ถามตอบ…เรื่องเหตุแห่งอวิชา ท่อน 2

(ต่อ) >>* ลองตอบและอธิบายมาซิ อวิชชา…เป็นผลของอะไร..??? *<< (คำถามจากบทธรรม เรื่อง หาเหตุขออวิชชาหน่อยซิ…อะไรคือเหตุแห่งอวิชชา)

<< พระอาจารย์ : เมื่อวานสัญญาณขาดหายไป จึงไม่ได้ตอบท่านผู้ทรงคุณทั้งหลาย เช้านี้ กำลังปัญญาแน่นหนา มาโม้ต่อเลยละกัน 

>> คำตอบ 24 : อวิชชา เป็นผลแห่งเหตุ เหตุนี้คือสมมุติ สมมุติ คือตัวอวิชชา เป็นที่มาของอาการแห่งเหตุ ทั้งปวงงงง 555 ผลแห่งการยึดในเหตุสมมุติทั้งปวง ทำให้เกิดอวิชชา…

<< พระอาจารย์ : NaDia อวิชชา เป็นเหตุแห่งเหตุทั้งหลายทั้งปวงอยู่แล้ว นั่นมันอยู่ในกาล เราหาเหตุแห่งการเกิด อวิชชาจ้า

>> คำตอบ 25 : จิตหลงยึดมั่นถือมั่นอยู่ว่ามีตัวตน มีเรามีเขา ก็คือความหลงอยู่ดี

<< พระอาจารย์ : ธรรมชาติสร้างกลุ่มก๊าซ เป็นธรรมชาติ อุตุนิยาม เป็นฟิสิกส์ ยังขาดธรรมชาติอีก 4 ตัวจ้า ป้าแอนนา Anna Thanaporn

>> คำตอบ 26 : ผลของอวิชชาคือความโง่หลายๆ  เจ้าคะ ตอบแบบจนปัญญาจริงๆ 555

<< พระอาจารย์ : Rung Muggle อวิชชา คือความโง่ทั้งหลายอยู่แล้วจ้า รุ้ง เราหาเหตุน่ะ

>> คำตอบ 27 : มันก็น่าเป็นเป็นวัฏจักร ไก่ เกิด ไข่ ไข่ เกิดไก่ รึเปล่าคะ

<< พระอาจารย์ : Lula ไก่กับไข่ มันเป็นนิยามของการถกที่ขาดกาล เป็นการคุยเล่นในเชิงศรีถนนชัยน่ะ..

>> คำตอบ 28 : เพราะความไม่เสถียรของอนุภาคอะตอมครับ

<< พระอาจารย์ : ความไม่เสถียรของอนุภาคอะตอม ยังเป็นกฏเก่า ของนิวตันฟิสิกส์ เดี๋ยวนี้มีใหม่กว่า เป็น เรื่องที่ละเอียดลงไป คือเรื่องโครงสร้างของหน่วยอะตอมไปแล้ว ริ้วรอยธรรม

วิทยาศาสตร์ กำลังฉงนกับความไม่แน่นอน ในโครงสร้างของอะตอม ที่ผกผัน เปลี่ยนแปลงไปตามกระแสแห่งการกระทบ จากพลังงาน เป็นสสาร และจากสสาร ผกผันเป็นพลังงาน เรียกว่า ทฤษฏี ควอลตั้มฟิสิกส์ นี่ ทฤษฏีใหม่กว่า ความไม่เสถียร ของหน่วยอะตอม ที่เป็นทฤษฏี นิวตันฟิสิกส์

>> คำตอบ 29 : พระอาจารย์ถามถึงเหตุหรือผลของอวิชชาคะ งง งง หรือคำตอบมันคือตัวเดียวกัน

<< พระอาจารย์ : Rung Muggle ไม่ต้องงง คำตอบมันมี แต่มันมีกาลแห่งคำตอบ และเป็นเหตุเดียวกัน ทั้ง สามกาล ในกฏของ ปฏิจสมุปบาท ลูกสาวน้อย

>> คำตอบ 30 : อวิชชา เป็นผลแห่งเหตุ เหตุนี้คือสมมุติ สมมุติ คือตัวอวิชชา เป็นที่มาของอาการแห่งเหตุ ทั้งปวงงงง 555

<< พระอาจารย์ : NaDia ..ka เริ่มออกลูกมั่วแล้วสาวน้อย วลีนั้นมันสรุปผลเว้ย

>> คำตอบ 31 : อณูละเอียด…ค่ะ

<< พระอาจารย์ : อณูละเอียด เป็นพลัง และสสาร ที่รวมรูปอยู่ในอะตอมจ้า waraporn ย้ง เป็นธรรมชาติแห่ง อุตุนิยาม

>> คำตอบ 32 : อวิชชา เป็น ผล ของอวิชชา !

<< พระอาจารย์ : ดวงเดือน.. อวิชชาเป็นผลของอวิชชา แสดงว่า พ่อก็เป็นผลของพ่อ แทนที่จะเป็นผลของปู่ ฮ่าๆๆ

>> คำตอบ 33 : อวิชชาคือผลของสัญญา เอิ๊กกกก

<< พระอาจารย์ : Kamsang Sangma สัญญาเป็นผลของอวิชชาเว้ย บักแสง มันเป็นนิยามแห่งขันธ์ห้า ที่มาประกอบกันเป็นแก อย่างหยาบๆ

>> คำตอบ 34 : อวิชชาเป็นทั้งเหตุ,,และผล,,ในตัว,,ค่ะ เมื่อเกิดอวิชชาแล้วเป็นผลแห่งวิบาก,,,กรรม,ทำให้เราต้องเวียนว่ายตายเกิด,,,สาธุในธรรมค่ะ

<< พระอาจารย์ : Erika Thongbai เหตุและผลในตัว เป็นผลที่เกิดต่อๆ กัน ออกมาแล้ว แจง.. เราต้องการทราบ เหตุที่ทำให้อวิชชาเกิด ว่ามันสืบเหตุมาจากอะไร

>> คำตอบ 35 : อวิชชาคือตัวรู้ที่เข้าไปเสือกทุกอาการที่ถูกกระทบจากอายตนะ(ถ้ามีรูป) จากความทรงจำ(ถ้าไม่มีรูป)

<< พระอาจารย์ : Rung Muggle ถูกต้องครึ่งหนึ่งจ้า ลูกสาว รุ้ง อวิชชา มีเหตุมาจาก การกระทบ ที่เรียกว่า ผัสสะเป็นเหตุ เพราะเหตุแห่งผัสสะมีนี่แหละ จึงเกิดผลคือ อวิชชา เดี๋ยวว่างแล้วจะมาอธิบาย ขอตอบทุกคนไปก่อน

>> คำตอบ 36 : อวิชชาเป็นผลแห่งจิตที่ยังไม่มีสติปัญญาเข้าไปพิจารณารู้ตามความเป็นจริง(ขอขายมะพร้าวก่อนล่ะขอรับ)

<< พระอาจารย์ : จริงฤา โคตรๆ จิตเป็นผลแห่งอวิชชาท่าน จริงฤา จิตมีอวิชชาเป็นเหตุ

>> คำตอบ 37 : เหตุของอวิชชา การไม่มีสติ

<< พระอาจารย์ : Geng Geng ถึงมีสติ ก็เป็น อวิชชา เก่งๆ

>> คำตอบ 38 : กฎของธรรมชาติ…ธรรมนิยามตา…เจ้าค่ะ

<< พระอาจารย์ : Siriporn Sae Chang กฏธรรมชาติ เป็นธรรมดาของมันที่มี ไม่ขึ้นกับ อวิชชาน่ะ

>> คำตอบ 39 : นิวรณ์ ๕….เจ้าค่ะ

<< พระอาจารย์ : นิวรณ์ 5 เป็นอาการของอวิชชาน่ะ สิริภรณ์

>> คำตอบ 40 : ผลแห่งการยึดในเหตุสมมุติทั้งปวง ทำให้เกิดอวิชชา…

<< พระอาจารย์ : การยึดมันเป็นอุปาทาน นี่มันเกิดจากอวิชาอยู่แล้วเดีย

>> คำตอบ 41 : ตัวไม่รู้แล้วหลงไปยึดติดในสมมุติของขันธ์ที่เกิดจาก การผัสสะ จากเหตุทั้งปวง เจ้าค่ะ มั่ว ๆ ไปค่ะ

<< พระอาจารย์ : ตัวไม่รู้แล้วหลง มันก็เป็นอวิชชาทั้งดุ้นอยู่แล้ว มันอยู่ที่ใจ..

>> คำตอบ 42 : อวิชชาคือ จิตที่ไม่รู้แต่สร้างความรู้ขึ้นมาแล้วยึดว่าตัวเองรู้เลยรู้แบบไม่รู้…มันเลยคลอดลูกคลอดหลานรู้โดยไม่รู้ว่าใครเป็นพ่อ พ่อเลยเป็น ปู่ ปู่เลยเป็น ทวด ทวดเลยเป็นเลยเป็นลูกของปู่ทวด โอย งง ค่ะ

<< พระอาจารย์ : อวิชชา เกิดก่อนจิต น่ะปู จิตที่ไม่รู้ มันเกิดจาก อวิชชา

ตอบให้เกือบทุกคนแล้วนะจ๊า ถูกอยู่ที่สาวน้อยรุ้ง แต่เป็นถูกอย่างตอบผิด ไม่ได้ถูกอย่างถูกต้อง แล้วจะอธิบาย การตอบมานี้ ไม่ว่าจะตอบผิดหรือถูก ย่อมเป็นเครื่องยืนยันใจของเรา ว่าเป็นใจ ที่ใฝ่มาทางธรรม

มีความห้าวหาญ และกล้าที่จะแสดงออก กล่าวได้คือ เป็นผู้มีวิบาก อันเป็นปฏิภาณ ผู้ที่กล้าตอบกล้าแสดง หากเข้าถึงมรรคผล เป็นเหตุให้ได้ ปฏิทาญาณ ไม่กิ่งใดก็กองหนึ่ง

ส่วนผู้ที่แค่อ่านๆ โอกาสก็ลดลงมาตามกำลัง แห่งความแหลมของการแสดงออก เพราะการกระทำทุกอย่าง มันเป็นตัวชี้ วิบากผล

การตอบ เราตอบด้วยภูมิที่งงๆ กันอยู่แล้ว ตอบไม่ถูก ที่ตอบถูก มันบังเอิญไปถูก จะเรียกว่าตอบถูก มันถูกไม่ได้

เหมือนเรายิงเป้าวงกลม

นัดแรก ออกนอกเป้า

นัดที่สอง โดนขอบเป้า

นัดที่สาม ออกนอกเป้าอีก

นัดที่สี่ เกือบโดนเป้า

นัดที่ห้า ออกนอกเป้า

นัดที่หก ยิงเข้าเป้า ตรงจุดพอดี

อย่างงี้ เรียกว่าเป็นผู้ยิงแม่นรึเปล่า มันแค่บังเอิญไปถูก แม้จะตรงเป้า มันก็ยังไม่ใช่ ผู้ที่ได้ชื่อว่า ยิงแม่น ใช่ไหม เพราะให้ยิงใหม่ มันก็ดันออกนอกเป้าอีก

แต่การได้ยิง ถูกไม่ถูก มันก็ได้ซ้อมยิงแล้วแหละน่าโม้ได้มากกว่า คนที่ไม่เคยยิง หรือยิงไม่เป็นเลย เรื่องอวิชานี้ เป็นธรรมแห่งผู้สิ้นสงสัย เราตอบเท่าไหร่ เราสงสัยเท่านั้น เพราะมันเกินภูมิเรา

แต่ตอนนี้ ยังไม่ว่างที่จะมานั่งตอบ ตอบแล้ว พวกเราจะได้เข้าใจเลย ตามภูมิปัญญาที่เรารับได้ ตอบแล้ว พวกเราแย้งได้ กระซวกได้ มาดูกันซิ ธรรมป่าๆ กับธรรมแห่งตำรา ใครจะเข้าถึงความเป็นอวิชชากว่ากัน ผลที่แสดง ย่อมเป็นผลให้ได้โดนกระแทกแน่ๆ เพราะทุกคน ล้วนมีปัญญา หากอธิบายได้ไม่แจ้ง ผู้อธิบาย ย่อมโดนรุมตื๊บ

เช้านี้ ขอสวัสดีนะจ้า มีกิจต้องทำก่อนจ๊า

>> คำตอบ 43 : ก็ถ้าจิตเป็นผลแห่งอวิชา ก็แสดงว่า ทุกอย่างที่มีอยู่เป็นอยู่ คือตัวอวิชชานะซีขอรับ แม้จิตยังไม่เกิดอวิชชานี้ก็มีอยู่ ก็เมื่อจิตก่อเกิดขึ้นมาตามเหตุแห่งอวิชชา แสดงว่า สิ่งทั้งหลายเป็นเหตุ และเหตุที่ยังไม่รู้ที่มาที่ไป คืออวิชชา(เกิดก่อนจิต จิต คือผลแห่งอวิชา การดำเนินไปตามแบบธรรมชาติ ของธรรมชาติเรียกว่าอวิชชาใช่ไหมขอรับ)

<< พระอาจารย์ : ตอบจริงฤา..

คำว่าอวิชชานี้ เป็นคำสมมุติ ที่เกิดก่อนจิต คำว่าจิตนี้ เป็นจิตขึ้นมาได้ อาศัยการปรุงแต่ง แห่งอวิชชา จึงเรียกว่า จิตสังขาร

คำว่า อวิชชานี้ แรกเริ่ม มันไม่มีเจ้าของแห่งความเป็นอวิชชา เมื่อเกิดการปรุงแต่งเป็น จิตสังขาร ก็ยังไม่มีเจ้าของ

ต่อเมื่อปรุงแต่มาจนถึงจุดตัวรู้ ที่ประกอบด้วยการปรุงแต่ง ตรงนี้ก็ยังไร้การเป็นเจ้าของ เรียกว่า วิญญาณ

วิญญาณอาศัยวิบากแห่งการปรุงแต่ง สร้างนามรูปขึ้นมา เจ้าของสมมุติทั้งหลาย เริ่มจากตรงนี้

เพราะตรงนี้ มีเครื่องมือแปลงจิตสังขารทั้งหลาย ที่ปรุงแต่งโดยอวิชชา แสดงผลออกมา เป็นกระบวนการ ที่เรียกว่า รูปขันธ์ นามขันธ์

เราเรียกว่า สังขารแห่งขันธ์ 5 นี่แหละ เป็นตัวแสดงผล แห่งกระบวนการ แล้วใส่สมมุติขึ้นมา จากการปรุงแต่ง ที่เกิดจาก อวิชชา

อาศัยช่องทาง ที่เรียกว่า อายตนะ และการผัสสะ เข้าไปปรุง เมื่อครบกระบวนการ มันก็จะออกมาเป็นสมมุติ ที่ปรุงแต่งเรียบร้อยแล้ว เรียกว่า เวทนา

นี่พอคร่าวๆ ว่า จิตเริ่มแรก ไม่มี ที่มี เกิดจากการผัสสะแห่งอวิชาเป็นเหตุ…จิตสังขาร คือการปรุงแต่งแห่งจิตจึงมี

ฉะนั้น จิตนี้ ไม่ได้บริสุทธิ์ สว่างไสว ประภัสสรอะไร เป็นแค่บริสุทธิ์อย่างโง่ๆ ที่ยังไม่สะสมความโง่ ทับถมมากๆนั่นแหละ ถึงจะถูก แล้วจะค่อยมาอธิบายอีก..

>> คำตอบ 44 : อวิชชาคือหลงทำให้เกิดอุปาทาน.สัญญาทำให้เกิดธาตุขันธ์วิญญาณอย่างไม่รู้จบความหลงอวิชชาเวียนว่าย.ไม่รู้วิธีคลายอุปาทาน.เพราะความหลงอวิชชา.คือความไม่จบไม่สิ้น..ปัญหาคือการดับอวิชชาคลายอุปาทานคืออะไรครับ…ไม่รู้ตอบตรงประเด็นหรือป่าว..

<< พระอาจารย์ : การดับอวิชชา มันอาศัยเหตุปัจจัยดับ โดยการเริ่มที่ศีล อุปาทานก็จะคลายตัวไปเป็นลำดับ ชโย..

>> คำตอบ 45 : อวิชชาเป็นผลแห่ง ธรรมดาของธรรมชาติ…ครับ

<< พระอาจารย์ : อวิชชา ไม่ได้เป็นผลธรรมของธรรมชาติ เสือกกล้วย อวิชชา เกิดจากผัสสะ และมีเจตนา เป็นเหตุ

>> คำตอบ 46 : เจตนาของอวิชาก็คือ การรักษา รูปขันธ์ นามขันธ์ ให้คงอยู่ใช่หรือป่าวครับ พระอาจารย์…??

<< พระอาจารย์ : อวิชชานั้น ไม่มีเจตนา เจตนาเกิดจาก การปรุงแต่งที่อาศัยอวิชชา เป็นเหตุ เสือกล้วย ที่กล่าวว่า เจตนาแห่งอวิชานั้น เรากล่าวโดยรวม ว่าเกิดจากรูปนี้ ที่เป็นความหมายแทนตัว อวิชชา

ถาม-ตอบ ปัญหาธรรม จากบทธรรม เรื่อง หาเหตุขออวิชชาหน่อยซิ…อะไรคือเหตุแห่งอวิชชา ณ วันที่ 19 กรกฎาคม 2557 โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง