ฝรั่งถามฉันตอบ…ความว่าง ว่างจริงหรือ (2)

ฝรั่งถามฉันตอบ…ความว่าง ว่างจริงหรือ (2)

812
0
แบ่งปัน

อะฮ้า…สามลิตร มาเลยวันนี้มาอธิบายเลย ทำไงเราจึงจะว่างได้อย่างหมดจรด ต้องอธิบายให้ไอเห็นภาพเลยนะ ไม่งั้นไอเสียบ สามลิตรแน่ 

พอจ: จิ๊บ.. บ้านแก รกรึเปล่า ของเยอะไม๊

ฝรั่ง: โอ๊ย….เยอะแยะ แต่ไม่รกหรอก เราจัดกันเป็นระเบียบ

พอจ: ถ้าแกต้องการบ้านว่างๆ เพราะรู้สึกว่ามันรกเกะกะตา และไม่ต้องการอะไรเลยในชีวิตนี้ แกจะทำอย่างไร

ฝรั่ง: ไอก็รื้อทิ้ง เอาออกไปเอาออกไปให้หมด แค่นี้ บ้านก็ว่าง ง่ายๆ

พอจ: อย่างนี้ ถ้าเปรียบของรกรุงรังเป็นกิเลส เป็นความทุกข์ ที่แกไม่ต้องการ เมื่อแกพยายามขนออก จนหมดไปจากบ้าน หรือใจแก บ้านมันก็ว่าง ความทุกข์ก็หมดจากใจแกซิ อย่างนี้ว่างไหม.

ฝรั่ง: อ้อ….ว่างซิ.!! ความว่างเป็นเช่นนี้เองรึ คือเอาความทุกข์ออกจากใจ จนไม่เหลืออะไร ในบ้าน อย่างนี้ว่างแน่ๆ เอ้..!!! อธิบายอย่างนี้ ไม่เห็นแปลก ก็ในเมื่อบ้านไม่มีอะไร มันก็ต้องว่างซิ เด็กก็ตอบได้

พอจ: ยัง…ยังไม่ว่าง..!!

ฝรั่ง: อะไร.?? ก็ในเมื่อขนออกหมดแล้วมันก็ต้องว่างซิ ยังจะมีอะไรไม่ว่างอีก..!!

พอจ: ตัวแกไง.. ยังรกบ้านอยู่ แกยังไม่เอาตัวแกออกจากบ้านเลย ว่างจากวัตถุ แต่ตัวตนของแกยังรกบ้านอยู่ หรือแกไม่ใช่วัตถุที่อยู่ในบ้าน

ฝรั่ง: เอิ้อออ……ช่ายยยๆๆๆ บ้านยังรกอยู่ เพราะยังมีเราขวางอยู่ โห…แยบคายๆ เออ มันมองตัวเราไม่เห็นจริงๆ ตัวเราต้องออกมาด้วย มันจึงจะว่าง ใช่ๆๆๆๆ อย่างนี้แหละบ้านว่างจริงๆ คำตอบนี้สมภูมิเป็นสามลิตรหน่อย สุดยอดๆๆ

พอจ: หุหุหุ ถึงตัวเราออกมามันก็ยังไม่ว่างโว๊ย..!!!!

ฝรั่ง: โนววว.. อินพอร์ทซิเบิ้ล… หมดแล้วในบ้านไม่มีอะไรแล้ว มันจะไม่ว่างได้ไง คนก็ออกมาแล้ว อย่างนี้ถ้าไม่เรียกว่าว่าง ก็ไม่ต้องฝึกความว่างกันแล้วละ.. มันยังไม่ว่างยังไงอีก ไหนลองบอกมาซิ ห้ามเล่นลิ้นนะ เอาตรงๆ

พอจ: ก็แกยังเป็นเจ้าของบ้านอยู่.. มันจะว่างได้ไง

ฝรัาง: เออ..จริง.!! อ้าว.. ก็เราต้องการเป็นเจ้าของบ้านว่างไม่ใช่เหรอ นี่มันก็น่าจะสุดของความว่างแล้วนี่ เราเป็นเจ้าของความว่างมันก็ถูกแล้วนี่ มันจะไม่ว่างได้ไง

พอจ: แล้วเวลาเกิดใครมาทำรกขึ้นมา หรืออะไรลอยเข้าไปในบ้านแก แกจะสบายใจในบ้านว่างนั่นไม๊ ทีเมื่อวานแกบอกว่าแกว่าง นั่นยังไม่ถอดถอนตัวตนออกมาเลย แกยังโวยวายเมื่อของเสีย หรือเมื่อแกหิว อย่างงี้ มันว่างไม่จริงนี่หว่า ว่างเป็นพักๆ แล้วมาคุยว่าว่าง มันว่างตรงไหน…หือ.!!

ฝรั่ง: ……….!!!!! โอวว……มายยยก๊อดด.. นี่หมายความว่า ความว่างไม่มีหรือ มันจริงอย่างสามลิตรว่า ไอเข้าใจ เหมือนปัจจุบันไม่มี ใช่ๆๆๆความว่างไม่มี..!!

พอจ: มีโว๊ยย …บั๊กจิ๊บ

ฝรั่ง: โอ๊ววว…ไองงไปหมดแล้ว..!!! ก็สามลิตรชี้ออกมาเป็นขั้นๆให้ไอเห็น ความว่าง ไอก็เห็นมันว่าว่าง แต่แล้วบอกว่ายังไม่ว่าง ฟังเหตุผลแล้วมันก็ใช่ แล้วนี่เค้นจนถึงที่สุดแล้ว ความว่างมันไม่มี ไอก็เห็นด้วย เหตุมันชี้อยู่ แล้วนี่มาบอกว่า ความว่างมันมีอีก สามลิตร..ไม่ใช่คนแล้ว..!! มันเกินมนุษย์ที่จะคิด ไอเป็นนักคณิต ยังมีสูตรคิดไม่ยุ่งยากขนาดนี้ ไหนบอกมาซิ ว่างที่แท้จริงมันว่างอย่างไร..!!

พอจ: เรายุ่งยากใจกับความรกของบ้าน เราเอาออกจนหมด มันก็ยังไม่ว่าง เป็นเพราะมีเราอยู่ เราออกมาบ้านก็ไม่ว่าง เป็นเพราะเรายังเป็นเจ้าของอยู่ ตรงนี้มาถึงที่สุดแล้ว จิ๊บ..!! ไม่ว่างก็มันติดที่เราเป็นเจ้าของนี่แหละ จะไม่เป็นก็ไม่ได้ เพราะเป็นบ้านของเรา แกว่าไม๊

ฝรั่ง: ใช่ๆๆๆเราจะทิ้งบ้านได้ไง บ้านก็เหมือนเรา ในเมื่อเรายังไม่ตาย เราก็คือเจ้าของบ้าน อย่างนี้ มันจะว่างได้ไง ในเมื่อ ยังมีเจ้าของ นี่เป็น ความคิดที่ละเอียดยิ่งเลยนะหรือยอมรับว่า ความว่างมันไม่มี เราไม่จำเป็นต้องแสวงหา..!!

พอจ: จิ๊บ..!! ถ้าด้านซ้ายเป็นบ้านที่รกกว่าบ้านแก แกรู้สึกยังไง..?

ฝรั่ง: มันก็เรื่องของเขา ไม่เกี่ยวกับเรา จะไปเดือดร้อนทำไม..!!

พอจ: แล้วถ้าบ้านด้านขวา เป็นบ้านว่างสะอาดมากๆเลยละ.. แกรู้สึกยังไง..?

ฝรั่ง: สะอาดหรือว่างยังไงก็ไม่ใช่บ้านเรา ไม่เห็นจะต้องน่ายินดี..!!

พอจ: แล้วทำไมแกไม่ทำความรู้สึกบ้านรกๆ และว่างๆของแก ให้เหมือนกับบ้านทั้งซ้ายขวาบ้างละ.. ทำไม..?

ฝรั่ง: …………????????

พอจ: เพราะแกมันเจ้ากี้เจ้าการกับบ้าน เป็นเจ้าของทั้งความที่มันรก และเป็นเจ้าของความที่มันว่าง ใจแกจึงไม่เคยว่าง กับความว่างที่มันมี บ้านซ้ายและขวาที่มันรก แกไม่รู้สึกเดือดร้อน เพราะแกไม่ได้เป็นเจ้าของมัน แกจึงว่างจากความทุกข์ แต่พอเป็นของแก แกเสือกเป็นทุกข์ เพราะความอยากผุดออกมาจากใจไม่รู้จบ แกเป็นเจ้าของที่ไม่ทำความรู้สึกถึงความเป็นเจ้าของ แบบบ้านข้างๆไม่ได้รึ..

ฝรั่ง: โอ๊วววว สุดยอดดดด ..!! แต่บ้านข้างๆไม่ใช่ของเรานี่..?

พอจ: แต่มันก็ตั้งอยู่ เหมือนของเรานั่นแหละ..รึว่ามันไม่มี..!!

ฝรั่ง: โอ๊ววว…ใช่ๆๆๆ มันก็เป็นบ้านเหมือนกัน มันมีอยู่…แล้วเราจะว่างแบบนั้นได้ยังไง ในเมื่อเราเป็นเจ้าของ..?

พอจ: ก็ยอมรับมันซิ ว่า..มันก็สักแต่ว่าบ้าน จะบ้านเราบ้านเขา มันก็สักแต่ว่า มันจะรก เราก็จัดเท่าที่เรายอมรับได้ มันจะว่างเราก็ยอมรับกับมันเท่าที่เหตุปัจจัยจะอำนวย บุคคลเช่นนี้ ย่อมว่างจาก บ้านที่ทั้งรก และบ้านที่ไม่รก ใจอย่างนี้ แกว่าเป็นใจที่ว่างไหม ทั้งๆที่เป็นเจ้าของ บ้านรกและไม่รก..

ฝรั่ง: เยสสสส….สุดยอด ส า ม ลิ ต ร อย่างนี้ ว่างแน่ๆ โอววววนี่หรือ ที่พุทธเรียก “มัชฌิา” ทางสายกลางเป็นเช่นนี้เอง คือการยอมรับ ในสิ่งที่มี ว่า..สักแต่ว่ามี โอววว ต่อไป ขี้เต็ม เราก็สัก แต่ว่ามันเหอะ ไอไม่ต้องเทอีกแล้ว…..

พอจ: หุหุหุ หิวแล้ว มากินข้าวเถอะ หิวยังจิ๊บ..?

ฝรั่ง: นี่ …10 โมง ไม่หิวก็ไม่ใช่คนแล้ว สามลิตร หิวๆๆๆ

พอจ: วันนี้ แกก็สักแต่ว่าหิวไปเหอะ ไม่ต้องแดกกกก…!!!

ฝรั่ง: อ้าว…เอะ !!! มันยังไงกันนี่ พระองค์นี้…!!! จริงๆเชียว..!!!