>> คำถาม : กราบนมัสการพระคุณเจ้าและขอ
ผมอยากเรียนถามพระอาจารย์ว่
แบบว่ามีความสุขมากครับในช่
<< พระอาจารย์ : Meena Mana…
ก็ไม่ผิดหรอกครับ การสร้างสติรู้ตัว มันต้องมีปัญญาประกอบ คำว่ารู้หนอนี่ เป็นการระลึกรู้ บางอย่างมันก็รู้อยู่แล้ว เป็นเรื่องง่ายๆ เบบี๋ ไม่ต้องสอนไม่ต้องชี้มันก็ไ
คำว่ารู้หนอ เราใช้ในขณะที่ใจเรามันเริ่
เป็นการเจริญอิริยาบท ในสติปัฏฐานสี่ รู้หนอนี่ เป็นคำบริกรรม เพื่อระลึกเตือนสติของใจตน ให้ตั้งมั่นอยู่ในสติที่เป็
ไม่ใช่งูจงอางเลื้อยขึ้นมา จะมาบอกว่า งูจงอางหนอ มันชูคอแล้วหนอ มันจะฉกแล้วหนอ กูจะทำไงดีหนอ มันฉกแล้วหนอ จ๊ากกก … หนอ
แล้วก็ตายห่าไปด้วยความโง่ใ
การตั้งต้นบริกรรมกำกับด้วย
ให้มีสติและปัญญาสอดส่องลงไ
เผ่นออกไปก่อนดีกว่าโว๊ย นี่ฉลาดกว่า คำว่าหนอนี้ เป็นการเริ่มต้นที่จะมีการพ
เป็นอุบายการเริ่มต้นในการท
หนอตลอดชีวิต เป็นหนอแบบโง่ๆ ได้
>> คำถาม : กราบเรียนพระอาจารย์อธิบายก
<< พระอาจารย์ : จิระนันท์ สิโรจน์รังสี..การเดินจงกรม
การเดินจงกรม เราเดินสบายๆ นี่แหละ ไม่ต้องวางท่ามากหรอก มันฝืนธรรมชาติ
เราเดินสบายๆ เดินไปเดินมาพอรู้อารมณ์ในข
ฝึกทำความรู้ตัวทั่วพร้อม ในการที่จะก้าว จะเดิน จะหยุด จะหมุน และอิริยาบทขณะเคลื่อนไหว เราทำความรู้สึกแค่นี้
ส่วนการบริกรรม จะพุทธโธ จะสัมมาอรหัง จะก้าวหนอ หรืออะไร นี่เขาเอาคำมากำกับใจ ไม่ให้มันฟุ้งซ่าน
เมื่อใจมันอยู่กับอารมณ์เดี
ใจที่มันสงบในเวลาเดิน เมื่อทำการวิปัสนาญาณ มันจะพิจารณาได้ดีกว่าการนั
เพราะการนั่ง เวลาสงบ มันจะสร้างมโนจิตวิปลาสฟุ้ง
การเดินจงกรม มันก็มีผู้ชี้การวางจิตไปที
แรกๆ ก็ก้าวอย่างสบายๆ พอจิตสงบ เดี๋ยวมันก็ปรับสมดุลย์ของม
เมื่อสงบ แม้ไม่ได้พิจารณาอะไร แค่เป็นผู้เฝ้ามองอาการเคลื
มันจะเห็นชัดหมด ทั้งผัสสะทาง ตา หู กลิ่น ความรู้สึกกับเรือนกาย และมโนใจ
นี่..อาการเวทนาที่เกิด เราก็จะเห็น และเห็นได้ชัด
คนที่เห็นเวทนาชัด เมื่อทำจนชำนาญ มันก็จะเห็นชัดว่า
เวทนาทั้งหลายที่ผัสสะ มันเกิดจากจิต ที่มีผลเป็นเวทนา ยามผัสสะ
เวทนา ไม่ได้เกิดจากกาย แต่เวทนาอาศัยกายเพื่อให้เก
นี่..เมื่อรู้จิตจนชำนาญ ปัญญามันก็จะเกิด มันจะเห็นชัดอีกว่า อาการแห่งจิตที่เป็นโปรแกรม
ไม่ใช่จิตมันเป็น เรียกว่าเห็นธรรมชาติที่มัน
ภาวะธรรมเช่นนี้ อาศัยการเดินจงกรม ตั้งมั่นในหลักแห่งสติปัฏฐานสี่
กรรมฐานทั้ง 40 กอง ก็ยกเข้ามาใช้กับการเดินจงก
ที่ท่านแยกว่า กรรมฐาน 40 กอง ใช้สำหรับนั่งทำกรรมฐาน อย่างนี้ไม่ถูก
กรรมฐาน 40 กอง มันเป็นการเพ่งซะ 11 กอง เป็นการพิจารณาซะ 29 กอง เราเดินพิจารณาก็ได้ ยืนก็ได้ นอนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องนั่งแต่เพียงอ
การเดินก็นำมาใช้ได้ พูดง่ายๆ ว่า เป็นกองกรรมฐานในอิริยาบทสี
เอาอิริยาบทใดก็ได้ ตามแต่ถนัดและตามเหตุปัจจัย
เพียงแต่เรามันติดการนั่ง เข้าใจว่าการนั่งเป็นการเจร
สติเป็นตัวสอดส่ง ทำให้เกิดองค์ตรัสรู้ ที่เรียกกันว่า โพชฌงค์ จะนั่ง ยืน นอน เดิน เข้าโพชฌงค์ได้ทั้งนั้น ไม่ได้แยก เพียงแค่เริ่มแรก ฝึกสร้างสติให้ดีไว้ก่อน..
>> คำถาม : กราบเรียนถามพระอาจารย์เจ้า
<< พระอาจารย์ : จิระนันท์ สิโรจน์รังสี ทุกข์นั้นต้องม
ธรรมชาติของจิต เมื่อตื่นขึ้นมา หากเอาสติลงไปสอดส่ง ยามเช้า
เรื่องราวทั้งหลายที่ค้างคา
และแก้ไขลงได้ด้วยกำลังแห่ง
แต่จู่ๆ บอกว่าทุกข์ มันต้องมีเหตุ หากไม่ค้างคาเหตุ ใจมันทุกข์ไม่ได้
มันไม่ใช่วิสัยในธรรมชาติแห
แล้วหาวิธีดับ คือยอมรับด้วยปัญญาว่า มันเป็นของมันเช่นนั้นเอง ถ้าเรา..ไม่ไปเสือกกับมัน
พระธรรมเทศนา จากบทธรรม เรื่อง เดินจงกรม……ท่อนที่ 2 ณ วันที่ 19 กันยายน 2557
โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง