลลามะมีความสนใจในตัวข้ามาก ได้เข้าไปดูข้อธรรมและภาพต่างๆในเฟสบุ๊ก

ท่านได้กล่าวว่า พระองค์นี้มีธรรม เจริญรอยตามแบบพระพุทธเจ้า หากมีโอกาศ ท่านอยากพบและอยากเจอ

เขาบอกว่า ในอินเดีย ธิเบตและเนปาล ได้มีพระที่เข้าใจภาษาไทยแปลธรรม ที่ข้าได้สาธยายในเฟส กระจายออกไปในหมู่พวกเขา

เขาเองก็ได้รับทราบธรรมมาจากเฟสบุ๊กที่มีการเผยแพร่นี่แหละ โดยการแปลภาษาจากกูเกิ้ล

ด้วยเหตุนี้ เขาจึงมีความศรัทธา และเดินทางมาถึงที่เกาะบุญญพลังนี่

เดนิสเพื่อนเขาที่เป็นดาราหนังก็กลับไปบอกกล่าวในกลุ่มเขาว่า จะมาอยู่ทำงานที่นี่ซักหนึ่งอาทิตย์ในครั้งต่อไป

เรื่องราวเหล่านี้ มันเกิดเพราะมีความศรัทธา เขาบอกว่า มีพระเกลียดข้าเยอะแยะ เมื่อเขาเอ่ยถึงข้าให้ฟัง

ข้าบอกว่ามันเป็นธรรมดา พระพวกนี้เดือดร้อนเพราะคิดว่าข้าด่ามัน มันคิดว่าข้าไม่เข้าข้างพระด้วยกัน

เขากล่าวว่า อีกหน่อยพุทธในไทยก็จะโดนกลืนกินศาสนาแบบประเทศอินเดีย

เพราะเหล่าพระทำตัวไม่น่านับถือ อยู่กินนอนแบบชาวบ้าน แต่ตั้งตนเป็นเทวดา เป็นพระเจ้า

ต้องการแต่เงิน สะสม แย่งชิงตำแหน่ง ยศฐาบรรดาศักดิ์และชอบสรรเสริญ

นำความงมงายมาสู่ผู้คน ทำตัวไม่น่ายกย่องนับถือ แบ่งฝักแบ่งฝ่ายและเล่นการเมือง

ส่วนมากเรียนทางพระเพื่อมุ่งแสวงหาลาภ หายศ หาตำแหน่ง เพื่อให้คนยกย่องนับถือ

ไม่ได้เรียนเพื่อนำมาปฏิบัติให้เห็นแจ้งตามแนวศาสนาพุทธแบบนักบวช

ไม่ปฏิบัติภาวนา เอาแต่ทะเลาะเบาะแว้งทิ่มแทง ขับไล่ ไม่แยกแยะดีชั่ว มุ่งประโยชน์ส่วนตน

ความถดถอยเช่นนี้ มันมีมาในอินเดีย อินโดนิเซีย ที่พุทธศาสนาล่มสลายไป ทั้งๆที่เป็นศาสนาพุทธที่ยิ่งใหญ่

ต่างล่มสลายก็เพราะชาวพุทธทั้งหลาย เป็นอย่างชาวพุทธไทยในปัจจุบันนี้แหละ

ชาวบ้านเอือมระอา ต่างหันไปนับถือศาสนาอิสลาม พราหมณ์ และคริสแทน

นี่เป็นมุมมองของชาวอินเดีย ที่มองพุทธศาสนา

เขาหวังว่า จะมีใครซักคน ฟื้นฟูความเป็นพุทธ และความศรัทธาต่อผู้คน ให้เป็นพุทธะจริงๆและเจริญยิ่งๆสืบไป

เล่ากันให้ฟังเล็กน้อยยามเช้าวันนี้ ในมุมมองของชาวอินเดีย ว่าจะคุยเรื่องปล่อยวาง ที่ชาวอินเดียยึด เลยยกไปคราวหน้าละกัน ไม่ว่างแล้ว..

พระธรรมเทศนาโดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง
วันที่ 28 กันยายน 2560