ความพราก ที่ต้องเผชิญ…

ความพราก ที่ต้องเผชิญ…

876
0
แบ่งปัน

…หวัดดี ทุกๆ คน วันนี้ เศียรองค์พระ ที่ได้สร้างความภาคภูมิใจ ให้แก่ผู้ที่ได้มีส่วนร่วม ที่ได้ทุ่มเทใจ ปลาบปลื้มใจ ได้ล้มลงซะแล้ว 

ความพราก ที่ต้องเผชิญ...ครั้งหนึ่ง สมัยที่ข้าเริ่มปั้นองค์พระพุทธะ ครั้งนั้น รูปปั้นที่แสนรัก แสนหวง เพราะเกิดจากการทุ่มเทใจ ในการทำ ก็ล้มลงมาเช่นกัน ทำให้ส่วนเศียรเสียหาย แต่ข้าก็ปั้นใหม่ ข้าถือว่า ข้ามีหน้าที่ปั้น และปั้นออกมาให้ดีที่สุด

ไม่มีหน้าที่ จะต้องมาคร่ำครวญ หรือเสียใจ ในสิ่งที่ได้ผูกพันและได้กระทำขึ้นมา ครั้งนั้น องค์รูปปั้น ล้มแล้วล้มอีก ข้าก็ปั้นแล้วปั้นอีก

ที่สุด.. ก็กลายมาเป็นรูปปั้น ที่สวยงาม สมใจทุกๆ คน ข้าไม่รู้สึกเสียใจเลย ที่ครั้งนั้น ที่รูปปั้นองค์พระพุทธะ ล้มลงและส่วนเศียรเสียหาย เพราะข้ามองว่า เป็นการดี ที่ข้าได้ฝึกปรือฝีมือ ให้ยิ่งๆ ขึ้นไป ล้มได้ ก็ทำใหม่ได้ ความเศร้าสร้อยเสียใจ ก็เลยไม่มี

มาครั้งนี้ เศียรที่ยิ่งใหญ่ ใช้กำลังใจใหญ่ ไม่นึกฝันว่าจะสร้างขึ้นมาได้ ช่างเป็นเศียรที่ยิ่งใหญ่ สมส่วนและสวยงาม เราได้ทำพิธีสมโภช บวงสรวง สยายกึกก้องไปทั่วฟ้า ทั่วแผ่นดิน

เหล่าพรหมเทวาได้รับรู้และร่วมกันโมทนา ยังความปลื้มปิติใจแก่เหล่าพรหมเทวา และเหล่าชาวเรา แห่งบุญญพลัง เป็นล้นพ้น

บางท่านได้มีโอกาส ขึ้นไปกราบแนบใกล้ชิด บางท่านได้ขึ้นไปสวดมนต์ ด้วยความปลื้มปิติ บางท่านได้ขึ้นไปอธิฐานจิต ทุกๆ ท่าน ต่างล้วน มีความปลาบปลื้มเกิดปิติ อย่างใหญ่หลวง ที่ได้มาผัสสะ และได้พบเห็นอย่างประจักษ์ต

เราภูมิใจ และปลาบปลื้มใจกันมายังไม่ทันไร มาวันนี้ ผ่านไปแค่เพียงสามวัน เศียรองค์ท่านอันเป็นที่รักยิ่ง ที่ได้ทุ่มเทแรงกาย แรงใจลงไป ได้ล้มลงไปกับผืนปฐพีซะแล้ว

ข้าได้หันมามองตอนท่านล้ม และชี้บอกให้ท่านมหาดู ตอนนั้น ลมพายุกำลังแรงกล้า เต้นท์ที่พวกเราใช้คุมกันแดดกันฝน กำลังทะยานหนี

ข้านี้เข้าไปรั้งไว้ เชือกก็หลุดขาดไปตามแรงลม เต้นท์ขนาดใหญ่ ลอยสูงขึ้นไปทั้งเสาเหล็ก มันลอยขึ้นไปทั้งๆ ที่มีเชือกรั้งอยู่หลายสาย

ที่สุด..มันก็ตกลงมา และทะยานขึ้นไปใหม่ ข้าเห็นว่า กำลังข้าฉุดไม่อยู่ ก็เลยปล่อยไว้เฉยๆ มันจะกระจายแค่ไหน ก็เชิญตามสบาย

ข้าหันกลับมาดูใจแทน ว่ารู้สึกอย่างไร ใจข้านี่ มันช่างวิเศษนัก มันไม่ยักจะตื่นตูม หรือเศร้าหมอง มันเฉยๆ และไม่ยินดียินร้าย ในสิ่งที่กำลังมาผัสสะกับใจ นั่นก็คือ ความจากไกล จากเศียรท่าน ที่เราได้ทุ่มเทกำลัง สร้างขึ้นมา

ใจภายในและภายนอก มันยอมรับ สิ่งที่พึงเกิด ว่ามันเกิดของมันได้ เป็นธรรมดา มันยอมรับและเห็นชัดว่า ความไม่แน่นอน การจาก การพราก มันอาศัยเหตุปัจจัยเกิดขึ้นได้เสมอ

ใจมันยอมรับกฎในข้อนี้ อย่างเต็มใจ มันเอาสิ่งเหล่านี้ มาสอนใจ ว่าอะไรใดๆ ในโลกนี้ ช่างไม่แน่นอน อย่าได้พึงยึดมั่นปักหลักอะไรลงไปในสิ่งใดๆ เชียว

ความพ่ายแพ้แห่งใจ มันจะจู่โจมท่าน ให้จมลึก เศียรท่านล้มไปแล้ว ก็ล้มไป เดี๋ยวเราสร้างขึ้นมาใหม่ คราวนี้ขึ้นไปสร้างองค์ท่านจริงๆ ซะเลย จะได้ไม่ต้องเสียเวลามาถอดแบบขึ้นไปประกอบ บนยอดภูเขานู่น

ข้าทำได้อยู่แล้ว เพิ่งผ่านโปรมาหยกๆ องค์ท่านล้มนี่ก็ดี เราจะได้หันมาดูใจเรา ว่าเราคร่ำครวญหรือหวั่นไหวแค่ไหน

เรากลับเห็นชัดว่า ใจเราตั้งมั่น และสงบยอมรับ อะไรก็ตาม ที่เกิดขึ้นมา เสมือนหนึ่งที่ทิ่มแทงใจ แต่สายใยที่ทอถักสานใจดวงนี้ มันไม่ได้สะเทือนหวั่นไหวหรือเกิดความเศร้าหมองของหนามอันแหลมคม ที่วิ่งผ่านมาทิ่มแทงใจเลย

มันพร้อมและยอมรับ ว่าใดๆ ก็เกิดขึ้นได้ มันไม่แน่นอน ขอให้พวกเราที่มาร่วมสร้าง พึงพิจารณา และมองกลับมาดูหัวใจเรา

ดูว่าเรามันหวั่นไหว หรือไม่เป็นไร อะไรจะเกิด มันก็ต้องเกิดเป็นธรรมดา ตรงนี้แหละ เป็นสิ่งแสนสูงค่า ที่เราได้ร่วมกันมา มันคือผลที่น่าประทับใจเรา..

แต่แรก ก็ยังไม่แน่ใจว่าเกิดจากอะไร ที่นอกเหนือไป จากแรงลมพายุ ข้ากำหนดจิตดูแล้ว เกิดจากความแรงของพายุอย่างเดียว

และเมื่อย้อนเข้าไปสอดส่องสรรพสิ่ง ในมโนจิต ได้แสดงให้เห็นถึงคลื่นซึนามิ ที่พัดถล่มทะลาย กวาดทุกสิ่งสะลายไป อะไรที่เป็นวัตถุขนาดใหญ่ แรงต้านก็ยิ่งเยอะ เมื่อเจอแรงกระหน่ำที่รุนแรงกว่าแรงต้าน ความพรากก็มาเยือน นี่…มันเป็นธรรมชาติของมันเช่นนี้

ของเราเป็นแค่แบบโครงสร้าง เพื่อนำขึ้นไปประกอบ บนภูเขา ความแข็งแรงก็มีตามกำลังของแบบ

แม้ล้มไป เราก็ทำขึ้นมาใหม่ได้ อย่าให้ความปลาบปลื้นใจ ที่บังเกิดในใจเรา มาทำลายและกลับกลายเป็นหอกดาบ มาทิ่มแทงใจเรา ก็แล้วกัน

วัตถุทุกอย่าง ล้วนมีความไม่คงทนต่อการพิสูจน์ เรา..พึงยอมรับกฎข้อนี้เถิด เรา.จะสุขใจเมื่อมองไปบนซากแห่งปรักพัง

ว่าเมื่อเร็ววันที่เพิ่งผันผ่าน ความภาคภูมิใจในความสวยงามและเป็นปาฏิหาริย์แห่งใจ ได้บังเกิดขึ้น และสลายลงเป็นธรรมดา เพียงแค่มันเร็วกว่าที่คิดกัน มันก็แค่นั้นเอง

เศร้า…ท่านก็ล้มพับลงมาแล้ว ไม่เศร้า ท่านก็ล้มพับลงมา เราเองเท่านั้น ที่เป็นผู้เลือก ชะตาชีวิต กรรมเป็นผู้กำหนด แต่การเลือก ที่จะก่อหรือดับกรรม เรา..เป็นผู้ลิขิต.. ไม่ใช่กรรม จะมาลิขิตใจเราได้ จำเอาไว้เลย..!!

นี่..เป็นแค่ซ้อมๆ หลังสงกรานต์ เรามาเอาจริงกัน นู่นเลยขึ้นไปลุยกะองค์จริงๆ  บนภูเขานู่น ข้าขอ…เป็นกำลังใจ

คืนนี้ ขอสวัสดีกับทุกๆ คนเพียงแค่นี้ สวัสดีมีชัยกับทุกๆ  คน..!!

พระธรรมเทศนา ณ วันที่ 10 เมษายน 2557 โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง