รีบๆทำ ก่อนกายแตก

รีบๆทำ ก่อนกายแตก

817
0
แบ่งปัน

วันนี้ขอเทฐาน ซักฐานเหอะ องค์พระจะได้เขยิบไปอีกนิด มาช่วยขนหินทรายกันหน่อย…

ชีวิตนี่..มันก็ดำเนินไปตามกาลเวลาของมัน

หากเราไร้สติยั้งคิด มัวแต่หลงไปตามวิถีทางแห่งกาลที่มันเลื่อนไหลไป

ที่สุด… เราจะไม่ได้อะไร จากการได้เกิดมาเป็นหญิงชาย ในกาลแห่งความเป็นมนุษย์นี้เลย..

เราจะแก่ ไปตามกาล เจ็บไปตามกาล และตายจากไปตามกาล

เราก็แค่โชคดี ที่เป็นดวงจิต ได้มาเกิดก่อร่างในเครื่องมือที่เยี่ยมยอดครั้งหนึ่ง ตามวิบากผลที่เคยสร้างไว้เท่านั้น และเราก็ได้จากมันไป ทิ้งมันไป อย่างไม่แยแส

เพื่อนเอย..ชีวิตนี้แสนทุกข์และสั้นนัก หมดแล้วหมดเลย ความเป็นเรามันไม่มีอีกแล้ว

มันมีเราแค่ครั้งเดียวเพื่อนเอ๋ย…

อย่าให้ความเป็นเราแค่ครั้งเดียวนี้ สูญเสียไปกับความมักง่ายที่น่าหลงใหลแห่งใจเราเลย

เวลามันน้อยแล้ว ชาติหน้ามันเป็นใครก็ไม่รู้ได้ เอาเราชาตินี้ให้มันสมภูมิให้เต็มที่จะดีไหม…??

ชาติที่แล้วเห็นไหม เป็นใครก็ไม่รู้ ที่แน่ๆ ไม่ใช่เราแน่

รู้อย่างนี้ จะคาดหวังอะไรในชาติต่อไปเล่าเพื่อนเอ๋ย

นิพพานชาตินี้กันให้ได้ ถ้าไม่ได้จริงๆ ก็ค่อยยอมรับมัน

เอาเวลาที่เหลือแห่งความเป็นเรานี้ เข้าให้ถึง ก่อนชีวาวาย..!!

พระธรรมเทศนา จากบทธรรม เรื่อง อายุมันมีน้อย รีบๆ ทำความดี ณ วันที่ 27 พฤศจิกายน 2557 โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง

วันนี้ เมื่อเทฐานเสร็จ ข้าจะขึ้นไปเชียงรายซัก สามสี่วัน ใครมาช่วงนี้ คงไม่ได้เจอ ขอโมทนาบุญกับทุกคนที่ได้มาร่วมด้วยช่วยกัน ในกองกรรมฐาน จาคานุสติ

การทำกรรมฐานนี่ มันทำที่ใจ อาศัยการกระทำเป็นที่ตั้งให้ใจได้สอดส่งลงไป หลายท่านเข้าใจว่า การทำกรรมฐานหรือการปฏิบัติ คือการตั้งท่า นั่งหลับตา

ข้าเองนี่ เป็นนักนั่งหลับตาตัวยงมานานหลายต่อหลายปี ทำมากันตั้งแต่เด็ก ตามๆ ที่เขาว่ากัน

แต่ก็ไม่ได้เข้าใจอะไรเลย ว่าที่นั่งไป เรานั่งหลับตาไปเพื่ออะไร เรียกว่านั่งไปฝันไป

ฝันว่าไปสวรรค์ ฝันว่าไปนรก ฝันว่าเห็นนั่นเห็นนี่

แต่ตื่นจากฝัน ก็ยังงี่เง่าเหมือนเดิม

ถูกใจก็ชอบใจไปซะหมด ไม่ถูกใจก็ไม่ชอบใจไปซะหมดเหมือนเดิม

แต่ก็ยังทำๆ ไปอยู่อย่างนั้น ทำอย่างไม่มีปัญญาอะไรที่จะดีกว่านั้น..
กว่าจะเข้าใจ มันก็ผ่านกาลไปนานโข

กรรมฐานทั้ง 40 กอง ท่านชี้แยกออกไปตามจริตคน

จริตคนเราไม่เหมือนกัน และเราไม่รู้กันว่า การวิปัสสนา มันต้องอาศัยเหตุในการเกิด

หากเราเอามโนเข้าไปเป็นตัววิปัสสนา เราก็จะจมและมีปัญญาวนอยู่กับแค่การมโน

เทวดาท่านก็มโนได้ แต่ท่านเข้าถึงธรรมไม่ได้ ถึงเข้าได้ก็เนิ่นนาน กว่าสติจะตามมาทัน

และต้องกระทำตอนเป็นมนุษย์มาจนระดับจิตมันเข้าถึงความเป็นอริยชนแล้ว รอแค่สติ เทวดาจึงจะบรรลุธรรมได้

แต่มนุษย์เราไม่ใช่ ของเราใช้กายผัสสะและระลึกได้เลย ว่าทุกข์ทั้งหลาย มันมีรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร เพราะมันแสดงตัวให้เราเห็นอยู่

เสียอย่างเดียว แม้เรามีตาดู แต่เราเสือกมีชีวิตอยู่อย่างไม่ดู นี่..ปัญหาของคนที่มีจักษุบอด

กองกรรมฐาน อานาปานที่เราฮิตๆ กันจังนั้น มันเป็นแค่น้ำจิ้มของกองกรรมฐาน ทุกๆ กอง

ใน 40 กอง เป็นการเพ่งซะ 11 กอง เรียกว่ากสิณ

อีก 29 กอง เป็นการพิจารณาล้วนๆ

เพียงแต่ผู้ชี้ มันชี้กันไม่เข้าใจ เพราะมักจะเอาทิฏฐิใจตนเอง เข้าไปชี้

ใน 40 กอง ต่างก็แบ่งแยกออกไปตามแต่จริต

ราคะจริตก็อย่างหนึ่ง

โทสะจริตก็อย่างหนึ่ง

วิตกจริต ก็อย่างหนึ่ง

โมหะจริต ก็อย่างหนึ่ง

ศรัทธาจริต ก็อย่างหนึ่ง

พุทธจริต ก็อย่างหนึ่ง

นี่..มันแยกแยะกันออกไปอีกอย่างนี้ ไม่ใช่ไปจมอยู่กับกรรมฐานกองใดกองหนึ่ง ที่ไม่ตรงกับจริตตน

เสียใจด้วยจริงๆ ต้องขึ้นไปบนเขาก่อน น้องๆ กำลังจะเทฐาน วันหน้าค่อยว่ากันต่อ

ไม่เป็นไร ความรู้นี่ไม่ต้องลอกใคร ผัสสะเมื่อไหร่ มันก็ไหลออกมาเมื่อนั้น แล้วเราค่อยมาฟังกัน

ขอสาธุคุณยามสาย ขอให้ร่ำรวยกันหลายๆ ขอสาธุคุณ..

**************************************************

พระธรรมเทศนา จากบทธรรม เรื่อง ไปนิพพาน เริ่มต้นที่ทาน
ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2557
โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง