เอาธรรม..มันต้องราดด้วยขี้

เอาธรรม..มันต้องราดด้วยขี้

623
0
แบ่งปัน

เอาธรรม..มันต้องราดด้วยขี้ หวัดดีน้องใหม่ทุกท่าน ด้วยความยินดีที่ได้เลื่อนขั้นขึ้นมา ผีเขาชอบใจ เณรมันเลยกลัวใหญ่ เอาที่พวกเคลื่อนไหวหน่ะ ที่เงียบๆ ปล่อยเขาไป เอาๆๆๆๆ ข้าโม้ต่อ ต่อละ

บางคนในเฟสก็ดี ในไลน์ก็ดี เอาความคิดตนเองเข้าไปใส่ และยัดเยียดมาให้ข้า ว่าอย่างนั้นว่าอย่างนี้ ทีนี้ การเข้าใจของแต่ละคนนี่ มันไม่เสมอกัน ตรงนี้ ข้าเข้าใจ

นธีได้อธิบายการฝึกที่ข้าเคยเล่า หลายคนจึงอยากฟัง วันนี้ข้าจะเล่าให้ฟัง สมัยที่เป็นพรรษาแรกๆ ข้านี้ต้องเทขี้เอง ขี้ที่พวกเราที่มาหาข้า ได้ขี้ไว้นั่นแหละ ถึงทุกวันนี้ ท่านมหากับเณรก็ยังต้องเทอยู่เหมือนเดิม เพราะข้ามันอยู่บนแพ

การเทขี้นี่ มันเป็นอะไรที่ขมขื่นใจมาก ยิ่งเป็นขี้ของคนอื่นด้วย มันแสนจะขยะแขยงใจ แทบตายกันไปข้าง ข้านี่ อยู่บนแพกลางน้ำ ต้องเอาขี้ไปเททิ้งบนบก ข้าไม่ให้ขี้หล่นลงไปบนแม่น้ำ

ทีนี้ เวลาขี้เต็ม ซึ่งก็เต็มง่ายๆ อยู่แล้ว ราดกันไม่กี่ตูม มันก็ล้นถังแล้วละ พวกที่มาพักแพที่นี่ สมัยนั้น เทขี้กันทุกคน แต่ละคนคน ต่างอ้วกแตกอ้วกแตน รับกันไม่ค่อยได้

บางคนเป็นลูกน้อง ต้องเอาไปเทแทนลูกพี่ ถ่ายออกมาลงเรือสิบถัง มันก็อ้วกแตกทั้งสิบถัง บางคนร้องไห้ไปด้วย และต้องไปเทด้วย เพราะถ้าใครไม่เท ข้าก็จะไปเทเอง

การที่จะผ่านขี้ได้ และเทได้ด้วยอาการแห่งใจปกติ ถือว่าเป็นใจที่สุดยอด ใจเช่นนี้ เป็นใจ ที่เป็น ”..พระโสดาบัน..” เป็นอย่างน้อย เพราะบางคนอย่างพี่สมชาย เป็นถึงหัวหน้าคน แต่พี่สมชายจะอาสาเทขี้ทุกครั้ง ด้วยความภาคภูมิใจ

ข้านี้นิยมยกย่องท่านเหล่านี้มาก เดียร์เอย พี่สมชายเอย และใครๆ หลายคนยุคเก่าๆ ต่างผ่านการเทขี้มาแล้วทั้งนั้น “..ขอจงภูมิใจ ที่ได้เทขี้ด้วยความเต็มใจ..”

ข้าเองเป็นคนทำอะไรไม่ค่อยเป็นหรอก เพราะแม่คอยทำให้ตลอด จึงเป็นคนรังเกียจความสกปรก และเป็นเอามากๆ ตอนที่ส้วมเต็มใหม่ๆ ข้าเทขี้ให้มันไหลลงมาตามท่อลงถังถ่ายไปเท

น้ำขี้น้ำเยี่ยวมันกระเซ็นเข้าหน้าเข้าตา ข้าอ้วกแตกอ้วกแตนกินไม่ได้นอนไม่ได้ เหม็นติดจมูกอยู่เป็นอาทิตย์ บวชแล้วต้องมาเทขี้เช่นนี้ กูสึกดีกว่า ไม่บวชอยู่สบายไม่เคยเท ต้องให้เจ้ายาวมารับจ้างช่วยเท

หลายครั้งเข้าก็ละอายใจตนเอง ขี้เองก็ควรจะเทเอง จึงตัดใจยอมทนถ่ายเทน้ำขี้น้ำเยี่ยวที่แสนเหม็นเน่า ลงถังเองแล้วค่อยๆเอาไปเท ยังไงก็ต้องทำเอง

แรกๆ เป็นขี้ข้าเอง ข้านี้แสนจะสะอิดสะเอียน แต่ก็ต้องทำ เพราะข้าละอายต่อความเป็นเพศบรรพชิตสูง เพราะข้านึกถึงคำปฏิญาณตนวันที่เข้ามาบวชว่า “..ข้าจะทำพระนิพพานให้แจ้ง..”

การทำพระนิพพานให้แจ้ง ถ้ายังแทงเรื่องขี้ไม่ทะลุ มันคงแจ้งไปไม่ได้หรอก มันคงดำมืดอยู่เช่นนี้ ที่สุด ข้าก็เทขี้ได้ และทำใจได้ แต่พอเป็นขี้ของคนอื่น ข้ากลับทำใจลำบากอีก

วันหนึ่ง เมื่อผู้คนกลับไป ข้าต้องเทขี้ที่พวกเขาขี้เอาไว้ มันช่างทำใจลำบากแท้หนอ ในถังขี้ มันมีตัวหนอน และเศษอาหารที่เน่าเหม็นอย่างวายร้าย มันส่งกลิ่นเสียดแทงใจอยู่ ข้าทำใจไม่ได้อยู่นาน ต้องจ้างเจ้ายาว ให้เอาขี้ไปเทให้อีก

หลังจากนั้นข้ามาครุ่นคิดว่า ขี้ข้าเอง ข้าเทได้ มันไม่เหม็นหรือ ทำไมข้าจะเทขี้คนอื่นไม่ได้เล่า ในเมื่อ มันก็เป็นขี้เหมือนๆ กัน เน่าเหม็นจนน่าเวียนหัวเหมือนกัน

คราวนี้ เมื่อขี้เต็ม ข้าก็ถ่ายใส่ถัง ธรรมดาเวลาถ่ายขี้ใส่ถัง น้ำขี้น้ำเยี่ยวมันจะกระฉอกเข้าหน้าเข้าตา ข้านี้เหม็นแสนเหม็น ถ่ายไปอ้วกไป มันอ้วกของมันเอง แต่ข้าก็ฝืนใจทำ

เมื่อมานั่งมองถังขี้ ที่เตรียมจะเอาลงเรือออกไปเท ข้าถามตัวเองว่า นี่… กูรังเกียจอะไรกับสิ่งเหล่านี้หนักหนา ก็ไอ้พวกเน่าเหม็นน่าสะอิดสะเอียนพวกนี้ มันเป็นอาหารอันสุดยอดที่อร่อยลิ้นหนักหนา ไม่ใช่หรือ

แล้วทำไมตอนนี้ ข้าจึงแสนจะรังเกียจและเกลียดชังเจ้าน้ำเน่าเหม็นน่าสะอิดสะเอียนนี่นักวะ ข้าทบทวนและเพ่งดูอยู่อย่างสงบ

ที่สุด… ข้าก็เอามือเปล่าๆ ล้วงจิ้มลงไปในถังขี้ กลิ่นที่มันน่ารังเกียจ ทำเอาข้าร้องไห้น้ำตาไหล ข้าร้องไห้ไป …อีกใจหนึ่งอยากถอยหนี… อีกใจหนึ่งมันอยากขืนสู้ …อีกใจหนึ่งแพ้… อีกใจหนึ่งไม่ยอมแพ้ ใจหนึ่งขยะแขยง อีกใจหนึ่งต้องฝืน ใจมันห้ำหั่นกัน

แต่จะแพ้หรือไม่แพ้ มือข้าก็ทิ่มพรวดลงไปในถังขี้แล้วละ ตัดความคิดซะ เมื่อชักขึ้นมา มันช่างเหม็นแสนเหม็น อีกใจมันกำลังจะอ้วกในกลิ่นเหม็นอันแสนร้าย และมันก็อ้วกเป็นลมเหม็นๆออกมา อีกใจมันขืนและถามว่ามันเหม็นไหม…

ในหัวใจมันตอบอย่างเต็มใจว่าเหม็นแสนเหม็น ข้ามองแขนที่เลอะและเต็มไปด้วยขี้ มันเหม็นอย่างไม่เคยเหม็นมาก่อนในชีวิต ขี้นี้มันเหม็นอย่างร้ายกาจ มันเหม็นเป็นหอกเป็นดาบทิ่มแทงหัวใจ

น้ำตามันไหล และอ้วกจนออกแต่ลม ท้องงี้เกร็งกับการอ้วกจนจุกไปทั้งตัว ข้ายังจำอาการที่เผชิญได้ …ถามใจตนเองว่าเหม็นมากไหม… มันบอกว่าเหม็นมาก ข้าจึงเอามือกวักน้ำขี้ แล้วเอามาลูบที่หน้า แล้วขยี้มันลงไป เออ ไอ้บ้า..เอากะกูซิ

นี่… คนบ้ามันต้องเอากันอย่างนี้ หน้าที่เปรอะไปด้วยน้ำขี้น้ำเยี่ยว มันอาบเต็มหน้าข้า ข้าร้องไห้อีก แล้วถามว่า… เหม็นมากไหม

เศษขี้ที่เป็นเมือกๆ มันติดตรงเปลือกปาก และเข้าไปในรูจมูก ในขี้มันมีตัวหนอนเล็กที่เรียกว่าพยาธิดิ้นไปดิ้นมายึกๆแถวผิวหน้าด้วย

ใจข้ามันแทบจะขาดด้วยความสะอิดสะเอียน มันสั่นเทิ้มไปทั้งตัวด้วยความเกลียดชัง
ใจมันตอบอย่างเต็มใจว่าแสนจะเหม็นเอามากๆ ใจหนึ่งอยากบ้า ที่โดนขืนใจ ใจหนึ่งอยากพ่ายเพราะแสนจะทน ใจหนึ่งอยากรู้มึงรังเกียจอะไร

ไอ้เหี้ยยย มันเหม็นโคตรพ่อโคตรแม่เจ็ดชั่วโคตร..!! มันเหม็นไม่เหลือโคตรเหง้าศักราช เหม็นให้สูญพันธุ์กันไปเลย จึงฮึดสู้กับมัน

ข้าเอาขันล้างขี้นั้นแหละ ตักน้ำขี้น้ำเยี่ยวจากในถัง แล้วรดราดลงไปบนหัว น้ำอันแสนเหม็นมันราดรดจากหัวกระบาลลงมาเปียกโชกทั้งตัว น้ำขี้แสนเน่ายิ่งกว่านรกมามัดรวมกัน เข้าปากเข้าหูเข้าตา สัสสส…เหม็นนักหรือมึง

ข้าราดไปร้องไห้ไป และถามใจว่า… นี่มึงยังเหม็นไหม ใจภายในมันเงียบกริบ มันไม่บอกว่าเหม็นหรือไม่เหม็น เมื่อไม่มีคำตอบจากใจ งั้นเอาแม่งอีกขันก็แล้วกัน…!!

น้ำขี้น้ำเยี่ยวมันราดรดไปบนตัวข้าขันที่สอง มันรู้สึกถึงความเป็นจริงที่ว่า จริงๆ แล้ว มันก็ไม่ได้เหม็นอะไรซักเท่าไหร่ มันเหม็นอย่างวายร้ายไปตั้งแต่ขันแรกแล้ว ขันแรกมันอิ่มกับกลิ่นที่แสนเน่าไปแล้ว

..ข้าถามใจอีกว่ายังเหม็นอะไรอีกไหม.. ใจมันหยุดร้องตั้งแต่สิ้นขันแรก พอเจอขันสอง… มันก็เลยบอกว่า ไม่เห็นจะเหม็นอะไรเท่าไหร่นี่ มันรู้สึกเช่นนั้นจริงๆ

เมื่อมันไม่เหม็นเท่าไหร่ ก็เลยยกขึ้นมาทั้งถัง เทราดลงไปทั้งหัวจนชุ่มตัว ขณะที่น้ำขี้น้ำเยี่ยว ไหลผ่านหัวผ่านหน้าผ่านตัว ข้ารู้สึกถึงความจริงอย่างหนึ่งว่า….

“…ความเหม็นทั้งหลาย มันเป็นอาการหนึ่งของจิต ที่มีเราเข้าไปเป็นเจ้าของ และแท้จริง มันก็ไม่ได้เหม็นซักเท่าไหร่…” และในความเหม็นแสนเหม็นนั้น ข้าไม่ได้เหม็นอะไรเลย

วันนั้นแพข้าเปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำขี้ แต่ข้าภูมิใจ ที่ใจข้า ต้อนรับและยอมรับที่จะอยู่กับมันได้โดยไม่เป็นทุกข์ ข้าเอาถังที่เหลือออกไปเท และข้าก็อยู่อย่างนั้นโดยไม่ล้างตัว

จนสบงและอังสะที่เปื้อนขี้ มันแห้งคาตัว มันแห้งจนข้าอยู่กับกลิ่นมันได้ พื้นแพก็แห้งกรังไปด้วยคราบขี้ ข้าทิ้งไว้อย่างนั้น ยามเช้าข้าก็ออกไปบิณฑบาตร เขาคงเหม็นขี้กันไปทั่ว แต่ไม่มีใครพูดถึงเลย แม้คราบขี้แห้งๆจะเขลอะกรังแห้งติดอยู่เต็มหน้าก็ตามทีเหอะ

แต่ข้านี้แสนสุขใจ ที่ใจนี้ มันเอาชนะความเหม็นเน่าและน่าสะอิดสะเอียนทั้งหลายได้ ข้าอยู่อย่างนั้น สามวัน จึงลงไปอาบน้ำล้างตัว ตอนนอนข้าก็นอนทั้งเป็นคราบขี้อยู่อย่างนั้น

อยู่กับมันจนข้าไม่ได้กลิ่นว่านี้เป็นกลิ่นขี้อะไรอีกเลย ใครจะคิดยังไง ใครจะแอบว่ายังไง ข้าไม่สน

“…ข้าอยู่อย่างผู้ฉลองชัย ในสงครามใจ ที่ชนะได้อยากยิ่ง แต่ข้าคือผู้ชนะ และเป็นการมีชัยชนะที่แลกมาด้วยน้ำตา…”

มันชนะมาจนถึงปัจจุบันและตลอดไปจนกายนี้แตกทีเดียว นี่..ที่ข้าโม้ให้ฟังนี้ ก็เพื่อจะบอกว่า ธรรมทั้งหลายที่ได้รจนาหลั่งไหลออกไป มันยิ่งใหญ่ได้ เพราะเอากำลังใจที่ตายเป็นตายเข้าไปแลก

ไม่ใช่ว่าจู่ๆ จะมานั่งคิดเอาฟังเอา แล้วจะเข้าถึงจับต้องตัวธรรมได้ พวกเรา “…ใจสู้รึเปล่า…” แค่ไม่ได้ดั่งใจหน่อยเดียว ใจก็พ่ายซะแล้ว

คืนนี้ขอพักแค่นี้ ค่อยโม้เรื่องขี้อีกเรื่องในวันหน้า

คืนนี้ ขอสวัสดี ขอให้ท่านทั้งหลาย จงมีแต่ความสุขความเจริญ ที่ได้มาเป็นผู้ร่วมเปิดห้องธรรมแห่งใหม่ ในค่ำคืนนี้ สวัสดี..!!

******************************
พระธรรมเทศนา โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง
ณ วันที่ 13 ตุลาคม 2557