นิพพาน เป็นอัตตา หรืออนัตตา

นิพพาน เป็นอัตตา หรืออนัตตา

1306
0
แบ่งปัน

พราหมณ์ชาวฮินดูชื่อ “อรชุน” ได้ถามพระอาจารย์ว่า

นิพพาน ….เป็นอัตตาหรืออนัตตา.. เพราะทางพราหมณ์ ถือว่าการรู้แจ้งแห่งอาตมัน คือการหลุดพ้น การสิ้นไปแห่งฐิทิจากตัวตน จากเหตุปัจจัยทั้ง 5 มีพุทธิจิตที่บริสุทธิ์

การกระทำอันใดแห่งอาตมัน ย่อมไม่แปดเปื้อนด้วยบาป ทั้งฝ่ายกุศลและอกุศล พุทธิย่อมอยู่เหนือกรรม การบรรลุซึ่งการหลุดพ้นนั้น มีสภาวะที่อยู่เหนือไตรคุณ

ต้นกำเนิดจักรวาลคือพระพรหม การก้าวเข้าไปถึงต้นกำเนิดแห่งจักรวาล ทั้งด้านเสื่อมและไม่เสื่อม รู้แจ้งเห็นชัดในอาตมัน ย่อมเป็นพุทธิที่ไม่ต้องกลับมาเกิดกำเนิดอีก

ผู้ที่บำเพ็ญตบะก้าวล่วง กามสุขันนุโยค และอัตถนุโยค เป็นผู้เข้าถึง ความเป็นพุทธิแห่งอาตมัน..

อาตมันนั้นเป็นนิรันดร์ ฉะนั้นอาตมันเป็นที่สิ้นสุดแห่งนิพพาน. แต่อาตมัน ไม่ได้เป็นสิ่งที่เริ่มต้นหรือสูญสิ้น

อาตมันยังคงมีอยู่เช่นนั้น พราหมณ์เมื่อบำเพ็ญประกอบโยคะไปตามพุทธิวิถี ย่อมเข้าถึงความเป็นอาตมัน อาตมันเป็นปรมัตถ์ธรรม ที่แผ่กระจายแทรกซึมไปทั้งจักรวาล

จักรวาลกำเนิดจากอาตมัน ที่พระผู้เป็นเจ้าประทานให้มา เพื่อเหล่าหมู่สัตว์ได้ก้าวล่วงเข้าถึง นิพพาน

..พราหมณ์เราจึงถือว่า นิพพานเป็นอัตตา… อัตตาก็คืออาตมัน

พอจ.: อาตมัน คือจุดต้นกำเนิด แห่งจักรวาลหรือ..?

ฮินดู: ใช่..!! อาตมันเป็นหน่วยอนุภาคที่เล็กที่สุด ที่แผ่ซ่านไปทั่วจักรวาล องค์ประกอบแห่งจักรวาล เกิดกำเนิดมาจาก อาตมัน ที่พระผู้เป็นเจ้าได้ประทานมา

พอจ.: ก็ไหนอรชุนกล่าวว่า อาตมันหาต้นกำเนิดและจุดเสื่อมไม่ได้ ทำไมถึงรู้ว่า เป็นตัวเริ่มต้น จุดกำเนิดแห่งจักรวาล

ฮินดู: นั่นเรากล่าวเป็นนิยามแห่งการกำเนิด แต่บอกไม่ได้ว่า กำเนิดมาเมื่อไหร่และจบลงตรงไหน

พอจ.: ถ้าว่ากันตามตำราไตรเพท มันก็คงจบกันที่อาตมัน ซึ่งเป็นจุดกำเนิดของจักรวาล แล้วอาตมัน มันกำเนิดมาจากอะไร…? อรชุน

ฮินดู: อาตมัน ก่อเกิดกำเนิดมาจาก พระปรเมศวร อันเป็นอวตารของสภาวะเหนือจักรวาล ไร้ขีดจำกัดหรือหัวข้อ แห่งนิยาม.

พอจ.: แล้วพระปรเมศวร กำเนิดมาจากอะไร.?

ฮินดู: พระปรเมศวร คือพระผู้เป็นเจ้าสูงสุด ที่เป็นธรรมชาติอยู่อย่างนั้น ไม่เป็นผู้เกิดหรือดับ แต่เป็นผู้ให้กำเนิดและดับ ต่อสรรพสิ่ง

พอจ.: ตรงนี้แหละ มันขัดแย้งกับธรรมชาติ ที่อรชุนว่า.

ฮินดู: มันจะแย้งยังไง ในเมื่อพระปรเมศวร เป็นผู้ให้กำเนิดธรรมชาติ ผู้ให้กำเนิด จะไปเป็นผู้โดนกำเนิดจากธรรมชาตินี่ซิ ถึงจะขัดแย้ง

พอจ.: ที่แย้ง เพราะธรรมชาติ ย่อมมีเหตุ ธรรมอันใดเกิดจากเหตุ เหตุนั้นย่อมมีผล ธรรมชาติเป็นเหตุอย่างหนึ่ง ย่อมมีผลตามธรรมชาติ

ฮินดู: ก็ พระปรเมศวร เป็นเหตุ ให้เกิดจักรวาลและอาตมัน มันเป็นเหตุและผลที่แสดงอยู

พอจ.: จักรวาลและอาตมันเป็นผล พระปรเมศวรเป็นเหตุ งั้นเหตุเกิด แห่งพระปรเมศวร คืออะไร..?

ฮินดู: …………!!!!!! มันไม่มีนะซิ เพราะมันไปถึงที่สุดแห่งเหตุแล้ว ทุกอย่าง…จบอยู่ที่เหตุ.

พอจ.: เหตุทั้งหลาย มันก็คือผลของเหตุ ฉะนั้น พระปรเมศวรก็คือผลของเหตุ ไม่งั้นมันก็แย้งกับ หลักเหตุหลักผลแห่งธรรมชาติ ที่อรชุน แสดงมานะซิ

ฮินดู: ………!!! ก็เรากล่าวกันถึง จุดกำเนิดเหตุไม่ใช่หรือ..

พอจ.: ก็ อรชุนกล่าวว่า ไม่มีจุดกำเนิดและสิ้นสุด ในจักรวาลไม่ใช่หรือ แล้วทำไม เหตุมันจึงไปตันอยู่ที่ พระปรเมศวรเล่า..

ฮินดู: …….. !!! โห พระอาจารย์ต้อนผม… ที่พระอาจารย์กล่าวก็จริงอยู่ ผมเองก็ใช่จะรู้ลึกซึ่งอะไรมากมาย ศาสนาเขาว่ามาอย่างนี้ ผมก็เข้าใจของผมมาอย่างนี้ แค่ลองมาถกมาคุยกันดู พระอาจารย์ก็ต้อนผมซะ….

แต่เราคุยกันเรื่อง อัตตากับอนัตตา อย่างไหนเป็นนิพพานนะ พระอาจารย์…

พอจ.: อันนี้มันก็ใช่อยู่ เราถึงต้องสาวผลไปหาเหตุก่อน ไม่งั้นมันก็ตอบเวียนเป็นวงกลม กันไม่จบ เถียงกันตาย..

หากไม่สาวผลที่เรารู้ ไปถึงเหตุที่เราไม่รู้ มันก็จะยึดกันแต่ผลที่เป็นเหตุนั้น เมื่ออรชุนยอมรับ ว่าที่สุดแห่งเหตุแล้ว มันก็ยังมีเหตุ มันก็สามารถสาวลึกลงไปถึงเหตุ ที่เกินผลแห่งรู้ ของเราได้ เช่นนี้จึงจะคุยกันได้

เพราะผมเองก็ไม่ได้ไปขวางความรู้ความศรัทธาท่าน เมื่อคุยกันมันก็ต้องเจาะลงลึก มันจะได้ถ่างให้กว้าง ทั้งฝ่ายอรชุนและฝ่ายผม ความรู้ลึกมันถึงได้เกิด เพราะผลที่เรารู้ว่ามันลึก มันอาจจะตื้นๆจนเราคาดไม่ถึงก็ได้ เรามาว่ากันเรื่อง อาตมันกันต่อ…..

คงต้องรออ่านต่ออีกนิดหน่อย ตอนนี้ ขอพักไว้แค่นี้ก่อน พิมพ์ไม่ค่อยไหวแล้ว….. ธรรมกะ….