หนีนรกมาเกิด….

หนีนรกมาเกิด….

2157
0
แบ่งปัน

…หวัดดี จะสองทุ่มแล้ว ฮ่าๆๆ เป็นไงกันมั่ง หนุ่มๆ สาวๆ  ชีวิตนี้ มันแสนจะสั้นมากๆ รู้ไหม เราเองนั้น คงคิดว่ามันยืนยาว

หนีนรกมาเกิด....เราจึงไม่ค่อยกลับมามองชีวิตเรา ว่าเมื่อไหร่ที่เราต้องจากต้องพราก เราเอาอะไรไปได้บ้าง เราโกรธ เราไม่พอใจใคร และแสดงออกถึงความดุร้าย

วันหนึ่ง..ถึงไม่ดุร้ายใส่กัน เราก็ต้องจาก

เราไม่ชอบใคร อยากให้เขาชิบหาย แม้ไม่อยาก เขาก็ต้องเข้าไปสู่ความชิบหายแก่ชีวิตอยู่แล้ว คือความทุกข์ ที่เขาต้องเผชิญ ในรูปแบบวิบากของเขา

เราไม่ควรจะไปดุร้ายอะไรกับใครให้มากมายนักหรอก พึงมีสติยั้งๆ ไว้มั่ง เพราะที่สุด ก็ต้องจาก เมื่อถึงวันจาก มันจะมีประโยชน์อะไร กับความหมายทั้งหลาย ที่เราต่างยึดมั่นถือมั่นกั

เราเอาและพิจารณากันแต่เพียง พอดีๆ กันก็น่าจะพอ การดีต่อกัน ย่อมนำพาความสุขสำราญใจมาให้ การดุร้ายใส่กัน หากให้อภัยได้ เราก็ควรให้อภัยกัน

การทำใจ มันเป็นเพียงแค่อากาศ เราเอาอากาศ มาทำใจให้ลำบาก เรานี่โง่แท้ เวลาในโลกนี้ มันมีเพียงน้อยนิด เราต้องรีบคิด รีบทำเท่าที่กำลังแห่งปัญญา จะอำนวยเถิด

สมัยหนึ่ง ข้านี้ นั่งกรรมฐานช่วงตีสาม จิตที่สว่างไสว ก็เห็นแสงหนึ่งพุ่งผ่านมา เมื่อเพ่งไป แสงนั้นก็ก่อรูป เป็นนายนิรบาล ที่มารับวิญญาณส่งกลับไปยังขุมนรก

นี่..แสดงว่า นรกมี ไอ้คนที่ไม่เคยพบเจอ มันก็คิดว่าไม่มี เมื่อคิดว่าไม่มี หรือมีอย่างไม่แน่ใจไม่ประจักษ์ใจ ความชั่วในใจและความดุร้าย มันก็เลยไม่ถอดถอน

มันเอาความคิดแห่งตัวตน ตัดสินใจไปตามอารมณ์ ผลแห่งวิบาก ก็ต้องจมดิ่งไปในนรกนู่น แต่คนเราไม่กลัวกัน เพราะต่างมองกันไม่เห็น

คนตาบอด ย่อมไม่กลัวหนทางแห่งหุบเหว เพราะเขามองไม่เห็นหุบเหว คนตาบอดย่อมเดินไปท่ามกลางหุบเหว อย่างสบายใจ

++ นายนิรบาลได้เข้ามานมัสการ ข้าจึงถามว่า.. นี่ ท่านจะไปไหนหรือ..?

— นายนิรบาล กล่าวว่า.. เขามารับดวงวิญญาณกลับสู่ภูมิแห่งนรก  เพราะมีดวงวิญญาณ ที่กำลังเปลี่ยนขุมตามวิบาก ได้หนีหลุดออกมา และได้มาเกิดเป็นมนุษย์ อยู่แถบนี้

++ ข้าจึงถามว่า ใครหรือ ที่ท่านจะมารับ..?

— นายนิรบาลกล่าวว่า.. ชื่อตอนนี้ ตามสายกระแส คือนายขวัญ อาศัยอยู่ที่พุน้ำเปรี้ยว

++ ข้าหลับตากำหนดดู ก็รู้ชัดว่าเป็นไอ้ขวัญที่เคยมาที่นี่ และเคยมาตัดไม้แถบนี้  จึงถามว่า เจ้าขวัญ มันหมดอายุขัยแล้วหรือ..?

— นายนิรบาลตอบว่า.. ไม่เกี่ยวกับอายุขัย แต่เป็นเพราะ เจ้าขวัญมันหนีมาเกิดบนโลกมนุษย์นี้ ต้องนำดวงวิญญาณกลับคืนไป

++ ข้าถามว่า เจ้าขวัญมันหนีมาเมื่อไหร่ ..?

— นายนิรบาลตอบว่า.. เมื่อตะกี้นี้ เขาเองพอทราบว่าดวงวิญญาณแหวกมาทางนี้ จึงได้ติดตามมา

++ ข้าบอกว่า.. สงสัยจะผิดตัวแล้วล่ะ เพราะเจ้าขวัญ อายุมัน สามสิบกว่าปีแล้ว ไม่ใช่เพิ่งมาเกิด

— นายนิรบาลกล่าวว่า.. ไม่ผิดหรอก กรรมเป็นตัวกำหนด วิบาก  ไม่ใช่ว่า จะมีใครมาตัดสินใคร กรรมและวิบากที่เจ้าขวัญสร้าง เป็นตัวชักนำมา แม้ตัวนายนิรบาลเอง ก็เกิดจากอำนาจแห่งกรรมของเจ้าขวัญ เรื่องผิดตัว จึงไม่มี

++ ข้าบอกว่า.. แต่นี่ มันอายุ สามสิบกว่าแล้วนะ ไม่ผิดแน่หรือ

— นายนิรบาลกล่าวว่า.. ไม่ผิดแน่นอน เวลาของบนโลกมนุษย์ ช่างไหลไปไวแท้

อย่างนี้ พวกสัตว์มนุษย์ จะเอาเวลาที่ไหน มาสร้างความดี เพื่อเอาตัวให้รอดจากวิบากแห่งกรรมกันทัน นี่ กาลผ่านไปแค่น้อยเดียว สัตว์มนุษย์ ก็มีความแก่ ความเจ็บ ความตายมาเยือนซะแล้ว

การได้มาเกิดก็แสนยาก นี่..มนุษย์ทั้งหลาย มันจะรู้ตัวกันไหมหนอ ว่าเวลา ที่โลกหมุน มันไวยิ่งกว่าเหรียญที่เราหมุนมากมายนัก

เวลาที่รับกรรมในนรก กับเวลาที่ได้มาเสวยสุขทุกข์ บนโลกมนุษย์ มันช่างแตกต่างกันเหลือเกิน น่าอนาถใจพวกมนุษย์แท้หนอ

ที่ยังหลงใหลเมามัว ไม่ตื่นขึ้นมามองเห็นความจริงว่า เวลาที่ได้กำเนิดมา มันมีห้วงเวลา แค่น้อยนิด รีบๆ ทำความดีกันเข้า อย่าปล่อยให้เวลาล่วงเลยไป มันจะแย่แล้วจะแก้ไม่ทัน

++ ข้าจึงบอกไปว่า.. ขอบิณฑบาตรชีวิตมันได้ไหม เพราะลูกมันยังเล็ก ข้าจะไปบอกมันให้มันหมั่นทำความดี และทำบุญกุศลมากๆ เพื่อเป็นการไถ่โทษ

— แต่นายนิรบาลส่ายหน้า และขำข้า ท่านบอกว่า.. ไม่มีมนุษย์หน้าไหน มันจะไปเชื่อท่านหรอก ท่านก็รู้ก็เห็นอยู่

แม้แต่ศิษย์ที่เคารพท่าน เขายังไม่เชื่อท่าน แล้วท่านจะไปบอกเจ้าขวัญ ให้ละอายชั่วกลัวบาป มันคงจะเชื่อท่านหรอก  ท่านย่อมรู้ดีอยู่แล้ว ท่านจะมาพูดเพื่ออะไร

++ ข้าบอกว่า ข้าเห็นแก่ลูกของมัน ที่จะขาดพ่อ จึงรั้งๆ ไปงั้น ขอบิณฑบาตรชีวิตไม่ได้หรือ

— ท่านบอกว่า ที่ท่านมา ก็มาด้วยแรงแห่งวิบากกรรม ที่ยังเหลืออยู่ ของเจ้าขวัญ ไม่ได้มาตามหน้าที่ อย่างทางราชการของพวกมนุษย์ กรรมเป็นตัวชี้ และนำพามา

ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ท่าน แต่มันอยู่ที่กรรมของเจ้าขวัญ มันจัดสรรของมันเอง

++ ข้าถามว่า แล้วมันจะตายเวลาไหน และเป็นอะไรตาย

— นายนิรบาล ส่ายหน้า บอกว่า เหตุแห่งการตาย บอกไม่ได้ ต้องอาศัยผลแห่งกรรมที่จะมาให้ผล และผลนั้น อาศัยเหตุปัจจัยแห่งกรรมที่ประกอบอยู่นานวัน ผลนั้น จะเป็นเหตุชี้ให้ทำลายรูปที่วิญญาณยึดเหนี่ยวไว้ ให้สลายตัว

++ ข้าจึงถามว่า แล้วเจ้าขวัญ มันหนีมาเกิดได้ยังไง ไหนใครๆ เขาว่า การเกิดเป็นมนุษย์มันยากแท้ แต่นี่..แม้แต่สัตว์นรก มันยังหนีมาเกิดเป็นมนุษย์ได้ อย่างง่ายๆ อย่างนี้ ไม่เป็นการแย้งอะไรกันมั่งหรือ

— ท่านบอกว่า การเกิดเป็นมนุษย์นั้นยากแท้ แม้ตัวท่านเอง กว่าจะได้มาเกิดกำเนิดเป็นมนุษย์อีกครั้ง หากเอาใบไม้ทั้งโลกมารวมและนับกัน ทีละใบ

ได้จำนวนเท่าไหร่ คิดเป็นใบละปี ตัวท่านนั้น มีเวลาในการรอมาเกิดตามวิบาก มากกว่าจำนวนใบไม้นั้น ที่นำมารวมกันทั้งโลก

นี่..ท่านกล่าวว่ามาอย่างนี

++ ข้าจึงถามว่า แล้วเจ้าขวัญ มันมาเกิดเป็นมนุษย์ได้อย่างไรเล่า หากเป็นเช่นนั้นจริง

— ท่านบอกว่า เจ้าขวัญ มันมาแทรกดวงวิญญาณเด็ก ที่กำลังจะเกิด

เด็กคนนั้น ดวงวิญญาณไม่สามารถครองกายได้ เพราะมีวิบาก มาตัดรอน ให้สูญเสียรูป ที่กำลังจะก่อเป็นตัวเกิดกำเนิดมา

เจ้าขวัญมันไปแฝงรูป แทนวิญญาณเด็กคนนั้น รูปก็คือรูป มันไม่มีวิญญาณครอง มันก็เติบโตของมันได้ เหมือนต้นไม้ หากได้รับอาหาร และการขับเคลื่อนแห่งธาตุ ที่ไม่แตกกระจาย

เจ้าขวัญ มันจึงเติบใหญ่ขึ้นมาโดยอาศัย การเลี้ยงดู และเป็นเจ้าของรูป เป็นตัวตนของเจ้าขวัญ เหมือนผีที่มาแอบครองรูปเวลาเข้าทรง เหมือนกันนั่นแหละ

เพียงแต่การเข้าทรง มันมีวิญญาณเจ้าของรูป เขาเฝ้าหวงดูแลอยู่ แต่ของเจ้าขวัญ วิญญาณเด็ก ต้องไปเกิดกำเนิดใหม่ และก็ต้องตายต้องจากรูปที่ไปเกิดอีก เป็นแสนๆ ครั้ง นี่..คือผลแห่งวิบาก ที่วิญญาณเด็กเก่าผู้นั้น ต้องเสวย

++ ข้าพยักหน้าเข้าใจ ถามว่า ข้าเอาเรื่องเหล่านี้ มาบอกพวกมนุษย์ได้ไหม

— ท่านหัวเราะ บอกว่า ไม่มีมนุษย์หน้าไหน มาเชื่อท่านหรอก เขามองว่า มันเป็นนิทาน

มีพระผู้ทรงคุณ ที่รู้เห็นเรื่องพวกนี้ ชัดเจนยิ่งกว่าท่าน ท่านเหล่านั้น ยังไม่เอามาบอกกันเลย เพราะท่านเหล่านั้น รู้แล้ว ประจักษ์แล้ว ว่ามนุษย์ มีกรรมเป็นของตนเอง พูดยังไง มันก็ไม่เชื่อ

แต่หากว่าท่านอยากให้คนอื่นเขาหัวเราะ หรือเพื่ออยากดัง ท่านก็บอกไปเถิด ตัวท่านนั่นแหละ จะรับผลแห่งวิบาก คือคนจะปรามาสและหัวเราะเยาะท่าน

และท่านก็รู้ว่า เขาเหล่านั้น จะเป็นกรรม ท่าน ..จะไปซ้ำเติมเขาด้วยความหวังดี ของท่านหรือ ท่านเอาตัวของท่านเองให้รอดก็พอ

คนอื่นๆ ท่านอย่าไปยุ่งเลย ยิ่งช่วย ยิ่งชี้แนะ เขาจะแย่และลงลึก ไปด้วยทิฏฐิแห่งใจเขา ท่านก็ต้องย่อมรู้ดี นี่..นายนิรบาล ท่านว่ามาอย่างนี้

เช้าวันนั้น ข้าอธิฐาน ขอให้เจ้าขวัญ ขับเรือผ่านมาทางแพที่ข้าอยู่ และมันก็ขับมาจริงๆ แต่ผ่านเลยไป มันแค่โบกมือให้ นั่นข้าจึงเห็นมันเป็นครั้งสุดท้าย

เย็นวันนั้น เจ้าขวัญโดนไม้ที่มันแอบเข้าไปตัด ล้มทับตัว เสียชีวิต ทิ้งลูกและเมีย ไว้เบื้องหลัง นี่..เป็นเหตุตัวอย่างเล็กๆ น้อยๆ ที่พอจะมา เตือนใจเราได้ หากเชื่อข้า

เวลาของเรานั้น มีเพียงแค่น้อยนิด หากยังหลงเพลิน กับกิเลสตัณหา อย่างถอยไม่ออกอยู่ละก็ ชาตินี้ คงเสียเวลามาเกิดเป็นมนุษย์อีกครั้งเป็นแน่

คืนนี้ ขอสวัสดี เอาไปนอนคิดเล่นๆ ดูละกัน และคิดดูว่า ข้าเองรู้ขนาดนี้ และนั่งมองดูพวกเราอยู่อย่างนี้ กูละเบื่อชิบหายเลยโว๊ย บอกตรงๆ หวัดดีทุกๆ คน ขอสาธุการ..!!

พระธรรมเทศนา ณ วันที่ 9 เมษายน 2557 โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง