เลือกหนทางชีวิตได้ด้วยตัวเราเอง

เลือกหนทางชีวิตได้ด้วยตัวเราเอง

303
0
แบ่งปัน

*** “เลือกหนทางชีวิตได้ด้วยตัวเราเอง” ***

หวัดดียามเช้า

เป็นไงกันบ้าง
เล่านิทานให้ฟังเอาไหม

ชีวิตคนเรานั้นไม่ยืนยาวนัก
อะไรปล่อยได้ก็ปล่อยๆไป

เรานั้นมักจะเอาแต่ใจตนเป็นส่วนใหญ่
ทำให้ลืมความใส่ใจของคนข้างๆ

ความผิดหวังเพราะต้องการให้ได้ดั่งใจตนนี่
เป็นของขวัญที่โลกด้านมืด
ห่อไว้เตรียมส่งให้เราทุกๆเช้าได้เสมอ

เราอาจแข็งแรงพอที่จะแกะห่อของขวัญ
แต่เราอาจจะไม่แข็งแรงพอ
ที่จะรับสิ่งที่อยู่ในห่อของขวัญนั่น

แต่ไม่ว่าจะอย่างไร

ของขวัญอันเป็นอาหารมื้อเช้า
ย่อมโดนส่งมายังผู้มีหัวใจที่ห่อเหี่ยว
และต้องการให้ได้ดังใจอยู่เสมอ

คนเรานั้น ยอมรับไหมว่า
โลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน
มันไม่มีอะไรได้ดั่งใจ

ถั่วเขียวโดนแช่น้ำยังกลายเป็นถั่วงอกได้

เข็มที่ใช้สอยเนื้อผ้าก็สอยเอานิ้วมือเจ้าของได้

ทุกอย่างมันเปลี่ยนแปลงไปตามวิบากแห่งกาลเวลาได้

เราหัดยอมรับมันตามความเป็นจริงซิ

เราอยู่บนโลกนี้ไม่ได้นานนัก

หากเราจะเอาแต่ใจตนเพื่อให้ได้ดั่งใจ
โดยที่ไม่ทำความเข้าใจในสิ่งที่ตนเป็น

เราจะโดนโซ่ตรวนแห่งอารมณ์และความคิด
รัดรึงชีวิตและหัวใจเรา จนมีแต่ความอึดอัดและแคบๆต่อโลกใบนี้

หนทางแห่งชีวิตในแต่ละคน มีทางยาวไม่เท่ากัน
แต่เราได้มีโอกาสที่จะได้เดินย่ำไปบนหนทางแห่งชีวิตได้เหมือนๆกัน

สองข้างทางที่เราเดิน บางครั้งเราอาจหลงระเริงเผลอใจไปกับเคมีที่ผัสสะกับชีวิตเราไปบ้าง ก็ไม่เป็นไร

ลมนั้น หอมกลิ่นขี้หมามาแตะจมูกเรา
หรือกลิ่นขี้หมาลอยฟุ้งมาตามลมเล่า

ลมไม่ได้ใส่ใจความฟุ้งของกลิ่นขี้มาที่ลอยติดตัวลมมา

มีแต่เรานี่แหละ ไม่เข้าใจในความเป็นธรรมดาว่า
ลมไม่ได้ข้องเกี่ยวกับขี้หมาเลย
มีแต่ขี้หมา ที่ลอยฟุ้งขึ้นมาตามลม

สิ่งสำคัญในชีวิต คือเดินต่อไป
ไม่ใช่ใส่ใจกลิ่นขี้หมาที่ลอยมาตามสายลม

ยามเราเดินทุ่งกว้างที่อบอวนไปด้วยสายลม แสงแดดกลิ่นพรรณไม้ ใยเราสดชื่นเล่า

ทุ่งหญ้าไม่ได้แยกแยะเราดีหรือชั่ว

มีแต่เรานี่แหละ แยกแยะความสวยแห่งทุ่งหญ้า ตามอำเภอใจเรา

ธรรมชาติไม่ได้แบ่งแยกผู้คน มีแต่ผู้คน
ชอบแบ่งแยกธรรมชาตที่ไม่ถูกใจตน
ให้เจ้าของทุรนทุรายใจ
ด้วยการก่อฟืนไฟลนใจเจ้าของเอง

เราพึงอยู่อย่างเข้าใจโลกเถิด
อย่าพึงอยู่อย่างให้โลกมันเข้าใจเรา

หากเราเข้าใจโลก
หนทางแห่งชีวิตที่เราย่ำเดินไปอย่างช้าๆนั้น
กาลเวลาที่เหลือแรงให้เราเดิน
มันก็จะเดินอย่างมีคุณค่า

ชีวิตนั้น..หลายอย่างย่อมเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา

เราจะหยุดกาลเวลา ให้เป็นของเราคนเดียวนั้น มันเป็นภาวะที่มืดมน

อยู่ด้วยแสงสว่างแห่งปัญญา

อย่าอยู่ด้วยความมืดมิดที่อับใจตน

เราทุกคน ต่างมีหนทางที่จะเลือกเดิน

การเดินเราเป็นผู้เลือกที่จะเลือกหนทาง
ไม่ใช่เดินไปบนหนทาง ที่ใจตนต้องจำนน..

หวัดดียามเช้า

พระธรรมเทศนา ณ วันที่ 1 ตุลาคม 2562

โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง