บ้าบุญและนิมิตที่ยังไม่เข้าใจ

บ้าบุญและนิมิตที่ยังไม่เข้าใจ

340
0
แบ่งปัน

****** “บ้าบุญและนิมิตที่ยังไม่เข้าใจ” *****

<< คำถาม: การบ้าบุญเพราะเราเห็นว่าจุดๆนั้น มันเป็นบุญจริงๆ และ เราก็ทำมันอย่างสุดโต่ง เพราะเราเห็นประโยชน์ในจุดนั้น

คนที่จะไปถึงจุดที่ดีในยอดปลายได้ ขั้นแรกฐานต้องมาก่อน ถ้าบุญไม่เชื่อแล้ว มันจะเอากรรมฐานมาจากไหน

ความคิดของผมคือ ต้องใช้บุญเลี้ยงใจไปก่อนให้มันโตเป็นกำลังใจก้อนใหญ่ เมื่อถึงเวลาใจมันน้อมและฐานมั่นคงแล้ว มันจะเกื้อกูลกัน

ผมก็โต่งมาในบ้าบุญครับ เพราะผมเคยทำชั่วมามาก และใจมันก็ยังจำ จึงหาสิ่งที่ตรงกันข้ามมาย้อมมันให้ได้

… ความคิดเห็นแบบนี้ผิดมั้ยครับพระอาจารย์ เมตตาชี้แนะศิษย์โง่ด้วยครับ..นมัสการครับ

>> พอจ : บ้าบุญนี่ ไม่ใช่ทำมาก

แต่เป็นการทำอย่างขาดปัญญา

ไม่รู้ว่า ที่ทำที่เชื่อนั้นทำไปเพื่ออะไร

เมื่อรู้แล้วและเข้าใจแล้ว ทำให้มันตายไปเลย ก็ไม่ได้เรียกว่า บ้าบุญ

บ้าบุญนี่ เป็นการทำด้วยความงมงาย ไร้ปัญญาที่จะเข้าใจในสิ่งที่ทำ

เรียกง่ายๆว่า ใครว่าอะไรดี กูก็ขอทำหมด ทำอย่างไม่ตรึกตรองขอให้ได้ทำ นี่เรียกว่าบ้าบุญ

เหมือนหลายคนมาที่นี่ มาถึงชอบที่นี่ อยากทำบุญ ข้าถามว่าจะทำบุญอะไร

พวกป้าๆเขาบอกว่าร่วมสร้างองค์พระ

ข้าบอกว่า ไปเห็นการสร้างมารึยัง อุตส่าห์มาถึงที่นี่

ป้าเขาบอกว่า ยัง… ขี้เกียจเดินขึ้นเขาไปดู

ข้าถามว่า เคยเห็นรูป เคยอ่านธรรม เคยรู้เรื่องราวอะไรที่นี่ไหม ว่าเขาทำอะไร

ป้าบอกว่ายัง..!! มาเที่ยวแล้วเขาบอกที่นี่กำลังสร้างพระ ก็เลยอยากมาดูมาทำบุญ

ข้าบอกว่า ไอ้ห่า..นี่มันทำบุญอย่างโง่ๆแล้ว เอาตังค์ไปทำที่อื่น บุญโง่ๆเช่นนี้ไม่ต้องมาทำ

ต้องไปเห็น ไปรู้ไปทำก่อนซิ ว่าเขาทำอะไร

เกิดข้าเหี้ยขึ้นมา พวกแกก็ทำบุญกับพระเหี้ยๆ มันก็ท่านั้นเอง

มาถึงที่แล้ว หากไม่เคยติดตามก็ต้องไปดูว่าเขาทำอะไร มันจะได้เกิดศรัทธาในหัวใจ

ศรัทธาที่พบเห็น มันจะทำให้เกิดกำลังใจที่จะทำบุญ ไม่ตกไปเป็นเครื่องมือใครให้เขาหลอกเอา

นี่..อย่างนี้เขาเรียกไอ้พวกบ้าบุญ ใครบอกอะไร ก็เฮไปทางนั้นขาดปัญญาสติตรึกตรอง..!!

>> คำถาม: กราบสาธุธรรมคะ กระจ่างมากขึ้นคะ เรียนถามคะ แล้วแต่เมตตาคะ

ปฏิบัติพอควรคะ แต่ไม่รู้เรื่องอะไรมากคะ มีอาการเกิดเมื่อวานตอนเดินกลับบ้านซึ่งเดิน 3 กิโลกว่าๆ เดินเรื่อยๆ อยู่ดี นึกว่าตนไม่ได้หายใจ จึงหยุดเดิน แล้วรีบหายใจคะ อาการนี้เรียกอะไรคะ หรือ หนูผิดปกติคะ กราบสาธุคะ

>> พอจ : จิตมันหดตัวมาอยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง แต่สติมันหนาแน่น มันระลึกได้ว่าเราไม่ได้หายใจ

ที่จริงมันก็หายใจอยู่ แต่จิตมันไปรวมอยู่กับสิ่งหนึ่ง

เหมือนเอาเหรียญสองเหรียญมาวางตรงหน้าห่างกันซักคืบ

เพ่งเหรียญใดเหรียญหนึ่ง เมื่อจิตมันหดตัว อีกเหรียญที่ไม่ได้เพ่งมันก็หายไป

จริงๆมันก็ไม่ได้หายไปไหน มันยังคงวางอยู่ที่เดิม เป็นแต่เรานี่แหละ มองไม่เห็นมันเองด้วยเหตุและปัจจัยทางจิตที่เกี่ยวเนื่องกับอายตนะ..!!

<< กราบเรียนถามพระอาจารย์อีกนิดครับ
นิมิตนี่ เป็นผลจากภวังค์จิต หรือวิถีจิตครับ

>> พอจ: นิมิตนี่ มโนสร้างขึ้นมาอาศัยวิถีจิตปรุงขึ้นมาเพื่อการแสดงในภวังค์จิตที่กำลังปรุง นี่ก็มี

ที่เกิดจากภวังค์จิตโดยตรง นี่ก็มี

ที่เกิดจากวิถจิตโดยตรง นี่ก็มี

นิมิตนี่เป็นมโนจิต ภพเกิดในวิบากจิต ไม่ได้เกิดในภวังค์จิต ( ตรงนี้ต้องขยายอีกเยอะ มันซ้อนความหมายกันอยู่ แต่ข้ามๆไปเหอะ )

นิมิตนี่ เป็นสมมุติที่เราสร้างขึ้นมาเป็นเครื่องอยู่จิต

เป็นแค่ว่า คนไทยเรามันใช้คำว่านิมิตไปพร่ำเพื่อ

นิมิตนี่ มันเป็นจุดหมาย หรือเขตแดนที่จะแสดง เราใช้คำว่านิมิต

<< เรียนถามพระอาจารย์ครับ
หากใจเป็นตัวสร้างนิมิตโดยอาศัยการปรุงแต่งในวิถีจิต
ด้วยอาการที่เรียกว่า ภวังค์

แสดงว่านิมิตใดๆที่เกิดขึ้นมา

ไม่ว่า ขณะนั้น จะมีสติเด่นชัด หรือไม่
ก็ไม่ควรเชื่อถือ ใช่ไหมครับ

>> พอจ: นิมิตนี่อธิบายได้หลากหลาย ไม่ใช่เชื่อได้หรือเชื่อไม่ได้

นิมิตนี่ แสดงออกทางวิถีจิตชัดๆก็มี
ทางภวังค์จิตก็มี อยากฟังไม๊จะยกตัวอย่างให้ฟัง

<<< อยากครับอยาก

<<< อยากฟังค่ะยากฟัง

>>> พอจ: ควย..ไง

<<< โอ๊วว..

>>> พอจ: แกรู้ได้ไง ว่ามันคืออะไร ถึงได้เงิบได้แสดงอาการออกมา

<<< ก็พระอาจารย์ด่า มันเป็นคำหยาบ..

>>> พอจ : งั้นก็แสดงว่า มันเป็นเครื่องหมาย ให้พวกแกได้รับรู้ ว่าอะไรเป็นอะไรได้ ใช่ไหม

นิมิตก็คือสัญญาสมมุติอย่างหนึ่งที่เราปรุงขึ้นมา

ข้าถึงได้ถามว่า พวกแกเข้าใจคำว่านิมิตหรือถึงได้อยากรู้

ยกตัวอย่างมันยังไม่เข้าใจอีก

แกนึกถึงหน้าข้าได้ไหม นั่นแหละ นิมิต เป็นไงวิถีจิตใช่ไหม

นิมิตนี่ หมายถึง เครื่องหมายที่เราสร้างปรุงบันทึกเป็นสัญญาขึ้นมา

ในภวังค์จิตนี่ ความฝันก็ถือเป็นนิมิตอย่างหนึ่ง ที่เกิดจากการปรุงบันทึก

เป็นแต่เพียงว่า นิมิตในภวังค์จิต มันไม่มีเราเข้าไปเป็นเจ้าของเพื่อสร้างเหตุ

พระธรรมเทศนา ณ วันที่ 20 กันยายน 2559 โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง