****** ธรรมนั้นอาศัยการรู้แจ้ง *****
ขอสาธุคุณยามเช้าให้มีแต่คว
อันว่าธรรมนั้น หากไม่ชัดแจ้งแทงใจ
เราก็จะบันลือสีหนาทไม่ได้ มันจะติดข้องเกรงนั่นเกรงนี
อันว่าธรรมนี้ ไม่ได้ขึ้นกับการตรึกตรองเอ
หรือคาดคิดเอา หรือสุ่มเดาเอา หรือคาดคะเนเอา
หรือเพราะความเห็น
หรืออะไรๆที่จดที่จำจากธรรม
สิ่งเหล่านี้…เป็นเปลือกธ
เป็นเปลือกที่รักษาห่อหุ้มเ
เพียงแต่ธรรมทั้งหลาย มันย่อมอาศัยเปลือก นี่…เป็นธรรมดา
ปัญหาของผู้มาทางธรรมทั้งหล
ธรรมที่เป็นพุทธะนี่ เกิดจากประสบการณ์ เกิดจากความเห็นแจ้ง
แล้วร้อยเรียงธรรมที่เห็นแจ
ผู้ทรงธรรม ใช่ว่าจะใช้วิถีจดจำธรรม มาอธิบายจากฟังมา อ่านมา และคิดว่าเอา
ธรรมเช่นนี้เป็นสมมุติธรรม ที่จำได้ไม่นานมันก็ลืมเลือ
และที่สำคัญ มันจำกันไม่หวาดไม่ไหว
ผู้ทรงธรรม ท่านได้ธรรมมาจากผัสสะ ดุจประหนึ่งว่า
แม้แก่และลืมเลือนขนาดไหนย่
ผัสสะแล้วรู้และเข้าใจ ในเรื่องแห่งธรรมดาทั้งหลาย
ไม่ว่ากาลเวลาจะผันผ่านไปนา
นี่เรียกว่า…ผู้เข้าถึงวิ
ไม่ใช่ เป็นแค่ ผู้จดจำเขามา แล้วโอ้อวดว่า ตนนี้เป็น…ผู้ทรงภูมิธรรม… !!!
ผู้ปฏิบัติธรรม เมื่อได้รับธรรมจากผู้รู้ จากการฟัง จากการอ่าน
ท่านก็มักจะเข้าไปเป็นเจ้าข
ที่สำคัญ…ท่านก็จะยึดในธร
พุทธศาสนาชี้ให้เห็นว่า…ม
ไม่ได้ชี้ให้ท่านเข้าไปเป็น
เราอาจไม่ชอบใจสิ่งนั้น ไม่ชอบใจสิ่งนี้
แต่เราไม่เคย ไม่ชอบใจ ความไม่ชอบใจที่เราไม่ชอบใจสิ่งนั้น สิ่งนี้ อย่างที่เราไม่ชอบใจเลย
นี่…เป็นความโต่งที่เราคา
หากเราไม่ชอบใจสิ่งนั้นสิ่ง
มันจึงจะเกิดความสมดุล และวางความไม่ชอบใจลงได้
ปัญหาคนเรา มักเป็นมนุษย์ไฟฉาย
มันฉายแสงเห็นแต่ความผิดพลา
แต่ไม่สามารถฉายเห็นด้ามของ
นี่…ผู้ทรงธรรม ท่านไม่ได้เดินตามวิถีแนวนี
การเดินวิถีแนวนี้ เป็นธรรมดาของสภาวะจิตที่ยั
แม้เจ้าของจะรู้สึกว่า นี่มันดีหลายๆและถูกต้องแล้
วันที่ 19 ตุลาคม 2558
>> ลูกศิษย์ : ธรรม ออกจากใจ ย่อมเป็นธรรมแท้ ไม่ผิดเพี้ยนหรือผิดพลาด…
ที่ต่างพากันตีความ ตัวอักษร มันก็ผิดเพี้ยน ผิดพลาดไปตามความคิดอันเป็น
<< พระอาจารย์ : กล่าวได้ชอบธรรม น้าหมู
ธรรม ที่พระพุทธองค์ทรงชี้ ท่านชี้ให้เห็นและเข้าใจควา
แต่การชี้ มันมีกาลแยกย่อย ก็ขึ้นอยู่กับภูมิจิตและจริ
เพราะวิสัยมานะแห่งปุถุชน อะไรยากๆ หากรู้มากเข้าใจและช่ำชองเร
แต่เปรตกับปราชญ์มันมักจะอย
ส่วนเปรต หลับตาคลำและมั่นใจ ว่าต้องใช่แน่ๆ ปราชญ์จึงมักจะฟังเปรต แต่เปรต ไม่ฟังปราชญ์
เพราะเปรต ย่อมมองปราชญ์ว่าเป็นเปรต ส่วนเปรต ก็ย่อมมองตนเองว่า…ปราชญ์
โลกเป็นเช่นนี้ครับหน้าหมู จะมีผู้กล้าซักคนไหม ที่จะลุกขึ้นมายืนหยัด ปรารภธรรม อันเป็นธรรม โดยไม่สนใจเปรต
และปราชญ์ ท่านจะยอมรับไหม ว่าตนเองคือเปรตในสายตาปราช
หากยอมรับ ยุคนี้ เราอาจได้ปราชญ์ ที่มาจากเปรตบันลือสีหนาทธร
เราจะรอเปรตในสายตาเหล่าปรา
วันที่ 8 มีนาคม 2557