…หวัดดี ทุกๆ คน วันนี้ เราจะโม้เรื่องอะไรดี เมื่อคืนนี้ ข้าได้นำพวกน้องๆ ทหารเรือ และน้องๆ เราสามสี่คน ไปล่องเรือ ในเขื่อนใหญ่ เราออกไปทำธุระกันธรรมดา ที่นี่ หากตกกลางคืนแล้ว ข้าจะไม่ให้ใครออกไปไหน โดยการขับเรือแพออกไป เพราะมันอันตราย ที่เราไม่คาดคิด มันมีมากมาย
ท่ามกลางเวิ้งน้ำที่กว้างให
สิ่งทั้งหลาย กล่าวมา มันมีของมัน แต่มันยังมีที่ลึกลงไปยิ่งก
การส่องไฟช่วยอะไรไม่ได้ ไฟที่ส่อง มันแค่ฉายเข้าไปในความมืด มันไม่มีอะไรทีจะไปจับต้อง มันก็ย่อมเห็นแต่ความมืด ยิ่งฉายไฟ เราก็ยิ่งมองไม่เห็นอะไร เรามักจะไปยึดตรงที่ว่า หากมืด เราก็เปิดไฟ ไฟมันใช้ได้ ก็เฉพาะ ส่องวัตถุ ที่มันมีตัวตน แต่กับอากาศ และผืนน้ำกว้างใหญ่ มันมองอะไรไม่เห็น
การเปิดไฟ ยิ่งทำให้ไม่เห็นอะไรเลย นอกจากความมืดๆๆๆ ทีนี้ ในความมืดเหล่านี้ มันก็มีอะไรซ่อนอยู่ ในเวิ้งน้ำที่เราผ่านนั้น มันมีอาณาเขต แห่งผี
ทีนี้ เมื่อเข้าไปผ่านไปในแต่ละเข
ในแต่ละที่ จะไม่เหมือนกัน แต่หากกำหนดจิตจับกลิ่นเหล่
บางที่แรงจัด บางที่เบาบาง สำหรับตัวข้านี้ มันมีความแรงแห่งกระแสสูง เหตุเพราะ ได้กระจายจิต แผ่เมตตา ออกไปถี่ เป็นเวลาหลายต่อหลายปี และกำลังที่ แผ่ออกไปนั้น เต็มกำลัง เพราะอาศัยใจที่เป็นสมาธิ แผ่ออกไป กระแสใจ เมื่อไปในที่ไหนๆ บนโลก ย่อมได้รับการต้อนรับ
ที่นี่ก็เหมือนกัน เมื่อข้าได้ออกไปไหนยามค่ำค
ด้วยเหตุปัจจัย คือ สถานที่ คน วิญญาณ กรรม และวิบาก มันอาศัยรวมกันพอดี ด้วยความธรรมดาของมัน เป็นไปตามธรรมชาติ ในนิยามแห่งธรรม ที่มีสัญญาผูกพันต่อกัน สำหรับข้านี้ การที่จะมีธรรมมาร้อยเรียง ไหลออกมาไม่ขาดสายเช่นนี้ได
มันผ่านเหตุปัจจัย มามากหลาย ไม่ใช่จู่ๆ มันจะมานั่งโม้ได้โดยใช้ควา
ความรู้ทางโลก มันมีมันสมอง ที่ทันกัน ยิ่งผู้คนในสายบุญญพลัง แต่ละคน มีจริตตรง มาทางปัญญาธิกะ คือผู้ที่รู้และเข้าใจธรรมไ
หากผลแห่งธรรมที่แสดง มันขาดเหตุและผลหรือแย้งกัน
ฉะนั้น การได้ธรรมเช่นนี้มัน ย่อมต้องเอาชีวิต และใจ เข้าไปแลก คนที่อยู่ๆ มาฟังธรรม หากว่าเขาขาดความศรัทธา เพราะไม่รู้ที่มา เขาก็อาจไม่ชอบใจ เพราะมันค้านและทวนกระแสใจ ที่เขาได้ยึด ในตำรา
ผลที่แสดงออกมานี้ เหล่าผี เขาย่อมรู้ดี เพราะกระแส แผ่ออกไป มันเป็นตัวฟ้องว่า ข้ากำลังผ่านเส้นทาง ที่เขาเฝ้ารออยู่ ทีนี่ ปัญหาที่ผ่านๆ มา เท่าที่เจอ ก็คือ การกักตัวข้า ให้หยุดอยู่ เพื่อได้แผ่เมตตาจิต ในแต่ละสถานที่ ตรงนี้ ทำให้ข้าเกิดปัญหากับการไปไ
เพราะผีมักจะกักให้อยู่ ไม่วิธีใดก็วิธีหนึ่ง สัญญาของเขา จะเริ่มแรงกล้า เมื่อพระอาทิตย์ ตกดินไปแล้ว คราวนี้ เมื่อจำเป็นต้องออกไปยามค่ำ
บางที่ คอยกระทืบ เมื่อข้าไป มันก็มี ไอ้พวกที่คอยกระทืบข้านี้ มันไม่ยอมรับผลแห่งกุศลจริง
บางครั้ง ผีพวกนี้ มาหาเรื่อง มันไม่ได้ผ่านมาเอาบุญ เอากุศล ยิ่งแผ่ให้มัน มันก็เหมือนเป็นการดูถูกมัน
อารมณ์ที่แผ่ออกไป มันกลายเป็นหอกดาบ วิ่งไปทิ่มแทงใจเขา นี่..ข้าเคยเผชิญมา โอ้..นี่ สามทุ่มแล้ว หากพูดเรื่องผีเมื่อไหร่ แหม…พวกเรามันหู กระดิก คืนนี้ พอแค่นี้ก่อน พรุ่งนี้ ค่อยมาโม้ใหม่ สำหรับคืนนี้ ขอสวัสดี…
พระธรรมเทศนา ณ วันที่ 1 พฤษภาคม 2557 โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง