ภัย..ยามค่ำคืน ตอนที่ 1

ภัย..ยามค่ำคืน ตอนที่ 1

972
0
แบ่งปัน

…หวัดดี ทุกๆ คน วันนี้ เราจะโม้เรื่องอะไรดี เมื่อคืนนี้ ข้าได้นำพวกน้องๆ ทหารเรือ และน้องๆ เราสามสี่คน ไปล่องเรือ ในเขื่อนใหญ่ เราออกไปทำธุระกันธรรมดา ที่นี่ หากตกกลางคืนแล้ว ข้าจะไม่ให้ใครออกไปไหน โดยการขับเรือแพออกไป เพราะมันอันตราย ที่เราไม่คาดคิด มันมีมากมาย

ท่ามกลางเวิ้งน้ำที่กว้างใหญ่ มองไปทางไหน ก็มืดไปซะหมด เราอาจขับเรือไปชนตอไม้ ที่แทงต้นขึ้นมา ตอนน้ำลดนี้ โคกเนินภูเขาใต้น้ำ เรือหาปลา ที่เขาไม่ได้เปิดไฟ เหล่าพวกตัดไม้ พวกโจรปล้น พวกค้าขายของสิ่งผิดกฏหมาย อะไรๆ ก็มีทั้งนั้น เพราะพื้นที่มันกว้างใหญ่ แต่เมื่อจำเป็นต้องไป ข้าก็พาไป

สิ่งทั้งหลาย กล่าวมา มันมีของมัน แต่มันยังมีที่ลึกลงไปยิ่งกว่านั้น ก็คือ เรื่อง ผี ที่พูดว่าผี ไม่ใช่ ผีแบบที่มาหลอกหลอนเราอย่างในหนัง ผีในที่นี้คือ อะไรที่ไม่ใช่คน เราเรียกว่าผี ผืนน้ำที่กว้างใหญ่ มองไปทางไหน มันก็มืดไปซะหมด ทุกอย่าง มันเหมือนๆ กันหมด

การส่องไฟช่วยอะไรไม่ได้ ไฟที่ส่อง มันแค่ฉายเข้าไปในความมืด มันไม่มีอะไรทีจะไปจับต้อง มันก็ย่อมเห็นแต่ความมืด ยิ่งฉายไฟ เราก็ยิ่งมองไม่เห็นอะไร เรามักจะไปยึดตรงที่ว่า หากมืด เราก็เปิดไฟ ไฟมันใช้ได้ ก็เฉพาะ ส่องวัตถุ ที่มันมีตัวตน แต่กับอากาศ และผืนน้ำกว้างใหญ่ มันมองอะไรไม่เห็น

การเปิดไฟ ยิ่งทำให้ไม่เห็นอะไรเลย นอกจากความมืดๆๆๆ ทีนี้ ในความมืดเหล่านี้ มันก็มีอะไรซ่อนอยู่ ในเวิ้งน้ำที่เราผ่านนั้น มันมีอาณาเขต แห่งผี

ทีนี้ เมื่อเข้าไปผ่านไปในแต่ละเขต สำหรับข้า ข้ามักจะได้กลิ่นหอมของดอกไม้ เป็นสัญลักษณ์ ข้าอยู่กลางน้ำนี่แหละ กลิ่นดอกไม้ จะหวลมาให้ความหอม กลิ่นเหล่านี้ นี่..เป็นสัญญานิมิต

ในแต่ละที่ จะไม่เหมือนกัน แต่หากกำหนดจิตจับกลิ่นเหล่านี้ เราก็จะขนลุกขนพอง ยิ่งถ้าแช่จิตนานๆ มันจะมีอาการขนพองสยองเกล้า เลยทีเดียว บนผืนน้ำ ที่กว้างใหญ่ ด้านใต้น้ำ ต่างเป็นสุสานของเหล่าต้นไม้อันมากหลาย ที่จมอยู่ภายใต้น้ำ อันลึก ล้อมรอบไปด้วยภูเขา ปกติ ป่าแต่ละที่ มันก็มีความแรงแห่งพลังงานไม่เหมือนกัน

บางที่แรงจัด บางที่เบาบาง สำหรับตัวข้านี้ มันมีความแรงแห่งกระแสสูง เหตุเพราะ ได้กระจายจิต แผ่เมตตา ออกไปถี่ เป็นเวลาหลายต่อหลายปี และกำลังที่ แผ่ออกไปนั้น เต็มกำลัง เพราะอาศัยใจที่เป็นสมาธิ แผ่ออกไป กระแสใจ เมื่อไปในที่ไหนๆ บนโลก ย่อมได้รับการต้อนรับ

ที่นี่ก็เหมือนกัน เมื่อข้าได้ออกไปไหนยามค่ำคืน ปกติ ข้าจะไม่ได้กลับ มันมักจะมีเหตุ ให้ต้องอยู่ การอยู่นี้ มันเป็นการเกิดจากเจตนา ของเหล่าผี เพราะผีแต่ละที่ บางครั้งเขารอ เพราะมีสัญญาต่อกัน มานาน เป็นแสนๆ ปีก็มี เพื่อที่จะได้ขอร่วมโมทนา กันซักครั้ง

ด้วยเหตุปัจจัย คือ สถานที่ คน วิญญาณ กรรม และวิบาก มันอาศัยรวมกันพอดี ด้วยความธรรมดาของมัน เป็นไปตามธรรมชาติ ในนิยามแห่งธรรม ที่มีสัญญาผูกพันต่อกัน สำหรับข้านี้ การที่จะมีธรรมมาร้อยเรียง ไหลออกมาไม่ขาดสายเช่นนี้ได

มันผ่านเหตุปัจจัย มามากหลาย ไม่ใช่จู่ๆ มันจะมานั่งโม้ได้โดยใช้ความคิดเอา หรือลอกเอา เพราะทุกคนที่มาฟังธรรม ย่อมมีปัญญา รู้ว่า อะไรเป็นอะไร ไม่ใช่ใครที่ไหน พูดอะไร แล้วทำให้ใจเราเชื่อได้ เพราะความเป็นแค่ผู้ถากหัวนั้น มันหลอกกันไม่ได้

ความรู้ทางโลก มันมีมันสมอง ที่ทันกัน ยิ่งผู้คนในสายบุญญพลัง แต่ละคน มีจริตตรง มาทางปัญญาธิกะ คือผู้ที่รู้และเข้าใจธรรมได้อย่างรวดเร็ว แค่อาศัย การฟังและพิจารณาตาม ตรงนี้ คำพูดและธรรมอะไร มันหลอกกันไม่ได้ ปัญญามันรู้ๆ กัน มันทันกัน

หากผลแห่งธรรมที่แสดง มันขาดเหตุและผลหรือแย้งกัน ใจพวกเรา มันก็จะรู้ และเท่าทัน ในธรรมที่แสดงออกเป็นผลนั้น แต่นี้ธรรมมันแสดงตัวอยู่ นี่คือผลที่เราเสพอยู่

 

ฉะนั้น การได้ธรรมเช่นนี้มัน ย่อมต้องเอาชีวิต และใจ เข้าไปแลก คนที่อยู่ๆ มาฟังธรรม หากว่าเขาขาดความศรัทธา เพราะไม่รู้ที่มา เขาก็อาจไม่ชอบใจ เพราะมันค้านและทวนกระแสใจ ที่เขาได้ยึด ในตำรา

 

ผลที่แสดงออกมานี้ เหล่าผี เขาย่อมรู้ดี เพราะกระแส แผ่ออกไป มันเป็นตัวฟ้องว่า ข้ากำลังผ่านเส้นทาง ที่เขาเฝ้ารออยู่ ทีนี่ ปัญหาที่ผ่านๆ มา เท่าที่เจอ ก็คือ การกักตัวข้า ให้หยุดอยู่ เพื่อได้แผ่เมตตาจิต ในแต่ละสถานที่ ตรงนี้ ทำให้ข้าเกิดปัญหากับการไปไหนมาไหน ในยามค่ำคืน

เพราะผีมักจะกักให้อยู่ ไม่วิธีใดก็วิธีหนึ่ง สัญญาของเขา จะเริ่มแรงกล้า เมื่อพระอาทิตย์ ตกดินไปแล้ว คราวนี้ เมื่อจำเป็นต้องออกไปยามค่ำคืน ในแผ่นน้ำที่แสนกว้าง มันก็เหมือนล่องลอย อยู่เหนือ สุสานป่า ที่เคยเป็นดงทึบ ในแต่ละที่ ย่อมมีผี ที่เราเรียกว่า รุกขเทวดา เขาคอยต้อนรับ

บางที่ คอยกระทืบ เมื่อข้าไป มันก็มี ไอ้พวกที่คอยกระทืบข้านี้ มันไม่ยอมรับผลแห่งกุศลจริงหรอก จะบอกให้ เราอย่าไปคิดว่า เมื่อเราต้องเผชิญกับสิ่งเร้นลับ แล้วเราแผ่เมตตา แล้วเขาจะได้รับและผ่านอุปสรรค ใดๆ ได้ ไม่ใช่อย่างนั้น เสมอไป

บางครั้ง ผีพวกนี้ มาหาเรื่อง มันไม่ได้ผ่านมาเอาบุญ เอากุศล ยิ่งแผ่ให้มัน มันก็เหมือนเป็นการดูถูกมันอีก มันมีทิฏฐิ ของมันอยู่ ใช่ว่า เราจะแผ่เมตตาอย่างเดียวแล้วทุกอย่าง นะดี อย่างที่เรายึด ข้านี่เจอกันจะๆ หากเขาไม่ยอมลง ให้ เขาไม่ยอมรับ และจะเพิ่มความโกรธแค้น ขึ้นไปอีก หาว่า เรานี้ ทำร้ายเขา มันมีอย่างนี้

อารมณ์ที่แผ่ออกไป มันกลายเป็นหอกดาบ วิ่งไปทิ่มแทงใจเขา นี่..ข้าเคยเผชิญมา โอ้..นี่ สามทุ่มแล้ว หากพูดเรื่องผีเมื่อไหร่ แหม…พวกเรามันหู กระดิก คืนนี้ พอแค่นี้ก่อน พรุ่งนี้ ค่อยมาโม้ใหม่ สำหรับคืนนี้ ขอสวัสดี…

พระธรรมเทศนา ณ วันที่ 1 พฤษภาคม 2557 โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง