บวงสรวงมีผลแค่ไหน

บวงสรวงมีผลแค่ไหน

531
0
แบ่งปัน

******* “บวงสรวงมีผลแค่ไหน” ******

พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า

แม้บรุษผู้บูชาไฟ กระทำไปด้วยหัวใจที่บริสุทธิ์ สิ่งนั้นก็บริสุทธิ์

มันไม่ได้บริสุทธิ์ด้วยการบูชาไฟ

แต่มันบริสุทธิ์ได้ด้วยใจ ที่น้อมในการกระทำในสิ่งที่ตนศรัทธา

การบวงสรวงก็เหมือน หากกระทำด้วยความงมงายมาทางโง่ นี่ โง่แน่

หากกระทำด้วยปัญญามากไป คือไม่เอาไม่ทำ สงสัยและโต่งไม่หาย นี่ก็โง่เช่นกัน

เราเลือกที่จะมีปัญญาเสมอศรัทธา มีสติร้อยเรียงมาลาให้เป็นช่อเดียวกัน

เพื่อความมั่นคงแข็งแรงแห่งวิถีชน ขับเคลื่อนดำเนินไปตามเหตุปัจจัย

บวงสรวงด้วยปัญญา กับบวงสรวงด้วยความงมงายนี่มันแตกต่างกัน

พวกเรากำลังใจอ่อน อาจกระทำด้วยความไม่รู้และสืบทอดต่อๆกันมา

แต่ข้านี่ ตรองและชัดเจนก่อนที่จะทำอะไร

เดี๋ยวว่างแล้วจะคุยให้ฟังถึงผู้รับ ที่ท่านรับบายศรีต่างๆให้ฟัง เป็นเรื่องที่ผู้คนทั้งหลายไม่ค่อยได้รู้กัน

โปรดตีตั๋วล่วงหน้าไว้เลย

สมัยหนึ่งที่ภูเขามะกูด อ.บ้านนา จ.นครนายก

ข้านี่อยู่บนภูเขาคนเดียว ได้เป็นมิตรกับเจ้าเขาที่นั่น

ทีนี่ พวกศรัทธานี่เขาจัดพิธีบวงสรวงรอยพระพุทธบาท

ข้าเองน่ะ ปฏิเสธสิ่งเหล่านี้ เพราะข้าเห็นว่า มันเป็นเรื่องงมงาย

มันเป็นการจัดขึ้นมาเพื่อขอนั่นขอนี่

และที่สำคัญ ข้าเองก็เข้าใจด้วยตัวเองว่า

สิ่งเหล่านี้ มันเป็นเรื่องของพวกนอกศาสนา ไม่ใช่พุทธศาสนา

แต่ข้าเองก็ไม่ได้ขัด ใครจะทำอะไรนี่ไม่ขัด

เป็นเพียงแต่ถอยออกมาดูห่างๆ ปล่อยให้พวกเขาบวงสรวงและกระทำกันไป

เมื่อพิธีบวงสรวงเสร็จ ข้าก็เห็นเหล่าร่างทรงออกมาร่ายรำ ออกอาการต่างๆ

และทำพิธีกรรมที่ต่อเนื่องกันออกไปอีกมากมาย

ผู้คนก็ชอบซะด้วย แต่ข้ามองดูแล้วคิดในใจว่าทำไม พวกเขาถึงได้โง่กันอย่างนี้

สงสัยข้านี่ ฉลาดจัด มันจึงดูคนอื่นเขาโง่ นี่..ความเลวที่มองไม่เห็นตนเอง

ตอนดึก ได้อัญเชิญเจ้าเขามาพูดคุย

ข้าถามว่า เรื่องบายศรีบูชาเทพเหล่านี้ ท่านได้รับไหม เพราะเขาบูชาท่านที่เป็นนาคราช ทั้งๆที่พวกเขาก็ไม่ได้เคยพบเจอท่าน

ท่านเจ้าเขาตอบว่า..

พระคุณเจ้าเคยป่วยไหม

ข้าพยักหน้า..

ท่านบอกว่า เวลามีผู้คนนำเอาดอกไม้มาเป็นกำลังใจให้ท่าน ท่านกินได้ไหม

ข้าฟังเงียบๆ..

ดอกไม้ที่เขานำมามอบให้ท่าน เขาต้องการให้ท่านกินหรือ

หรือต้องการเงินตราจากท่าน

หรือเป็นยาให้ท่านหาย

ข้าพยักหน้า ทำความเข้าใจ

พวกเขาเอาดอกไม้มาเพื่อเป็นความหมายแห่งตัวพวกเขาว่า พวกเขาไม่ได้ลืมเราและแทนค่าความจริงใจ ที่มีต่อเราใช่ไหม

การบวงสรวงนี้ก็เหมือนกัน เกล้ากระผมมีความปลื้มยินดี ที่เหล่าน้องพี่ ได้นำดอกไม้มามอบถวายให้

พระคุณเจ้าคิดว่า ผมมีความปลื้มใจยินดีเช่นนี้ ผมจะได้รับหรือไม่ได้รับ

ผมไม่ได้รับช่อดอกไม้ที่ถวายหรอก แต่เกล้ากระผมรับความจริงใจที่บริสุทธิ์ของพวกเขา ที่มีต่อเกล้ากระผม

นี่..เกล้ากระผม ได้รับกระแสที่สำราญใจยิ่งตรงนี้..!!

นี่..ท่านเจ้าเขาตอบข้ามาประมาณนี้ เรื่องนี่ราวๆปี 50 เวลาตีสองเศษ

ข้าได้ถามว่า….

แล้วพานพุ่มเหล่านี้ ที่น้อมถวายแด่รอยพระบาทต่อพระพุทธชินสีห์นี่

ตอบผมได้ไหม ว่าส่งถึงหรือไม่ถึง

ท่านเจ้าเขาตอบว่า..

ภูเขาลูกโน่น มีเทวดาตระกูลอินทกะดูแลอยู่

ท่านได้ส่งกลิ่นมาโมทนายามพระคุณเจ้าเจริญบนทางจงกรม พระคุณเจ้าได้กลิ่นหอมเย็นกายไหม

ข้าพยักหน้า…

ท่านอินทกะอยู่ภูเขาเขตโน้น ส่งกระแสบริสุทธิ์มายังพระคุณเจ้า

พระคุณเจ้ายังรับได้ และยืนยันได้

ใจที่บริสุทธิ์ของเหล่าสาธุชนผู้ศรัทธาต่อพระพุทธชินสีห์เจ้า
กระแสบริสุทธิ์เช่นนี้ พระคุณเจ้าคิดว่า จะถึงหรือไม่ถึง

ข้าพยักหน้าฟังเงียบๆ..

ข้าถามต่อว่า…

จำเป็นไหม ที่จะต้องจัดพานพุ่มใหญ่ๆ เครื่องเซ่นมากมาย

ท่านเจ้าเขาตอบว่า..มันขึ้นอยู่กับกำลังใจของแต่ละคน
ไม่ได้ขึ้นอยู่กับปริมาณมากน้อยของวัตถุที่จะส่งถวาย

มนุษยนี่ เป็นเครื่องมือที่ยอดเยี่ยม มนุษย์สามารถนำเอาใบไม้มาจัดสรร
ให้เป็นรูปร่างตัวแทนได้อย่างเยี่ยมยอด

สิ่งเหล่านี้ เทวดาก็ทำไม่ได้ สัตว์เดรัจฉานก็ทำไม่ได้ มีมนุษย์เท่านั้นที่ทำได้

เหล่าเทวดาที่ท่านละเอียดกว่าเกล้ากระผม
ได้นำเอาเจตนาของมนุษย์ที่สร้างมาบวงสรวงนี่แหละ

ส่งต่อไปยังภูมิเทวาที่เรียกกันว่า ดาวดึงส์
อันเป็นศูนย์กลางของเหล่าพลังงาน ที่เรียกกันว่า เทวดา

เกล้ากระผมเป็นเดรัจฉาน เข้าไปไม่ถึง

แต่ก็เห็นชัดว่า เหล่าบายศรีที่ยิ่งใหญ่เหล่านี้ ที่มนุษย์ได้กระทำขึ้น

มันไปประดิษฐานเป็นพุ่มสง่างาม ถวายต่อพระพุทธชินสีห์ที่เทวสถาน

การบวงสรวงแค่เล็กน้อย แม้เป็นดอกไม้เล็กๆ

เพียงแค่นี้ ต่อผู้มีกำลังใจและความบริสุทธ์แห่งทานที่มีต่อพระพุทธชิโนรสเจ้า

ดอกไม้น้อยๆนั้น ก็จะเป็นพุ่มพานใหญ่ที่ส่งตรงไปถึงพระพิชิตมารได้เช่นกัน

นี่..คือบางคำถามที่เคยคุยกับเจ้าเขา ที่ภูเขามะกูดเมื่อปี 50

เรื่องเช่นนี้ เหล่าพราหมณ์ เขาก็คงค้นพบและยืนยันได้เช่นนี้

พิธีบวงสรวงของเขา จึงยิ่งใหญ่ และเป็นประเพณีไป

อีกฟากที่เป็นพลังงานเขาก็มี ที่เป็นสสารชีวะอย่างเราก็มี

หากเราเลือกว่าสิ่งเหล่านี้มันงมงาย นี่มันก็โต่ง

หากเราเลือกว่ารู้งี้ก็ต้องเชื่อต้องทำ นี่ก็โต่ง

พุทธศาสนาไม่ใช่ดำเนินมาอย่างนั้น

พุทธศาสนาชี้ให้เห็นความเป็นจริง ว่ามันเป็นของมันอย่างนี้ๆๆๆ ตามภูมิวาสนา

อยู่ที่เราเลือกที่จะโง่หรือสงสัย ในความเป็นศรัทธาและปัญญา

หากศรัทธามากไป นี่งมงาย มันก็จะโง่

หากปัญญามากไป มักสงสัยมาก นี่ก็โง่คือกัน

ทางสายกลางคือ ทำไปอย่างโลกเขาว่า

แต่เราเป็นผู้เลือกได้ว่า

เรา..ทำไปด้วยเหตุปัจจัย ไม่ใช่ทำไปด้วยความโต่งแห่งศรัทธาและปัญญา ที่เกิดจากตัวตนเรา..!!

บ่ายนี้หวัดดี

พระธรรมเทศนา วันที่ 25 พฤษภาคม 2559 โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง