การพรากจากมันแสนเศร้า

การพรากจากมันแสนเศร้า

276
0
แบ่งปัน

****** “การพรากจากมันแสนเศร้า” *****

ขอสาธุคุณสวัสดี…

ไม่ได้มาพูดคุยซะหลายวัน หลายคนได้ทวงถามมา ว่าไม่ทำงานรึไง รองานอยู่นะรู้ไหม

จ้าๆๆๆ เป็นหนี้กันเมื่อไหร่ก็ไม่รู้โว้ย ทวงกันจัง..

วันอาสาฬหะบูชาและเข้าพรรษานี่ เป็นวันเกิดข้าพอดี จึงมีน้องๆพี่ๆมาร่วมมุทิตาจิตกันเยอะแยะ

หลายคนได้ขอรำถวายต่อสถานที่ได้ไหม และขอรำถวายต่อความเป็นครูบาอาจารย์ด้วย

ข้าก็โอเค ตามสบาย น้องๆอยากทำอะไรก็ตามสบาย ที่นี่มันบ้านเรา

ที่บุญญพลังนี่ มันเป็นครอบครัว ข้านี่เป็นพี่ใหญ่ ที่นี่ไม่ต้องการแบ่งวรรณะอะไร

ทุกคนมีสิทธิที่จะทำหน้าที่ของตนตามแต่เห็นว่าสมควร

น้องๆมีความภูมิใจ และได้ขอเชิญข้าไปชมการร่ายรำของเขา ที่ได้ขอรำถวาย

จริงๆแล้วข้านี่ไม่ค่อยใส่ใจการร่ายรำอะไร ไม่เคยดู ไม่เคยเห็นความงดงามแห่งวิถีไทย ในการร่ายรำ

คราวนี้ได้ไปนั่งเพื่อเป็นกำลังใจให้แก่น้องๆ การนั่งดูการร่ายรำตรงหน้า มันทำให้เกิดการพิจารณา

จริงๆแล้ว วิถีไทยที่แสดงออกมาในการร่ายรำ ที่เราเรียกว่ารำไทยนี่ งดงาม

ความงามแห่งท่วงท่า และการแสดงออกที่เต็มใจและอยากรำถวายนี่ สวยงาม

มันสวยงามที่ใจเจ้าของ ที่แสนภูมิใจที่ได้ร่ายรำถวาย

พวกเธอเตรียมงานเตรียมตัวมาเป็นเดือน เพื่อมาร่ายรำราวสี่ห้านาที

มันเป็นสี่ห้านาทีที่เป็นบุญกุศลสำหรับใจพวกเธอ

ข้านี่ ไม่ค่อยจะอะไรกับผู้คนมากนัก มักไม่ให้ความสำคัญต่อสิ่งใดๆ

แต่ครั้งนี้ เมื่อได้เพ่งพิศ พิจารณาลงไป มันได้เห็นความสวยงามของจิตใจ

ที่อยากทำให้ด้วยความเต็มใจ ต่อผู้ที่ได้ชื่อว่า “เป็นครู”

รูปตรงหน้าที่เริ่มร่ายรำ ทำให้ข้านี่ ขนลุกขนพอง สติก็ระลึกได้ขึ้นมาว่า

สมัยครั้งอดีตพวกเธอก็เคยร่ายรำเช่นนี้ ต่อหน้าพ่อที่เธอแสนรัก

แม้ไม่ใช่รูปที่ร่ายรำอยู่ตรงหน้าเช่นนี้

แต่ก็เป็นจิตดวงนี้ ที่เป็นอดีตซ้อนๆลงไปหลายภพ

พวกเธอเป็นตัวแทนของเหล่าอทิสมานกายมากมาย ที่ได้เข้ามาร่วมแสดงการร่ายรำ

ข้าเห็นอดีตที่ผ่านมาได้ชัด เห็นความโหยหาที่โดนพรากแสนปวดร้าวเจ็บปวด

ในความคิดถึง ที่กำลังห่างไกลออกไปแล้ว

มีดวงวิญญานหลายดวงต่างร่ำให้ มาสะอึกสะอื้นตรงเบื้องหน้า

กระแสแห่งความเศร้า กระจายซึมแทรกคลุกเคล้าในอากาศไปทั่ว

เสียงร้องให้และมืออันสั่นเทาก้มลงกราบเมื่อร่ายรำเสร็จแล้ว

น้ำตาที่เนืองนองเต็มหน้า และอดกลั้นความโศกาอาดรูไม่ได้

ทำให้หลายคนที่อยู่ร่วมกันต่างพากันสงบนิ่งและน้ำตาไหล

พวกเธอเหล่านี้ เป็นพี่น้องข้า เป็นลูกข้า เป็นเพื่อนและผู้ติดตามๆกันมาอย่างยาวนาน

วิบากทำให้พวกเขา ไม่สามารถมาร่วมเกิดในคราวเดียวกันได้

เมื่อได้มีโอกาศใช้ร่างที่แสดงมุทิตาจิต อันเป็นผู้มีสัญญาเครือญาติได้

ความดีอกดีใจ จึงแสดงออกมาในรูปของการร่ำให้

พวกเธอร่ำให้อย่างสุดแสนดีใจ ดีใจที่ได้พบเจอ ดีใจที่ได้กลับมาหา

ดีใจที่ได้ร่วมแสดงมุทิตา ดีใจที่ได้กลับมากราบลา แม้จะไม่ได้พบกันอีกแล้ว

เธออยากโอบกอด อยากซบหน้าลงบนหลังเท้า อยากเข้าไปหนุนตัก

อยากให้ลูบหัวพูดจาด้วยวลีรัก ที่พ่อมีต่อลูกที่เคยห่างไกล

ไม่อยากให้พ่อไปไหน ไม่อยากให้ใครมาครอบครอง ไม่อยากให้ใจนี้เศร้าหมอง

ด้วยกาลเวลาที่ได้เผชิญพบเจอจางคลายหายไป

ข้านั่งมองดูเหล่าน้องๆหลายคน ที่พากันร่ำไห้ สะอึกสะอื้น อดกลั้นอาการแห่งการแสดงออกด้วยหัวใจที่โหยหา

นี่แหละชีวิต…

ชีวิตทั้งหลายที่เกิดมา ต่างต้องพรากกันเป็นธรรมดา พวกเธอรู้ไหม

พึงสำเหนียกเถิดเพื่อเอ๋ย สิ้นกายนี้ไปแล้ว จิตดวงนี้มันไม่ได้สิ้นหายไปด้วยเลย

จิตดวงนี้ยังมีสัญญาโหยหาในสิ่งที่ยึด ที่ห่วงหาอาทร

ความเศร้าโศกเสียใจ ความเจ็บปวดที่ต้องพราก ความอัตคัตอึดอัดที่ไม่ได้ดั่งใจ มันยังฝังไว้อยู่ในภวังค์จิตนี้

เรามีชีวิตโปรดพึงสร้างแต่ความดี รักษาใจดวงนี้ ให้มันเกิดปัญญา

ความเศร้าโศกของเหล่าวิญญานน้องพี่ ที่ได้ติดตามกันมาในแต่ละสถานที่ ที่ข้าได้ไปพบเจอ

พวกเขาต่างทนทุกข์กับความพราก ที่เป็นสนิมในดวงจิตของเขาอย่างไม่รู้หาย

เมื่อได้พบเมื่อได้กลับมาเจอ มันจึงแสดงออกด้วยความเศร้ากันอย่างมากมาย

สุดท้าย เราก็ต้องพรากจากกันอยู่ดี

น้องๆพี่ๆทั้งหลายเอ๋ย..

อย่าได้โกรธ อย่าได้เกลียด อย่าได้ชังอะไรกันเลย

ถูกใจบ้างไม่ถูกใจบ้าง มันเกิดเป็นธรรมดา

ตรึกหัวใจดวงนี้ให้ดี รักษาใจเราไว้ว่า

ไม่นานๆๆๆๆ ที่สุดเราก็ต้องพรากจากกันไป ไม่เหลือใครผู้ใด เราต้องจากไกลกันไปแต่เพียงผู้เดียว

อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย

อย่าได้เกลียดชังซึ่งกันและกันเลย

อย่าได้ทำร้ายซึ่งกันและกันเลย

จงอยู่เป็นสุขเป็นสุขเถิด โลกมันเป็นธรรมดาของมัน ที่เกิดความถูกใจไม่ถูกใจกันเป็นธรรมดา

ขอให้เรารู้จักโลก รู้จักใจตนเอง

เรา..ก็จะมีที่ยืนอยู่บนโลกนี้ได้อย่างต้านทานกระแสทั้งหลาย อย่างไม่ทุกข์ใจ

เหล่าดวงวิญญานต่างได้มาแสดงธรรมแห่งความเศร้าโศกให้พวกเราได้เห็น

วันหนึ่ง เราก็ต้องเป็นดั่งเช่นพวกเขา

เรา..อบรมเตรียมตัวเตรียมใจกันไว้เพียงพอรึยัง

เรา..หมั่นลับปัญญาย้อมใจนี้ ให้เห็นความเป็นธรรมดาด้วยดวงตาที่มองเห็นธรรมเถิด

พระธรรมเทศนา 21 กรกฏาคม 2559 โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง