ธรรมชาติแห่งการโกหก เอาเจตนาเป็นหลัก

ธรรมชาติแห่งการโกหก เอาเจตนาเป็นหลัก

419
0
แบ่งปัน

****** ธรรมชาติแห่งการโกหก เอาเจตนาเป็นหลัก ******

ขอสาธุคุณยามเช้าที่สว่างไสว ขอให้มีแต่ความสุขความเจริญ

ธรรมชาติแห่งความเป็นกลางนั้น ไม่ใช่ต้องกลางแบบเป๊ะๆ กระดุกกระดิกเอนเอียงไม่ได้เลย ไม่ใช่อย่างนั้น

น้ำที่ร้อนจัด เราเรียกว่าร้อน เราทานลงคอไปไม่ได้ มันลวกคอลวกลิ้น

แต่ถ้าร้อนแบบเรียกว่าอุ่นๆ มันก็พอทานได้ แม้ว่าสัมผัสแล้วจะยังร้อนๆ อยู่

นี่..ไม่จำเป็นต้องรอให้เย็น มันก็กินได้ แม้ว่ายังร้อนอยู่ก็ตาม

การโกหกก็เช่นกัน บางเรื่อง มันบิดเบือนออกไปอีกอย่าง ด้วยเจตนาที่ดี เช่นนี้จะไปนับว่า นี่เป็นการโกหก

มันก็เป็นอัตตาแห่งอุปาทานจัดไปซักหน่อย

บางเรื่องมันก็แสดงออกไปตามเหตุและปัจจัย

เจตนาที่เป็น อกุศลที่หนักไปทางร้ายแรงประกอบด้วย

เจตนาที่มุ่งหมาย อันเกิดจาก โลภ โกรธ หลง ที่เชี่ยวจัด

เป็นไปเพื่อความเดือดร้อนของอีกฝ่าย

การเอาเปรียบที่มุ่งร้าย ทำลาย และหลากหลายเหตุปัจจัย

โกหกเช่นนี้ เป็นบาปหนัก เพราะสร้างความเสียหาย

อย่างร้ายแรง ให้แก่ตนเองและผู้อื่น

แต่ถ้าเป็นการบิดเบือนเล็กๆ น้อยๆ แม้จะมีวิบากให้ผล แต่วิบากนั้น มันเป็นวิบากอกุศลที่มีเพียงเล็กน้อย

เจ้าของสามารถต้านวิบากเหล่านี้ได้ อยู่ร่วมกับมันได้

แต่หากสร้างจนเป็นนิสัย มันก็เป็นภัยใหญ่ไหลมาสู่เจ้าของได้เช่นกัน

การโกหกแค่ครั้งเดียว แม้เป็นเรื่องเล็กน้อยต่อคนที่เขารักเรา

หากเขาจับได้ว่า เรานี้โกหกเขา ความรักความศรัทธา

ที่เขามีต่อเรา มันจะสั่นคลอนและร้าวฉานไปตลอดชีวิต

เลี่ยงได้ก็เลี่ยง เลี่ยงไม่ได้ จำเป็นต้องโกหกด้วย

ความหวังดี เพื่อให้อะไรมันดีขึ้น มันก็ควรอยู่ เพื่อรักษามิตรภาพ

แม้ต้องแลกมาด้วย ความเสื่อมศรัทธาจากผู้อื่น

เมื่อเขาจับได้ เราก็พึงยอมรับในวิบากนั้นด้วย

ในโลกนี้ ไม่มีใครไม่โกหก เพียงแต่การโกหก

อย่าเหลาให้มันเป็นหอกเป็นดาบ ไปทิ่มแทงใจใครอื่นเขามากมายนักก็แล้วกัน

เราไม่ชอบให้ใครมาโกหกเรา เราก็ไม่ควรไปโกหกใคร

เพราะเขาก็คงไม่ชอบใจเหมือนเราที่โดนโกหกเช่นเดียวกัน…

ครอบครัวเดียวกัน ยังมีความรัก ความผูกพันและหวังดีต่อกัน

พ่อกับแม่ลูก และคนที่เรารักเคารพบูชา

การโกหกสำหรับผู้คนเหล่านี้ ไม่มีเจตนาร้ายแรงอะไรเลย

เป็นอโหสิแทบทั้งหมด หากใจยังประกอบด้วยกุศล

แต่ใจที่ประกอบไปด้วยอกุศล การบิดเบือนแม้คำเล็กน้อย

มันก็คือการโกหกที่เป็นบาปและร้ายแรง ตามเหตุและผลแห่งเจตนา

การแสดงวาจาออกมา ด้วยใจกุศลกับใจอกุศล

ตัวกุศลกับอกุศลแห่งเจตนา เป็นตัวแบ่งสีและอัตตา ว่าอะไรเรียกว่า โกหก

อะไรไม่ได้หมายถึงการโกหก แม้เจ้าของจะเห็นว่า นี่กำลังโกหกอยู่ก็ตาม

วาจานี่..หมายถึงการสื่อสารออกมา ทั้งทางกาย ใจ ในรูปของ รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส และอารมณ์

ไม่ใช่ความหมายแคบๆ แค่ทางเสียง ที่ใช้พูดออกมา

การกวักมือเรียก การมองด้วยสายตา การพยักหน้า การโอบกอด แม้ไม่ต้องพูด

แต่การแสดงออก มันเป็นการสื่อออกมา ให้เข้าใจได้ว่า นี่เป็นความห่วงใย

วาจา..เป็นการสื่อความหมาย ที่กว้างทุกๆช่องทางที่ออกไปจากใจ

เรามักจะจมและคับแคบความหมายแห่งวาจา

ล้อมคอกอยู่แค่การพูด ลอกคำเขามาแล้วแปลความแคบๆ

นี่..คับแคบและตีบตันในปัญญาเอามากๆ

การพูดดีๆ พูดเพราะๆ แต่ใจหยาบช้าดุจโจรร้าย มันก็โกหกที่เลวร้ายไม่น่าคบหา

การสื่อด้วยการกระทำในสิ่งที่ดีๆ แม้ไม่ต้องพูดอะไร

เช่น คว้าเอาพวงมาลัย ไปกราบตีนแม่ซักครั้ง

แม่ย่อมเอิบอาบความปิติใจ ได้ดีกว่า พูดดีพูดเพราะ

แต่สักแต่ว่าพูด ใจมันไม่ได้เป็นอย่างคำพูด

นี่..วาจานี้ เป็นการสื่อความหมายออกมาที่คลุมกว้างไปถึง

กาย และใจ ที่ไม่จำเป็นแค่อยู่ในซอกแคบๆ แค่เสียงก็ได้

การโกหกก็เหมือนกัน แม้ไม่พูด แกล้งโอบกอด แกล้งทำดี แต่ใจเชือดเฉือน นี่มันก็เรียกว่า โกหก

คำพูดนี่ เขาเรียกว่า วจี คำเขียนก็เรียกว่า วลี

การสื่อออกมาเป็นสมมุติอักษร นี่ก็พูด

นี่..เมื่อมีการพูด การโกหกมันก็ย่อมติดตามมาเป็น

ขี้เรื้อนที่ติดหนังหมา

ใจที่เป็นขี้เรื้อน อยู่ที่ไหน มันก็เกามันก็คัน

คนโกหกเป็นนิสัยก็เช่นกัน อยู่ที่ไหนมันก็ต้องเกา มันก็ต้องคัน

เพราะขี้เรื้อนแห่งใจมัน ชอบที่จะโกหก..

วันที่ 1 กันยายน 2558