พระพุทธะเนื้อดินองค์ดำ

พระพุทธะเนื้อดินองค์ดำ

550
0
แบ่งปัน

***** “พระพุทธะเนื้อดินองค์ดำ” *****

พระองค์ดำนี่ เป็นพระเนื้อดิน ดำเนพระผงใบลานเลย

ข้าสร้างไว้เพื่อบรรจุใต้ฐานองค์พระ เพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนา

เจตนาว่าอย่างนั้น

ว่าถึงพระองค์ดำกัน

เมื่อราวปี 51

ตอนที่เราเดินทางไปเชียงราย

หลังจากกลับมาเพื่อตกลงใจสร้างองค์พระเพื่อแผ่นดิน

ข้าก็ได้ดำริว่าจะทำองค์พระเล็กๆขึ้นมา

มีน้องคนหนึ่งชื่อปู

อาสาทำแบบพิมพ์ให้

ทำแล้วน้องมันก็หายไปเลย ทำให้แล้วก็ไป

ทางโรงงานเขาก็ถวายเครื่องปั๊มพระมาให้ด้วย

เราจึงมานั่งปั๊มกันเอง

ข้าให้คนของเราไปเอาดินมาจากปากเกร็ด

ที่เขาใช้ทำเครื่องปั้นดินเผา แต่ทางโน้นเขาถวายมา

มาถึงก็มาปั้นเป็นองค์เล็กๆ

ไม่ใช่ซิ

เราปั้นเป็นลูกกลมๆเล็กๆ

ปั้นแล้วก็เอามาปั๊ม

เมื่อปั๊มออกมา ก็เอามาผึ่งลม

แต่เราไม่มีเตาเผา นี่คือปัญหา

ข้าก็เลยใช้หม้อหุงข้าวนี่แหละ

เอาแกรบใส่ลงไปรองพื้น

แล้วเอาองค์พระเรียงซ้อนๆกันขึ้นมา

เปิดแก๊สหุงแบบหุงข้าวเลย

คราวนี้ หุงเท่าไหร่พระก็ไม่สุก

มันดูเป็นสีดินอยู่อย่างนั้นแหละ แถมแตกลานด้วย

ที่สุดข้าจึงลองกำหนดจิต

เข้าเตโชกสิณ เรื่องกสิณนี่ข้าชำนาญ เล่นมาหลายสิบปี

การเข้าเตโชของข้าก็คือ

กำหนดกายขึ้นมา

ระลึกถึงความร้อนที่มาต้องเรือนกาย

กำหนดความร้อนที่ระอุขึ้นมานั้น

เพ่งส่งไปยังองค์พระภายในที่หุงนั้นพร้อมอิติปิโสพุทธคุณ

ได้ผลน่ะ

หม้อระเบิดออกดังบึ้ม

เสียงสนั่นโสตจนข้าตกใจเลยทีเดียว

เมื่อเปิดหม้อดู

พระดำปี๋หมดทุกองค์เลย

บางองค์เงาวับยังกะเหล็กไหล

มีความแกร่ง เป็นคาร์บอน

ส่วนก้นหม้อ

เมื่อรื้อพระออกมา

มีพระก้นหม้อระเบิดออกมาเป็นองค์ๆ

คือพระนี่มีซุ้มด้านข้าง

แต่พระก้นหม้อที่ระเบิดออกมานั้น

ซุ้มแตกกระจายหมด

แต่ไม่โดนองค์พระ

บางองค์นี่ เหลือแต่เฉพาะองค์พระที่แยกองค์ออกมาเลย

เรียกว่าพระแกร่งก้นหม้อ

ซึ่งเป็นสูตรหนึ่งของการทำเครื่องลางของขลังมาแต่โบราณ

คือการระเบิดด้วยกสิณจนเหลือแต่ตัวอักขระ

เผอิญจริงๆ ที่วิชานั้น

ดันมาลงที่พระองค์ดำ

มีพระระเบิดออกมาราวๆยี่สิบองค์

ซึ่งข้าก็ได้ทำการแจกออกไปหมดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

นี่..ทำเอาหนุกๆ ไม่คิดว่าจะออกมาเป็นอย่างนี้

ไอ้พวกที่ได้ไป มันก็คงไม่รู้หรอก มันคงคิดว่าเป็นพระหัก

ป่านนี้มันคงเอาไปทิ้งกันหมดแล้วด้วยความไม่รู้

พระก้นหม้อนั้น ใช้กันเสนียดจัญไรต่างๆได้ทุกอย่าง

ป้องกันทุกเภทภัย ที่จะมาถึงตัว นี่โบราณเขาว่าไว้

พระชุดนั้น ข้าเพ่งจนดำเป็นมันเลื่อมหมดเกือบทุกองค์

ภายหลัง ข้าให้พี่เจ้าเดียเข้ามาช่วย

มันเอาพระไปหุงและนั่งปั๊มพระแทนข้า

แต่ข้าก็เพ่งกสิณทุกครั้งที่เผา

พี่เจ้าเดียอยากลอง

มันแอบเอาไปเผาเอง

ปรากฏว่าไม่ดำ เป็นสีดินธรรมดา

ข้าบอกมันว่าต้องใช้กสิณ

มันก็เลยถามวิธี

ปรากฏว่า พระออกมาดำ

มันดีใจมากที่ทำได้

แต่จริงๆมันทำไม่ได้หรอก

ข้ากำหนดส่งไปเองทั้งนั้นแหละ

แค่แกล้งให้มันดีใจเล่นเท่านั้น

ข้าเข้าใจการกำหนดกสิณที่จะเผาองค์พระ

ภายหลังพระก้นหม้อจึงไม่เกิดระเบิด

ที่ไม่เกิด

ก็เพราะข้าปล่อยให้พี่เจ้าเดียมันดูแล

ข้าแค่กำหนดห่างๆ

พระองค์ดำนี่ ทำออกมาราวหกร้อยกว่าองค์

ที่จริงก็ไม่ได้มากมายอะไร

ใครได้ไปก็ถือว่ามีบุญกุศล

ข้าทำพระองค์ดำนี้ไว้มาราวเก้าปีแล้ว

เป็นพระชุดแรกๆที่ข้าทำขึ้นมา

และกำลังอยู่ในช่วงจิตที่เชี่ยวกรากและมีกำลังสมาธิสูงด้วยความมุ่งมั่น

เพราะเป็นช่วงกำลังบ้าพลัง หนักไปทางเล่นของน่ะ

แม้จะเป็นการทำด้วยภาวะที่ยังไม่ได้ปัญญา

แต่ข้าก็ผ่านเจโตมาแล้ว

เพียงแต่ยังไม่รู้จักว่านั่นคือภาวะเจโต

พี่จิน ส้ม และน้องๆสามสี่คนรวมข้า

เราได้นำพระไปมอบให้แก่เจ้าของดินที่ถวายมา

ซึ่งเขามีเตาเผาของโรงงานเขาเอง

เราถามว่า ขอให้เผาดินที่ปั๊มพระออกมาแล้วนี่ ให้เป็นสีนี้ได้ไหม

เขารับไปพลิกดู บอกว่าไม่ได้ ถ้าทำได้เขาก็รวยเลย

พี่จินบอกว่า ก็นี่ไง พระอาจารย์ยังเผาออกมาได้ แค่ใช้หม้อหุงข้าวเอง

เขาหัวเราะ บอกว่ายิ่งเป็นไปไม่ได้

เขานั้นอยู่กับการเผาดินสร้างงานมากว่า 20 ปี เขาเข้าใจและรู้จักการเผาดี

ที่ออกเป็นสีดำเช่นนี้ น่าจะเกิดจากการใช้เคมีบางตัวผสมลงไป

แต่..ก็ไม่น่าจะดำเงาได้ถึงขนาดนี้

พี่คนหนึ่งได้ปรารภขึ้นมาว่า แล้วพระดำได้อย่างไร

ปรากฏว่า มีเสียงผ่านโสตภายในของทุกๆคนรวมทั้งข้าด้วยว่า

” กูศักดิ์สิทธิ ”

แค่นั้นแหละ ทุกคนก็ขนลุกขนพองซู่ขึ้นมา จากส้นเท้ายันท้ายทอย

มองหน้ากันแล้วถามว่าใครได้ยินอะไรไหม

ทุกคนตอบว่า กูศักดิ์สิทธิ์

นับแต่นั้นมา ข้าก็เลยเก็บเอาไว้ใส่โถบรรจุไว้ที่ฐานเสาองค์พระทุกๆเสา

นี่..เพราะเจตนากระทำเพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนา และเป็นการกระทำเพื่อแผ่นดินโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน

นี่ประวัติคร่าวๆของพระองค์ดำ

ใครไม่ได้ก็คืออด

ต่อไปคงไม่มีออกมาให้ใครแล้ว

ขอให้โชคดี

——————————–
พระธรรมเทศนาจากห้องธรรมเส้นตรง
โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง
วันที่ 21 พฤษภาคม 2560
ณ พุทธอุทยานบุญญพลัง อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี