พิษร้ายแห่งความรัก

พิษร้ายแห่งความรัก

693
0
แบ่งปัน

พิษร้ายแห่งความรัก

<<พระอาจารย์ : หวัดดีจ้า เอาธรรมมาฝาก

เด็กน้อยคนนี้ อายุ 1 เดือน

โบราณว่า ต้องโกนผมไฟ ไอ้ข้าเองก็ไม่รู้เรื่องกับเขาหรอก

ที่นี้แม่มันเป็นน้องที่ศรัทธาข้ามาหลายปี ขอให้โกนให้หน่อย

เด็กนั้น ผิวบอบบางมาก การโกนต้องใช้สมาธิสูงและเบามือ

เพราะเด็กเขาอยู่ไม่นิ่ง ปกติการโกนเขาโกนตอนเด็กหลับ

ผิวที่บอบบาง คมมีดกดลงไปในผิวไม่ได้เลย มันจะตักผิวเด็กขึ้นมาด้วย

ฝ่ายแม่ก็ใจคอไม่ดี กลัวคมมีดกรีดลงไปในผิวของลูก

มองมีดที่ผ่านใยผมอย่างแผ่วเบา ด้วยใจที่หวาดหวั่น กระวนกระวายใจ

หากกรีดลงไปยังผิวน้อยที่บอบบาง

ใจแม่คงแทบสลาย นี่..เห็นไหม หอกแหลมคมของความรัก มันกำลังย้อนมาทิ่มแทง

ความรักความห่วงใยมันซ่อนหอก ที่แหลมคม มันกำลังทิ่มแทงเข้าไปในหัวใจ ของผู้เป็นแม่ เธอเห็นหอกที่ซ่อนอยู่ในความรักอันน่าทะนุถนอมนี้ไหม มีดหอกอันเป็นภัยร้าย มันก่อตัวขึ้นมาแล้ว ภายใต้ความรักและความเสน่หา เธอมองมันเห็นไหม

ความรักอันบริสุทธิ์นี้เป็นภัยร้าย ที่ซ่อนเร้นกายความคมกริบในความรักความห่วงหา

เพราะรักมิใช่หรือ เธอถึงได้แสดงอาการหวั่นไหวออกมา

รักก่อตัวเมื่อไหร่ เกิดขึ้นที่ไหน ที่นั่นซ่อนหลุมพรางตาความทุกข์ ที่ร้อนรุ่มอย่างเลือดเย็นไว้

รัก…เมื่อเห็นสิ่งที่รักเจ็บปวด ใจย่อมเจ็บปวด

รัก…เมื่อไม่สมดั่งใจ ใจย่อมเจ็บปวด

รัก….เมื่อโดนพราก ใจย่อมเจ็บปวด

รัก…เมื่อโดนทำลาย ใจแทบสลายย่อมเจ็บปวด

รัก…เมื่อตัดรอนรัก ใจย่อมเจ็บปวด

รัก…ยามหมดสิ้นเสน่หา ใจย่อมเจ็บปวด

รัก…ข้างเดียว ใจย่อมเจ็บปวด

รัก…ยามสูญเสีย ใจย่อมเจ็บปวด

รัก…แม้รักมามากแค่ไหน สุดท้ายใจต้องเจ็บปวด เมื่อสิ่งที่รัก ต้องสลายแตกหัก พลัดพรากจากกัน ใจอันอยู่ในธารแห่งรัก ย่อมเจ็บปวด

ไม่มีรัก ก็เจ็บปวด

ความเดียวดายไร้ความรัก ก็เจ็บปวด

ไม่มีใครรัก ก็เจ็บปวด

ทั้งมีรัก และไม่มีรัก ต่างมีสายใยแห่งความเจ็บปวดทั้งนั้น

เพราะรักนี้ เป็นสมุทัย เกิดจากตัณหาที่ผุดจากใจเอ่อล้นออกมาโดยไม่รู้จบ

พึงเข้าใจในรัก และยอมรับหอกดาบอันแหลมคมในรักเมื่อคิดที่จะปลูกความรัก

เรารัก ก็ทำใจกับความไม่สมหวังในรักไว้ด้วย

เราก็จะมีความรัก ที่เกิดการยอมรับ ว่ารักทั้งหลาย

มันก็เป็นของมันเช่นนี้เอง มันเป็นแค่อากาศที่ก่อมาสร้างและทำลายใจ ให้เกิดปีติและทุรนทุราย

