การหมอบกราบมันต่ำช้าด้อยค่านักหรือ

การหมอบกราบมันต่ำช้าด้อยค่านักหรือ

307
0
แบ่งปัน

*** “การหมอบกราบมันต่ำช้าด้อยค่านักหรือ” ***

” หนูอยู่เยอรมัน เห็นข่าวการล้อเลียนการหมอบกราบของคนทำข่าวบางคน เกี่ยวกับคนไทย รู้สึกว่าไม่ชอบใจ ทุกข์ใจกับสิ่งที่เกิด พระอาจารย์แสดงธรรมเรื่องนี้ให้ฟังหน่อยค่ะ ”

” ฝรั่งเขามองต่างมุมน่ะหนู เหมือนๆกับที่เราเองก็มองมุมของเราเมื่อไปวิจารณ์เขา

การมองต่างมุมนี่ เป็นธรรมดาไม่เป็นไร มันเป็นสิทธิของปัญญาในแต่ละบุคคล

แต่มองต่างมุมแล้วมาล้อเลียนนี่ ต้องดูที่เจตนา ว่าเจตนาล้อเลียนเล่นเพื่อสนุก

หรือเจตนาล้อเลียนเพื่อเพ่งโทษ ให้ผู้คนเห็นความกดขี่ งี่เง่าต่ำช้า และล้าหลังในการกระทำ

เข้าใจว่าฝรั่งล้อเลียนเพื่อความสนุกมากกว่าที่จะเพ่งโทษ

คนมีการศึกษานั้น ย่อมรู้ว่าอะไรควรอะไรไม่ควร
การล้อเลียนสถาบัน ฝรั่งบางกลุ่มดูเป็นเรื่องธรรมดา

มันเป็นสิทธิของแต่ละคนในครรลองประชาธิปไตย ที่ใครจะแสดงออกอย่างไรก็ได้

แต่นั่นแหละ การล้อเลียนที่เกิดจากความแตกต่างกันทางวัฒธรรม ประเพณี ไม่ได้อยู่ในขอบเขตของประเทศตนเอง ที่อิสระไม่เดือดร้อนอะไร

การล้อเลียนอัตตลักษณ์ ประเพณีของผู้อื่นที่ไม่ใช่คนในกลุ่มตน มันเป็นการแสดงออกทางอิสระวิสาสะที่น่ารังเกียจสำหรับคนที่ได้ชื่อว่า มีความเป็นศิวิไลย์

การหมอบกราบอย่างทาส กับการหมอบกราบด้วยความน้อบน้อมสำนึกในกรุณาธิคุณนี่ มันคนละเรื่องกันว่ะไอ้ห่า..

มันเอาภาพลักษ์ของการหมอบกราบเป็นการกดขี่ เพราะโคตรพ่อโคตรแม่มันเคยเป็นทาสที่โดนกดขี่มาก่อน

มันอยากแสดงออกความเป็นอิสระ ที่ไม่เป็นทาสทางยีนที่เคยหมอบคลานก็แค่นั้น

การแสดงออกในการนอบน้อม จะแสดงออกด้วยการยืน จับมือ ยกมือไหว้ สวมกอด หรือหมอบกราบแทบเท้า หรือที่ตัก มันเป็นสัญลักษณ์ของผู้มีมุฑิตาจิต

เป็นลักษณะของผู้ลดอัตตาตน ไม่ใช่คนก้าวร้าวทำร้ายทำลาย

ยิ่งกับพระมหากษัตริย์ ชนชาวไทยถือว่าเป็นการแสดงตน ด้วยความจงรักภักดี

มันเป็นจารีตประเพณีของชาวไทย ที่ผู้น้อยเข้าหาผู้ใหญ่ด้วยความนอบน้อม เต็มใจ ดูแล้วสวยงามปิติใจ

ไม่ใช่เข้าไปหมอบคลานหมอบกราบเพราะโดนขู่เข็ญบังคับจำยอม เพราะเหตุแห่งความเป็นทาส

ถ้ามีซักประเทศ ถือการนอบน้อมด้วยการเอาตีนไปลูบหน้าของอีกฝ่าย

เช่นนี้จะถือว่าเป็นการก้าวร้าวรึเปล่า ในเมื่อเขามีความเป็นมาตามขนบธรรมเนียมของเขาเช่นนั้น

คนไทยนั้นให้ความเคารพนอบน้อมต่อผู้ใหญ่ ถือเป็นวัฒธรรมที่สวยงามน่ามอง และเป็นเอกลักษณ์ประจำชาติเหมือนรอยยิ้มที่คนไทยมี

ฝรั่งเขาแค่ไม่เข้าใจขนบธรรมเนียมของชาวไทย เขามองในมุมเขา เขาก็ล้อเลียนเพราะใจห่างเหินต่อการให้เกียรติในวัฒธรรมของผู้อื่น

ข้าเองก็เข้าไปหมอบกราบพระพุทธรูป แม้เมื่อก่อนที่ไม่บวช ก็เคยเข้าไปหมอบกราบในหลวง พระเทพ พระราชินี

การได้ใกล้ชิด ได้รับใช้ มันรู้สึกถึงความปลื้มปิติและอิ่มใจ

มันไม่ได้เข้าไปจำนนเพราะความเป็นทาส ที่ต้องจำนนก้มหน้าหมอบคลานเพราะโดนบังคับมาให้ต้องทำด้วยการฝืนใจ

เราควรภูมิใจในวัฒธรรมของชาวไทย ที่ผู้น้อยมีจิตสำนึก นอบน้อมต่อผู้ใหญ่

มันแค่เป็นการแสดงออกความนอบน้อมที่ให้ทั้งหัวใจ แม้แต่เลือดเนื้อและชีวิต ที่มีต่อพระมหากษัตริย์ไทย

และคนไทย เป็นเช่นนี้มาแต่โบราณในการรักษาขนบธรรมเนียมประเพณี

ถ้าลูกในบ้าน ไม่เคารพพ่อแม่ที่เป็นศูนย์กลาง ในการดูแลและปกครองบ้าน

เพราะถือว่า ทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกัน ไม่ควรอ่อนน้อมให้ความเคารพต่อพ่อแม่ เหตุเพราะถือสิทธิความเป็นมนุษย์เท่าเทียมกัน

ลูกเช่นนี้ เกิดอยู่ในบ้านใคร พ่อแม่เดือดร้อน ครอบครัวพังทะลาย มันยิ่งกว่าโจรที่มาทำลาย เพราะอัตตลักษณ์ความคิดแห่งตน

ที่คิดว่า ทุกคนต้องเท่าเทียมกัน ทำอะไรต้องเสมอกันมันคงลืมไป ว่ามันมีสถานะภาพเป็นลูก ที่ต้องอาศัยผู้ใหญ่ ในการปกครองดูแลบ้าน

มันดูการนอบน้อมต่อผู้ใหญ่ในบ้าน เป็นเรื่องของการกดขี่ชนชั้น นี่..มันเป็นลูกที่เข้าใจผิดรึถูกตามตรรกะของมัน

ฝรั่งคงไม่มีเจตนาน่ะหนู คงล้อเลียนด้วยความสนุกตามสันดานตน ที่มองจากมุมมองตน

ชาวเยอรมันหลายคน เขาก็คงไม่เห็นด้วยกับความคิดเช่นนี้ เพราะเป็นการรุกรานอธิปไตยทางขนบธรรมเนียมประเพณี

การหมอบกราบด้วยความปลื้มปิติจิตต่อผู้ทรงคุณผู้ใหญ่กว่า เป็นเรื่องของความนอบน้อมที่ออกมาจากหัวใจของชนชาวไทย

ไอ้พวกที่มองเห็นการกระทำเช่นนี้เป็นการกดขี่ทางสังคมและชนชั้น มันเป็นพวกเก็บกดความเป็นทาส ที่ฝังแน่นตราตรึงดิ้นรนขนขวายหาทางหนี มาตั้งแต่เป็น ดีเอ็นเอน่ะ..

มันแค่พวกทาสที่อยากไปเป็นจ้านายบ้าง ด้วยการหาทาง ชี้ชวน แม้แต่เรื่องแค่ความนอบน้อมของผู้อื่นที่มีความเต็มใจ

มันก็เพ่งโทษด้วยเจตนาร้ายว่า นี่คือการกดขี่ทางชนชั้น อย่างที่มันเคยเป็นมาตั้งแต่บรรพบุรุษมัน..

พระธรรมเทศนาวันที่ 8 พฤษภาคม 2562

โดยพระอาจารย์ ธรรมกะ บุญญพลัง