ตายไป แม้มีสติ ก็ไปอบายได้

ตายไป แม้มีสติ ก็ไปอบายได้

1862
0
แบ่งปัน

พระอาจารย์พล ท่านถามมาเกี่ยวกับสติและความตายว่า

สำคัญคือการตั้งมั่นแห่งสตินะครับพระอาจารย์…ก่อนตายสิ่งที่กลัวที่สุด…คือโมหะ อาจทำให้หลงลืมขาดสตินี่แหละครับ…

ถ้าคนเราก่อนตายเป็นดั่งกรรมฐานแตกนี่ เมื่อจิตวิณญาณ ขวัญหนีดีฝ่อ… ก็ไม่รู้ว่าจิตวิณญาณจะตกไปอยู่ในภพภูมิใดครับ

จะเหมือนการขับรถรึเปล่านะครับ…มีจุดหมายปลายทางที่ตั้งเป้าไว้…ระหว่างทางก้อประครองสติมาดี…ปลายทางกลับขาดสติ หลงลืมด้วยโมหะ รถก็อาจเป๋ลงข้างทางได้..คงไม่ถึงที่หมาย

หรืออาจเปลี่ยนแปลงทิศทางได้…ไม่ทราบว่ากระผมเข้าใจว่า..
คนเรา.ก่อนตายจึงต้องตั้งมั่นในสติให้มาก…กลัวการขาดสติเป็นที่สุด…

การเข้าใจอย่างนี้ถูกต้องหรือไม่ อย่างไร?

ขอพระอาจารย์ชี้แนะด้วยครับ..น้อมกราบพระอาจารย์ครับ

ท่าน ธรรมกะ.. คนที่ไม่ได้รับการอบรมจิต ไม่มีความตั้งมั่นแห่งจิต

ตอนตายนี่ ใจจะแตกซ่าน นี่เป็นธรรมดา หนทางที่ไปย่อมสะเปะสะปะ ก้าวไปสู่บ่อใหญ่แห่งอบายภูมิ

อย่างต่ำเป็นสัตว์เป็นต้น นี่เพราะขาดการอบรมใจ

แม้จะเป็นคนเต็มไปด้วยสติ รู้ว่ากำลังจะตาย

แต่ตอนมีกำลังชีวิตอยู่ ไม่ค่อยได้อบรมจิต ให้ระลึกถึงบุญถึงกุศล

ไม่ได้อบรมใจว่า การตายพรากจากนี่ เป็นธรรมดา

คนที่ไม่ค่อยรับการอบรมจิตเช่นนี้

เมื่อความตายมาเยือน เขาก็ย่อมทุรนทุราย ต้านไม่ได้กับสิ่งที่ต้องจากต้องพราก ในเรื่อง วัตถุและบุคคล

นี่..เรียกว่า มีสติ แต่ไม่มีกำลังปัญญา เพราะขาดการอบรมในขณะมีกำลังชีวิตอยู่

เช่นนี้ ก็เรียกว่า พวกกรรมฐานแตกเช่นกัน มันแตกเพราะที่ตั้งมั่นมันต้านการจาก การพรากแห่งใจเจ้าของไม่ได้ ใจมันไม่อยากตาย

เมื่อแตกซ่าน มันก็ไม่มีที่ตั้ง หนทางไปย่อมมืดมน มีทุคติเป็นหนทางเดิน

เช่นนี้ ต่อให้มีสติ หากใจขาดการอบรม ตายเมื่อใหร่ ใจมันก็ไปสู่ ทุคติ

กลับกัน…เมื่อความตายมาเยือน แม้ผู้ประสพภัยแห่งความตาย จะไม่มีสติ

แต่ใจที่ได้รับการย้อมแห่งกุศลจิตอยู่เนืองๆ ระลึกถึงบุญ ถึงกุศลอยู่เนืองๆ

ทำบุญทำทาน ทำกรรมฐาน อบรมใจอยู่เนืองๆ

จนใจดวงนี้ มีความเคยชินในบุญกุศลที่ระลึกอยู่เนืองๆนั้น

ขณะที่ความตายมาเยือน แม้ไม่มีสติ เขาก็ไปทางสุคติแต่ฝ่ายเดียว

สติมีไว้ให้สำหรับคนที่ได้รับการอบรม

คนที่ไม่ได้รับการอบรมใจ ถึงมีสติ ก็ย่อมก้าวไปสู่ภูมิแห่งอบาย

สาธุธรรม…แจ่มแจ้งยิ่งนัก ฟังง่าย เข้าใจง่ายครับ

ขอบคุณพระอาจารย์ที่ช่วยชี้แนะแนวทางครับ

น้อมรับคำสอนครับ และจะตั้งใจเจริญสติ เจริญปัญญา

และจะพยายามฝึกฝนน้อมจิตให้ใฝ่ในทางกุศลเนืองๆยิ่งๆขึ้นไปตามคำสอนพระอาจารย์ครับ…กราบนมัสการ อนุโมทนาสาธุครับ

กราบนมัสการสาธุคุณครับ

ท่านธรรมกะ ที่ผมได้กล่าวมานี่ มันมีเหตุที่ประสพมากับตัวเอง ผมจะเล่าให้ฟัง

ที่นี่มีกระเหลี่ยงมารับจ้างทำงานอยู่คนหนึ่ง ชื่อเจ้าจิต

เจ้าจิตนี่ มันเป็นมะเร็ง และได้ตายไปเมื่อสองปีที่แล้ว

ขณะตายมันก็รู้ตัวดี มันยังพูดเล่นกับญาติๆของมันเลยว่า สงสัยตายแล้วมันคงจะไปเกิดเป็นเหี้ย

มันตายโดยมีสติ และรู้ตัวเองว่าจะตาย มันเป็นคนไม่กลัวตาย แต่มันยึดบุญหรือนึกถึงบุญอะไรไม่ได้เลย

เพราะชีวิต มีแต่ทำมาหากิน หาของป่า ล่าสัตว์ รับจ้างเขาเรื่อยไป

ชีวิตไม่เคยทำบุญอะไรให้ตนเองระลึกนึกถึงได้

วันตายญาติเขามาบอกว่า เจ้าจิตตายอย่างสงบ มีสติทุกขณะจิตก่อนตาย

เออ..มันน่าจะไปสู่สุคตินะ

มีอยู่คืนหนึ่ง เดินจงกรมเสร็จนั่งอยู่บนภูเขา จิตที่สงบมันไปหวลคิดถึงเจ้าจิต

จึงถามเจ้าที่ไปว่า เจ้าจิตมันไปอยู่ที่ไหน เพราะมันตายอย่างมีสติ มันน่าจะไปดีตามคำเขาว่า

เจ้าที่สร้างภาพให้เห็นและบอกว่า เจ้าจิตมันไปเกิดเป็น เหี้ย อยู่ที่แพพี่ติ๋ว

เช้านั้นก็เลยไปดูที่แพพี่ติ๋ว ปรากฏว่า มีเหี้ยรุ่นๆตัวหนึ่ง เชื่องคนมาก มันมาอาศัยอยู่

เดี๋ยวนี้ไม่รู้อยู่รึเปล่า

แต่นี่เป็นเครื่องยืนยันให้แก่ใจอีกอย่างว่า

แม้มีสติ หากใจไม่ได้รับการอบรม ตายไปก็มาเป็นสัตว์ได้เช่นกัน

ไก่ที่นี่หลายตัว อดีตก็เป็นคนมาทั้งนั้น

บุพกรรมทำให้ต้องมาอยู่มาเจอร่วมกัน หลายตัวพออยู่ครบปี ก็ต้องตายจากไป ด้วยวิบากที่มาให้ผลทางรูป

นี่เป็นโทษของการที่ไม่ได้รับการอบรมจิตอบรมใจ ให้รู้เหตุรู้ผล ตรงตามความเป็นจริง

ผลก็คือ มีอบายเป็นที่ไป

อีกท่านหนึ่ง อยู่แถวนี้เหมือนกัน ทำบุญทำทานตักบาตรตามเหตุปัจจัย เป็นแม่ค้าขายปลา

แม้แต่สัตว์ป่า ประเภทต่างๆ ก็นำมาฆ่ามาทุบเพื่อกินเพื่อขาย

วันหนึ่ง ได้เป็นลมตาย ตายอย่างง่ายๆ ไม่มีสติรู้ว่าจะต้องตาย กลายเป็นสัมภเวสีอยู่พักหนึ่ง

แล้วไปเกิดเป็นกระรอก อยู่ใกล้ๆบ้านที่ตนเองยึดติดสถานที่

มีพระเจ้าอาวาสอยู่รูปหนึ่ง อยู่ที่อ่างทอง นี่หลวงพ่อจักษ์เล่าให้ฟัง

เจ้าอาวาสได้ล้มลงหัวฟาดหมดสติ และตายไป ขณะทำพิธี จู่ๆศพเจ้าอาวาสก็ฟื้นลุกขึ้นมา

ลุกขึ้นมาแล้วก็ร้องบอกว่า

” รู้อย่างงี้ กูทำกรรมฐานเยอะๆก็ดี เสียดาย กูไม่ได้ทำกรรมฐาน “

แล้วก็ล้มตึงตายจากไป โดยไม่ลุกขึ้นมาอีก นี่เป็นเรื่องที่ไม่น่าคาดคิด

การอบรมจิตอบรมใจนี่ สำคัญ เรามีชีวิตและกำลังความคิด เราควรหมั่นระลึกถึงกุศล และทำทานอยู่เนืองๆ

อย่างน้อยตายไป มันก็มีที่ยึดเกาะใจ ตายไปใจจะได้ไม่สะเปะสะปะ ไปสู่หนทางแห่งความมืดมน