เรา…คิดจะมีรัก เรา…ยอมรับมันได้ไหม เรา..พึงเข้าใจ รักนี้มีทุกข์เสมอ ขอให้เรา..ยอมรับมัน..!!!

>>ลูกศิษย์ : เราจะจัดการกับความทุกข์ ที่ต้องเผชิญยังงัย ยากเนอะ

<<พระอาจารย์ : รู้จักกับมันซิ รู้จักมัน ว่ามันมีลักษณะเป็นเช่นนี้ ที่เราทุกข์เพราะเราไม่รู้จักมัน เรามันพวกใจหยาบ ชอบทำอะไรลวกๆ ไม่ค่อยพิจารณา

พอผัสสะกับความผิดคาด ก็ย่อมสะดุ้งสะเทือนใจต้านไม่ได้ พวกใจอ่อน ก็มักพ่ายแพ้ธารกระแสแห่งความรัก มันมักโดนกระแสแห่งธาร โหมพัดลงสู่หุบเหว ไม่ตะเกียกตะกายว่ายทวน ยังเสือกจมไปในกระแสธารอีก

พวกใจอ่อนก็ย่อมไร้เรี่ยวแรงต้าน ช่วยแม่งอะไรมันไม่ได้ ใจมันอ่อนแอ ยื่นมือไปเหอะ สุดเอื้อมจริงกับพวกอ่อนแอ มันแย่ถึงขนาดเบือนหน้าหนีมือ ทั้งๆ ที่สุดเอื้อมมือที่จะไขว่คว้าแล้ว

หากกระแสธารมันพอซัดกลับมาแค่พอคว้าได้ ข้าก็พอเต็มใจที่จะฉุดรั้ง ยกหิ้วมันขึ้นมา แม้มันจะงอมืองอหน้า ก็ไม่เป็นไร คืนนี้ โม้เรื่องอะไรดี ข้าขี้เกียจ ทำให้ใจใครเศร้า

เรื่องความรักนี่ คนเรามักสุดโต่งอยู่ข้างเดียว รักมันก่อภัยและพิษร้ายพร้อมๆกับความทุ่มเททั้งหลาย ที่เราหลงอยู่ในกระแสแห่งความหวานหอม

ยิ่งแรกรัก ยิ่งตาบอดเมามัวมองภัยอะไรไม่เห็น หากความรักโดนกระชากและทำลายตอนลุ่มหลง

ภัยทั้งหลายที่มองไม่เห็น มันจะถาโถมกระโจนเข้าใส่ใจเจ้าของ จนแทบสลายวางวายไปเชียว

แม้กระนั้น เจ้าของก็มองไม่เห็น ถ้ามองเห็น ใจเจ้าของก็คงไม่ทุรนทุรายออกมาจนปางตาย

นี่แหละ พิษภัยแห่งรัก ทุกข์หลายๆมันซ่อนอยู่ในหลุมพรางแห่งความรัก เรามองเห็นหลุมพรางแห่งความรักไหม

หลุมพรางมันช่างใหญ่ แต่ในเจ้าของ กลับมองไม่เห็น ความรักทำให้คนตาบอด มองไม่เห็นแม้แต่หลุมพรางใหญ่ที่ซ่อนพิษร้าย..

***************************************
พระธรรมเทศนา จากบทธรรมเรื่อง ทุกข์..ที่มันหลบซ่อนอยู่ในความสุข
ณ วันที่ 9 กันยายน 2557
โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง