**** ช่องทางแห่งการระลึกชาติ *****
>> พระอาจารย์ : ข้าจะอธิบายเรื่องจิต..
<< ลูกศิษย์ : ฟังเจ้าค่ะ >> พระอาจารย์ : จิตที่เป็นบุพเพนิวาสาจำเรื่องผีท่านอั๋นได้ไหม
<< ลูกศิษย์ : ได้ครับ >> พระอาจารย์ : ที่เป็นผัวเจ้าแก้ว แล้วโดนวิบากพรากรูป จากไปซะก่อนตั้งแต่ยังหนุ่มๆ
ไอ้คนที่กระโดดไปกระโดดมา จะทำให้ข้าชะงักการเล่าเรื่อง
และเป็นกรรมอย่างหนึ่งที่ไม่เคารพครูบาอาจารย์ ที่ตนเคารพ
ที่ข้าไม่ค่อยจะลงมาคุยเรื่องธรรมต่างๆ เพราะสันดานมักง่ายของพวกเรานี่แหละเป็นเหตุ
จริงๆ มันก็สันดานเสียเหมือนกันอยู่หลายคน
ถ้าข้าพูดถึงเรื่องผีท่านอั๋นนี่ หากไม่เคารพธรรม วิญญาณมันจะโกรธเอา
ข้าเลี่ยงดีกว่า..
พูดถึงเรื่องจิตนี่ มันช่างมหัศจรรย์ จริงๆ อันที่จริงพวกเรานี่ก็สามารถ รู้เรื่องอดีตชาติอะไรได้ง่ายๆ หรอก
แต่เป็นเพราะว่า เรามันติดโปรแกรม แห่งกายที่เราใช้อยู่นี่แหละเป็นเหตุ
ท่านอั๋นนั้น เมื่อครองร่างเจ้าแก้วแล้ว ได้ฟังธรรมมาหล่อหลอมหัวใจ
ทำให้เขาเกิดสติ ที่จะไม่เอาชีวิตเจ้าแก้ว
เมื่อสติเกิด ความเด่นชัดแห่งจิตเจ้าของ มันก็ง่ายในการที่จะย้อนมองภาวะของตนเอง
ท่านอั๋น มองดูแขน ดูเนื้อ ดูหนัง ของเจ้าแก้ว ที่ตนเองครองร่าง อย่างเห็นชัด
เห็นชัดและรำพึงรำพันขึ้นมาว่า…
ดูซิ… ที่จริงเนื้อนี้ ขนนี้ แขนนี้ มันก็ไม่ต่างอะไรกับท่อนไม้ ไม่ต่างอะไรกับเปลือกไม้ ที่มีสะเก็ดผิวห่อหุ้ม
ทำไม..ตอนเขามีชีวิต ทำไมเรื่องง่ายๆ ที่เห็นตรงหน้านี้
ทำไมเขาจึงมองไม่เห็นความจริงอะไรเลย
เขายกมือพลิกไปพลิกมา เห็นขนร่วง และผมร่วง
เขาหยิบขึ้นมา และน้ำตาไหล บอกกับตนเองว่า…
พวกเราตอนเป็นมนุษย์ เรามันหลงอะไร..???
หลงสิ่งเหล่านี้หรือ..??
หลงกายที่เสื่อมสลายและห่อหุ้มสิ่งเน่าเหม็นเช่นนี้หรือ..??
เรานี่..ช่างบ้าแท้ ทำไมๆๆ เราถึงมองเห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้าว่า มันไม่ใช่เราเลยนะ
นี่..ผีที่เกิดสติระลึกได้ เขาเห็นชัด
แต่การเห็นชัดนี้ ไม่สามารถทำให้เขาเข้าถึงธรรมได้
เรียกว่า เป็นแค่ตรึกไปตามความคิดเห็น เพราะใช้ร่างเจ้าแก้วผัสสะและเห็นไปตามความรู้สึกนึกคิด
เพราะร่างบันทึก เขาไม่มีซะแล้ว แต่สิ่งที่เขาเห็นลึกกว่านั้นก็คือ…
เขาเห็นลึกไปถึงอดีตชาติ
ท่านอั๋นรู้เลย เมื่อเราถาม ว่าคนนั้นคนนี้ เป็นใคร เคยผูกพันอย่างไร ในอดีต
ท่านอั๋นมองปุ๊บ จะรู้ทันที หากเป็นชาติที่ลึกหน่อย ก็จะพินิจพิจนานหน่อย แต่จะบอกได้ว่าเคยเป็นใคร และใกล้ชิดกันยังไง
ผัวเจ้าพรนี่ เมื่อเดินเข้ามา ท่านอั๋นร้องลั่นเลยว่า…
ไอ้นี่มันพม่า มันเคยมารุกรานอโยธยาเรา ท่านอั๋นจะทำท่าทางไม่อยากคบ และเจ้าพรเมียมัน ก็คือเพื่อนรักของท่านอั๋นในอดีต
ทั้งท่านอั๋นและเจ้าพร ต่างเป็นองค์รักษ์ ดูแลรักษา หลวงตากอไผ่ ที่ดูแล วัดสระมณฑล ที่อยุธยา อดีตท่านเคยเป็นลูกพี่ เจ้าพรและท่านอั๋น
นี่..มันผูกอดีตกันมาเช่นนี้
เจ้าพรนี่ มันมีนิสัยโหดร้าย มันจะฆ่าปาดคอเชลยศึกที่จับมาได้ ด้วยตัวมันเอง
ใครห้ามก็ไม่เชื่อ ไม่ฟัง มันบอกว่า มันแค้นใจ ที่พวกพม่า มารุกรานเมืองอโยธยาของมัน
นี่..ความโหดร้ายแห่งนิสัยที่เครียดแค้น แต่ใจมาทางกุศล
ทำให้เจ้าพร จึงมาเสวยวิบาก ในร่างของผู้หญิง เป็นผู้หญิงอ้วนและดำ
อ้วนดำนี่ เกิดจากโทสะที่เชียวกราดระงับไม่ได้
ส่วนความเป็นหญิงนี่ เป็นวิบากที่ก่อรูปมา เพื่อคลายความโหดร้าย
นี่..เป็นเรื่องแห่งธรรมชาติ วิบากจิต ที่เราเข้าไปตามรู้ยาก
ข้าเองนี่ เคยเป็นผู้ช่วยชีวิตท่านอั๋นมาก่อน มาอัตภาพนี้ ก็ต้องมาช่วยกันอีก
นี่… ขนาดตอนเป็นมนุษย์ ไม่เคยเห็นหน้ากันนะ แต่วิบากก็มาให้ผล
แม้จะเป็นวิญญาณระหว่างภพกันก็ตาม นี่เป็นธรรมชาตินิยามแห่ง กรรม และจิต
ที่ยากจะอธิบายทีเดียว สำหรับคนทั่วไป
ส่วนผัวเจ้าพร ก็คือพม่า ที่เจ้าพรมันปาดคอนั่นแหละ
นี่..วิบากมันหมุนให้มาอยู่ร่วมกัน ให้รักกัน
เพื่อคลายความสำคัญแห่งการเครียดแค้นให้ทุเลาเบาบางจางคลายลงมา
แต่ที่สุดก็ต้องแยกทางกัน
ลูกสองคน ก็เป็นคนไทย ที่พม่าคือผัวเจ้าพรเป็นคนฆ่า
นี่.มันผูกพันกันไปผูกพันกันมา อย่างไม่มีที่สิ้นสุด
เป็นเช่นนี้เสมอ สำหรับคนที่เราอยู่ใกล้ชิดซึ่งกันและกัน
ในอดีต ความเป็นจิตที่ไม่ขึ้นกับกายตนนี่ มันจะเห็นและระลึกเรื่องราวต่างๆ ได้ชัด
ท่านอั๋นนี่ เป็นดวงจิต ที่อาศัยร่างของเจ้าแก้ว
เพราะเหตุแห่งโปรแกรมที่ตั้งไว้ในความทรงจำว่า นี่ไม่ใช่ร่างเขาตัวเขา
ความว่างเปล่าแห่งการเป็นเจ้าของรูป มันก็เลยไม่เกิด
เมื่อเป็นจิตที่ไร้รูป การระลึกอันเนื่องด้วยรูปที่ตนเป็นเพียงแค่ผู้อาศัย มันก็เลยเกิด และเกิดอย่างเด่นชัด
เพราะเหตุแห่งการ ไม่มีรูป เป็นข้อผูกมัดและบดบังสภาวะจิต
นี่..ตรงนี้ เราเห็นอะไรไหม..??
หากเราเจริญสมาธิและปัญญา จนเกิดความเห็นแจ้งว่า รูปนี้ไม่ใช่เรา
เราไม่มีในรูปนี้ รูปนี้เป็นแค่เครื่องมืออาศัยชั่วคราว
จิตที่เข้าถึงภาวะเช่นนี้ได้ สภาวะจิตก็ไม่ต่างอะไรกับจิตท่านอั๋น ที่สามารถ ระลึกอดีตต่างๆ ได้เมื่อยามรูปนี้ผัสสะ
นี่..ข้าแค่จะชี้แนวทางที่คนเราสามารถ เกิดภาวะบุพเพนิวาสา
เกิดได้เพราะเหตุอันใด และนี่เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่จะทำให้เกิดได้
ช่องทางนั้นก็คือ…
การฝึกให้จิตนี้ว่างเปล่าจากกายทั้งที่ยังมีกาย
วิธีนี้ จะฝึกอย่างไร..??
ค่อยมาคุยกันสดๆ กะข้า คืนนี้ เป็นอันว่า คุยกันแค่เพียงแค่นี้
หวัดดี…
วันที่ 10 ธันวาคม 2558 โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง