นู๋ขอถามอะไรหน่อยนะเจ้าคะ.
นู๋ เข้าไปอ่านเว็บมา หาข่าวสาร มาถามหลวงพี่ ถ้า มีคนตีความในคำสอนผิดแบบผิด
พอจ.: ถ้ารู้ว่าผิดแสดงว่าเราถูก แล้วรู้ได้ไงว่าเราถูก ถึงได้คิดว่าของเขาผิด ก็ฟังๆดูๆกันไป เราเสือกเองที่ไปเจ้อะกับมั
ผิดถูกมันสมมุติ หากเอามาเป็นอารมณ์ ใจเราก็ทุกข์แล้ว ฟิตมาทางถูกมันก็ถูก ฟิตมาทางผิด มันก็ผิด อยู่ที่ใจเรา ไม่ใช่อยู่ที่ใคร ทุกๆคนมีสิทธิ์ ออกเสียงได้
ขึ้นชื่อว่าธรรม มันขึ้นอยู่กับเจ้าตัวตีควา
แต่เมื่อบวชเข้ามาแล้ว มันต้องข่มใจ รักษาพระธรรมวินัย เพื่อใจจะได้รอดพ้นจากกิเลส
ค่อยๆงด ความเคยชินที่คิดว่า เราเป็น เราอยาก วินัยเขามีไว้ให้ใจมันงด และพิจารณาเฝ้าดู สิ่งที่ใจมันขาด เพื่อฝึกใจของตัวเอง ไม่ได้เกี่ยวกับใคร
แต่คนเรามักเอาใจที่คิดว่าฝ
เริ่มทำใจยอมรับ อะไรต่ออะไรให้ได้ก่อน
อย่าเพิ่งไปแย้ง อย่าเพิ่งไปค้าน ถ้าแย้งถ้าค้าน ให้เก็บไว้ในใจ แล้วถามหาผู้รู้อธิบาย
หรือค่อยๆถาม สาวผลที่เราแย้งเราค้าน ไปหาเหตุ ที่เราคิดว่าไม่ใช่ ถ้าผลรับได้ ก็โอเค
แต่ถ้ารับไม่ได้ ก็ต้องสาวผลลึกลงไปอีก ดูซิ เขาจะว่ายังไง ถ้ายังรับไม่ได้อีก ถอยออกมา แสดงว่าไม่เขาก็เรา มีฟากหนึ่ง ผิดและถูก หรืออาจผิดทั้งคู่ หรือถูกทั้งคู่
เพราะธรรมดา ผู้ที่มีวิสัยธรรม จะสามารถตอบ และขยายคำถามตอบ ให้เราเข้าใจง่ายอยู่แล้ว แค่ถามตอบไม่กี่ประโยค
แต่ถ้าดื้อด้านทั้งคู่ อีนี้ ต้องฟัดกันเหนื่อยหน่อย นู๋ฝึกทำใจยอมรับก่อน การยอมรับ เป็นทางสายกลาง ที่บาลีเขาเรียกว่า มัชฌิมาปฏิปทามรรค คือการดำเนินแห่งทางสายกลาง
ทางสายกลางของแต่ละคนไม่เท่
เพราะแต่ละอย่างที่มากระทบ ย่อมอาศัยเหตุและปัจจัย อย่าได้เอาตัวตนเข้าไปตัดสิ
ไอ้เรามันชาวบ้านและกิเลสหน
เมื่อทำใจยอมรับได้ ก็ค่อยๆหันมายอมรับว่า ชีวิตนี้เต็มไปด้วยทุกข์ หาทุกข์ให้เจอ จะหาเจอ ต้องมีใจยอมรับก่อนว่า โลกนี้เต็มไปด้วยทุกข์ ถ้ายอมรับทุกข์ สุขก็จะโผล่ แล้วจะรู้ว่า แหม… !! ทุกข์ทั้งหลายที่มีที่เป็น มันเป็นของมันเช่นนั้นเอง กูนี้ “โคตรเสือกชิบหาย” ใจจะวางทุกข์ เป็นสุขขึ้นมาทันที ทุกข์มันหนักแบกหามไปใย ทำไมไม่ปล่อยทุกข์ไป โดยการทำใจ “ยอมรับ”
ธรรมในเว๊บ เป็นธรรมที่ก๊อปปี้กันมาให้
ตัวเขาเองยังเต็มไปด้วยกามแ
ยึดหนังสือ ยึดตำราโดยไม่มีปัญญาไตร่ตร
นู๋.: แล้วเขาอ้างพุทธวัจนะละคะ