วิสัยภูมิแห่งผู้บรรลุธรรม

วิสัยภูมิแห่งผู้บรรลุธรรม

793
0
แบ่งปัน

****** วิสัยภูมิแห่งผู้บรรลุธรรม *****

ขอสาธุคุณยามเช้า

<<มีคำถามมาว่า

มีเกณฑ์การวัดในส่วนของพระอรหันต์ในส่วนของ สุกขวิปัสสโกไหมครับ กับส่วนพระอรหันต์สายเตวิชโช ว่าข้อแตกต่างอยู่ตรงไหน และวิธีการปฏิบัติส่วนไหน ที่ต่างกันแบบรายละเอียดครับ สาธุครับ..!!

>>พระอาจารย์: คำถามนี้กว้างและอธิบายได้คลุมโลก

หากสรุปชัดๆสั้นๆก็จะไม่เข้าใจ ขออธิบายคร่าวๆว่า…

สุกขวิปัสสโกนี่…เป็นการเข้าถึงธรรมด้วยการตรึกตรอง
ไปตามเหตุและปัจจัยจนได้รอบ เข้าตีถึงขั้นอวิชชาแตก นี่…ประเภทหนึ่ง

เกิดปัญญาวิมุตติญาณระลึกรู้ถึงความเป็นจริงของ
สรรพสิ่งว่า…มันเป็นธรรมดาของมันเช่นนี้เอง

อีกประเภทหนึ่ง…เมื่อได้ตรึกตามธรรมที่ผัสสะ เกิดเจโตวิมุตติญาณ เกิดความรู้แจ้งด้วยเจตนาจิต

เข้าถึงความเป็นจริงประกอบด้วย ผู้ดูอย่างหนึ่ง ผู้รู้อย่างหนึ่ง กายอย่างหนึ่ง เวทนาอย่างหนึ่ง

มีสภาวะวางตัวเป็นอุเบกขาซึ่งกันและกัน เกิดปัญญาชัด ตรงตามความเป็นจริง รู้แจ้งแทงตรงขึ้นมา โดยไม่ได้พิจารณาแยกออกเป็นส่วนๆ…นี่ก็ประเภทหนึ่ง

พระอรหันต์ส่วนใหญ่ สำเร็จมาจาก สุกขวิปัสสโก

พระโมคคัลลานะผู้ทรงฤทธิ์ ก็สำเร็จด้วย สุกขวิปัสสโก

แต่เพราะความที่ทรงเอตทัคคะด้านฤทธิ์ เราจึงเข้าใจว่า ท่านเป็นพระอรหันต์ ฉฬภิญโญ นี่มันเราคิดเอาด้วยความไม่เข้าใจภูมิ

พระโมคลานะสำเร็จอรหันต์ ด้วยความเข้าใจในการพิจารณาธาตุสี่แห่งรูป สำเร็จแล้วมีอาณาปานเป็นเครื่องอยู่ในวิหารธรรม จึงเกิดญานเรื่องฤทธิ์

สุกขวิปัสสโก เป็นการบรรลุธรรมที่ยาก แต่เป็นการปฏิบัติง่ายที่สุด เข้าถึงยากที่สุด เป็นทางแห่งผู้มีปัญญาจะเข้าไปถึงได้

ไม่เกี่ยวว่าจะต้องได้ฌาณสี่ หรือฌาณอะไรจะมีฤทธิ์ มีฌาณอะไรแค่ไหน

หากตรึกตรองด้วยธรรมและเข้าถึงด้วยเหตุด้วยผล ของการตรึกตามปัญญา

เราเรียกพระอรหันต์เช่นนี้ว่า พระอรหันต์ สุกขวิปัสสโก

ซึ่งความเป็นพระอรหันต์ก็ยังมีวิชาสาม คือ เตวิชโช

พระอรหันต์ฉฬภิญโญ คือ อภิญญา

และพระอรหันต์ประเภท ปฏิสัมภิทาญาณอีก..!!

ส่วนพระอรหันต์ประเภท เตวิชโช หรือวิชาสาม

พระอรหันต์ประเภทนี้ นอกจากได้ฌานสี่แล้ว จะต้องได้ทิพจักขุญาณด้วย

นั่นก็คือเกิดภาวะบุพเพนิวาสานุสสติญาณ

หมายความว่า กำลังแห่งบารมีสร้างสมมาให้ย้อนไปเห็น
อดีตอันมากมายและหลากหลายของตนเอง

อาจเป็น 1 ชาติ 2 ชาติ 3-4-5-6-7 ไปจนถึง อินฟินิตี้

เช่นนี้ เรียกว่า วิชาหนึ่ง เป็นผู้ได้บุพเพนิวาสา

เมื่อนำเหตุการณ์ทั้งหลาย ที่ตนเองประสบมาทางบุพเพนิวาสา

นำมาตรึก มาตรอง มาสาวผลที่เกิดทั้งหลายว่าเหตุ
ทั้งหลายที่ได้เกิดมาจนวนเวียนอย่างทุกข์ ทนทรมาน
ในแต่ละชาตินั้น มันมีเหตุมาเนื่องมาจากสิ่งใด

เกิดปัญญารู้เห็นความเป็นจริง ของเหตุและปัจจัยที่ไหล
ไปตามครรลองวิบากจิต เช่นเห็นผลที่เกิดกับชาติหนึ่ง

เมื่อนำมาพิจารณาก็เข้าใจเหตุที่เกิดว่า มีเหตุมา มันมาจากตรงไหน

เกิดความกระจ่างแจ้งแทงใจขึ้นมาว่า

ทุกข์ทั้งหลายที่ได้เข้าไปรู้เห็น มันมีเหตุขึ้นมาจาก
ใจที่มีตัณหาผุดขึ้นมาไม่รู้จบนี่เอง

เกิดเจโตวิมุตติ และปัญญาวิมุตติขึ้นมา จิตเข้าไปสู่ความหมดสิ้นแห่งอาสวะ

นี่…เป็นครรลองของพระผู้เข้าถึงธรรม อันเรียกว่า พระอรหันต์เตวิชโช

เป็นพระอรหันต์ผู้เข้าถึงวิมุตติญาณด้วยภาวะ บุพเพนิวาสา

อันประกอบด้วย บุพเพนิวาสาญาณ เจโตวิมุตติญาณ และปัญญาวิมุตติญาณ

สิ้นอาสวะอุปาทานหลุดลอย ด้วยอำนาจแห่งเตวิชโช

การปฏิบัติ ต่างปฏิบัติมาแนวเดียวกันหมด ตามจริตวิสัยภูมิ

ความเข้าถึง เตวิชโช ฉฬภิญโญ และปฏิสัมภิทาญาณ

เป็นเรื่องวาสนาบารมีที่ได้สร้างสมมาของแต่ละคน ซึ่งไม่เท่ากัน

แม้บางท่าน จะเก่งเรื่องฌาณ เรื่องฤทธิ์ มีสมาธิที่หนาแน่น ได้ทั้ง รูปฌาณและอรูปฌาณ

แต่การเจริญปัญญาเข้าถึงสิ่งที่เจ้าของสร้างสมมาไม่ถึง

ไม่มีความแยบคายและไม่เกิดภาวะ เจโตวิมุตติขึ้นมา

วุฒิภาวะแห่งญาณที่ได้ เรียกว่า บรรลุธรรมด้วยวุฒิภาวะแห่ง สุกขวิปัสสโก

ยังมี ฉฬภิญโญ และ ปฏิสัมภิทาญาณอีก แต่ไม่ได้ถามมา

ความเข้าใจเรื่องภูมิเหล่านี้ คนทั่วไปอาศัยอ่านมาจำมาแล้วตีความเอา โดยไม่ได้เข้าใจเรื่องวิสัยภูมิของแต่ละบุคคล

ข้าจะไปอธิบายและขยายในการพูดคุยกันอีกที ผู้ได้ฟังจะตามรู้ได้ และจะยืนยันได้ด้วยภูมิปัญญาของตัวเราเอง ว่ามันเป็นของมันเช่นนั้น

เช้านี้ มีน้องๆมาช่วยกันขนหินแล้ว

วันนี้จะเทเสาองค์พระ มีโอกาสก็มาร่วมสร้างกัน เพื่อที่จะได้มีสัญญาร่วมกัน

เช้านี้ ขอสาธุคุณ..!!!

วันที่ 14 พฤศจิกายน 2558