อยู่อย่างรู้จักโลก

อยู่อย่างรู้จักโลก

360
0
แบ่งปัน

***** “อยู่อย่างรู้จักโลก” *****

ขอสาธุคุณให้มีแต่ความสุขความเจริญๆๆ

พึงหัดสู้อย่างลำพัง เพื่อความแข็งแรง ที่จะยืนอยู่บนโลกใบนี้

นักธรรมบอกว่า เนื้อไม่ใช่ของเรา ผมขนเล็บฟันหนัง ไม่ใช่ของเรา

แต่ใครอย่าไปแตะนมมันเชียว มันด่าเปิง..

แม่ชีมาหาข้า บอกว่า ที่นี่แสนสัปปายะ

อากาศแสนดี บรรยากาศดี ธรรมดี อะไรๆก็ดีน่าอยู่ที่สุด

แล้วส่งสายตามาหาข้า..

ข้าบอกว่า ที่ไม่ดีมันก็มีแต่แกมองไม่เห็น

สาวชีถามว่า อะไรเจ้าคะ ชีมองแทบไม่เห็นสิ่งที่มันไม่ดีเลย

ข้ามองหน้ามันบอกว่า มึงกะกูนี่แหละ ที่ยังเหี้ยอยู่

นางชีเขานิพพานไปจากข้าเลยนับจากบัดนาว..

พี่เจ้าเดียสาวสวยมาปฏิบัติธรรมจนเห็นภาวะ มันประกาศว่า

รูปไม่ใช่ของเรา เนื้อหนังมังสาไม่ใช่ของเรา ผมขนเล็บรูปร่างหน้าตาไม่ใช่ของเรา

เจ้าเปี๊ยกคนงานที่หลงรักมันบอกว่า

งั้นผมขอร่างน้องไปเย๊ดนะคืนนี้..

สาวเจ้ากระโดดถีบไอ้เปี๊ยกทันทีสองตีน ข้อหาพูดความจริงเกิน…

ขอให้อยู่บนโลกใบนี้อย่างมีความสุข ในห้วงเวลาที่ไม่ได้ยืดยาวอะไรเลย

มีโอกาสมีกำลังที่จะทำอะไรไปตามจินตนาการที่ได้สร้างฝันไว้ก็พึงทำๆซะ

ก่อนที่จะจากโลกนี้ไปอย่างไม่หวนคืนในความเป็นเรา

อยู่ด้วยความสุข ด้วยสติปัญญาเท่าที่กำลังเราจะพอมี

ถูกใจบ้างไม่ถูกใจบ้างนี่ เป็นธรรมดา

ไม่มีใครไม่เคยไม่โดนด่า แม้แต่ข้า ก็โดนเป็นปกติ

มีความสุขกับการเดินทางที่ต้องเหยียบขี้หมาอย่างใจอิสระ

ดีกว่าต้องเดินทางด้วยการคอยหลบหลีกแต่ขี้หมาที่มันเกะกะ..

เพื่อนสองคนอยู่ด้วยกัน วาดฝันอยากทาสีกำแพง

อีกคนบอกสีขาวซิสวยสว่าง

อีกคนบอกสีดำซิ ด๊ากลึกลับซ่อนเร้น

เมื่อตกลงกันไม่ได้ ต่างคนต่างก็ไปทำตามความฝันของตนที่ตนจินตนาการคนละด้านของกำแพง

อีกคนคาดว่าเมื่อเพื่อนเห็นความสว่างแห่งสีขาว เขาจะเปลี่ยนใจ

อีกฝ่ายก็คาดหวังไว้เช่นเดียวกับที่อีกฝ่ายคิด

สีขาวและดำมาบรรจบกันตรงกลาง

ใคร..??? จะเป็นฝ่ายยอมรับความเป็นจริงในสีที่ทั้งสองทาลงไปด้วยใจอิสระแห่งตน..???

ความคาดหวังที่จะให้อีกฝ่ายพอใจในสิ่งที่ตนคิดแสดงและทำ

มันอาจทำลายมิตรภาพที่มีมาอย่างยั่งยืนให้พังทะลายลงมาได้

ด้วยความหมายแห่งความหวังดี ในอัตตาตนที่พยายามแสดง

พึงยอมรับเถิด โลกนี้ มีดำก็มีขาวได้เช่นกัน

มีชอบก็มีเกลียดซ่อนเป็นเงาอยู่ในนั้น

มีสุขก็ย่อมมีทุกข์ควบคู่กันไป

ชีวิตมันมีอะไรที่เป็นฝ่ายตรงข้ามของมันเสมอ

แต่สิ่งตรงข้ามทั้งหลายและตัวมันเอง เกิดจากเรา ไม่ได้เกิดจากมันเป็นทั้งนั้น

เราพึงยอมรับความจริงขิงธรรมชาติเช่นนี้

เราจะอยู่บนโลกนี้ได้อย่างมีความสุข

ชีวิตนั้น..

อย่าไปทุกข์เพราะปากเพราะความคิดของคน

ไม่เช่นนั้น

เรา..จะทุกข์กับมันตลอดชีวิต

ไม่มีใครในโลกนี้ ที่ไม่โดนตำหนิ

ไม่มีใครในโลกนี้ ที่ไม่โดนนินทา

ไม่มีใครในโลกนี้ ที่จะไม่โดนผู้อื่นเขาว่า

เรา..พึงยอมรับความเป็นธรรมดาของโลกนี้
ด้วยความเข้าใจมันว่าโลกมันเป็นของมันอย่างนี้

เรา..จะได้ไม่จมไปกับกระแสแห่งใจที่ไม่ได้ดั่งใจ จากปากและความคิดคน

คนที่จมไปในกระแสย่อมยากที่จะตะกายขึ้นมาหายใจ
รักษาตัวเองให้ได้

ฝึกสติไว้ อย่าไหลไปจนจมกับกระแสแห่งความไม่ชอบใจ

หากฝึกอบรมใจทวนแม้กระแสที่ชอบใจได้ด้วย

นี่..เกิดมาเป็นชีวิตที่ย่างก้าวสู่ความเป็นยอดคน

พระธรรมเทศนา ณ วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2560 โดย พระอาจาาย์ธรรมกะ บุญญพลัง