มารร้ายเกิดจากใจเราใช่ใครอื่น

มารร้ายเกิดจากใจเราใช่ใครอื่น

363
0
แบ่งปัน

****** “มารร้ายเกิดจากใจเราใช่ใครอื่น” ******

ถาม..พระอาจารย์ค่ะ หากเราแก้เหตุดี ผลทุกอย่างก็ดีใช่ใหมค่ะ

พระอาจารย์…มันก็ไม่แน่ มันอาจแค่ดีอย่างหนึ่งแต่เสียอย่างหนึ่ง

ถาม…ก็พุทธเราชี้ไปที่เหตุ ให้ไปแก้ที่เหตุ เหตุดี ผลย่อมดีนี่เจ้าค่ะ

พระอาจารย์… นั่นมันก็ถูก มันดีก็ดีเฉพาะที่เราเข้าไปแก้ แต่การแก้ มันต้องมีปัญญาเข้าไปมีส่วนประกอบ

เห็นพระนั่นไหม ท่านกวาดใบไม้ทุกวัน ภายใต้ร่มไม้ที่ร่มรื่นนั้น

กวาดเช้ากวาดเย็น ถ้าเป็นแก แกเบื่อกับใบไม้ที่ร่วงหล่นลงมาไม่รู้หมดนั่นไหม

ถาม..ก็คงเบื่อเจ้าค่ะ แล้วเราจะแก้กับใบไม้ที่ร่วงหล่นยังไงเจ้าค่ะ

พระอาจารย์… หากพระนั่นคิดว่า เหตุที่ใบไม่ร่วงหล่นก็เพราะมีต้นไม้ ใบไม้ถึงมี

ท่านใช้วิธีแก้ที่เหตุของใบไม้ที่อาศัยต้นไม้เกิด ด้วยการโค่นต้นไม้ซะ

ใบไม้ก็จะได้หมดไป ไม่ต้องมากวาดมาเก็บอีก เช่นนี้ถูกไหม

ถาม…มันก็ร้อนซิเจ้าค่ะ ถ้าไม่มีต้นไม้

พระอาจารย์…ถ้าเช่นนั้น การแก้ที่เหตุ มันก็ไม่ถูกเสมอไป แกว่าไหม

เหตุนี่ มันมีเหตุนอกเหตุในอีก

ต้นไม้นั้นเป็นเหตุนอก ใบมันก็ร่วงไปตามกาล เพราะต้นไม้มันมี

แต่เราก็ได้อาศัยร่มเงาของใบมันนี่แหละ มานั่งพักนั่งคุยกัน ยามกลางวันแดดร้อนๆเช่นนี้

เราไปแก้เหตุนอกคือต้นไม้ เราก็เดือดร้อนกับสิ่งที่ตามมา

ดูเหมือนแก้เหตุถูก แต่เป็นการแก้ที่ไร้ปัญญา นำมาซึ่งความทุกข์ยาก ไม่รู้จบ

พระพุทธองค์ท่านทรงชี้ ให้แก้เหตุใน

เหตุในนี้ก็คือ ใจที่มีตัณหาผุดขึ้นมาไม่รู้จบ

หากใหลไปในกระแส มันเป็นสมุทัย ผลมันก็คือทุกข์

หากตั้งสติปัญญาตรึกตรองใคร่ครวญ กระแสที่ผุดออกมาจากใจ มันเป็นมรรค ผลก็คือดับ

หากเรายอมรับธรรมชาติ ว่ามันเป็นธรรมดาของมันเช่นนี้

การกวาดใบไม้มันก็ไม่มีความทุกข์ เพราะเรายอมรับมัน

หากใจเรามันไม่ยอมรับความเป็นธรรมดาของใบไม้ที่ร่วงหล่นลงมาจากต้น

เราก็เป็นทุกข์กับการที่ต้องมาปัดกวาดทุกวัน

เราแก้เหตุที่ใจเรานี่ อย่าไปแก้เหตุแห่งความเป็นธรรมดาของใคร

หัดยอมรับความเป็นธรรมดาของสรรพสิ่งบ้าง ใจเราจะได้ไม่ใหลไปตามกระแสทุกข์

คนก็เหมือนกัน หากเราเอาแต่ใจตนเอง ให้ได้ดั่งใจตนเอง เราก็อยู่บนโลกนี้ยาก

คนมันก็เหมือนใบไม้ที่ร่วงหล่น

เขาก็เป็นของเขาอย่างนั่นแหละ เราแก้เขาให้ได้ดั่งใจเราไม่ได้หรอก

เพราะเขาเป็นธรรมดาของเขาอย่างนั้น

แก้ให้แก้ที่เรา เราพึงหัดยอมรับธรรมดาของเขา ในสิ่งที่เขามีที่เขาเป็น

หากยอมรับได้ ใจเราก็จะจางคลายทุเลาเบาบางลงมาพอให้เราได้คลายความอึดอัดในสิ่งที่เขาเป็นได้

หากเราไม่ยอมรับ

เราเองนั่นแหละ จะยืนอยู่บนพื้นที่โลกใบนี้ยาก เพราะคนทั้งหลาย มันเป็นของมันเช่นนั้นเป็นธรรมดา

เป็นแต่เรานี่แหละ ที่ไม่พอใจในความเป็นธรรมดาของเขาเช่นนั้น

เราดูว่าเขาเฮงซวยกับเรา แต่เราไม่รู้หรอกว่า

เรานี่แหละ ใจมันเฮงซวยเอง ที่ไม่รู้จักความเป็นธรรมดาของตัวเขา

มัวแต่จะแก้ที่เขา

แต่ไม่เคยที่จะคิดแก้ที่ใจตัว ที่ชอบไปตำหนิเขาด้วยความไม่ถูกใจเรา

โลกเราอยู่ยากเพราะเราไม่ยอมรับความจริงเช่นนี้นี่แหละ

เหตุแห่งความทุกข์ทั้งหลาย เกิดจากใจดวงนี้ทั้งนั้นแหละ ที่ไม่มีปัญญายอมรับความจริง

หากยอมรับความเป็นจริงด้วยปัญญา เราก็จะยืนอยู่บนโลกใบนี้ด้วยความสุขใจ..!!

ขอให้มีความสุขความเจริญ มีดวงตาเห็นธรรม

พระธรรมเทศนา โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง วันที่ 10 สิงหาคม 2560