ร่างทรงผีหรือเทพ

ร่างทรงผีหรือเทพ

241
0
แบ่งปัน

*** “ร่างทรงผีหรือเทพ” ***

ขอสาธุคุณหวัดดี

เรื่องร่างทรงนี่ อยู่คู่กับคนไทยมาอย่างยาวนาน

บ้านเมืองเรานั้น ต่างนับถือผีมาก่อน

การจำนนต่อสิ่งที่มองไม่เห็นนั้น

มันเป็นเรื่องธรรมดาของชีวิตเรา

พลังงานต่างๆ ในแง่จิตนิยามนั้นมันมี

แต่การมีนั้น เมื่อขาดปัญญาและงมงาย

เรานั่นแหละจะเป็นลูกค้า

ให้แก่พ่อค้าแม่ค้าคนกลางทั้งหลายเขาได้หากิน

ร่างทรงนั้น มักแต่งตัวแปลกๆ

ทำท่าทางแปลกๆ คนปกติธรรมดาเขาไม่ทำกัน

ทำหน้าตาแปลกๆ ทำเสียงแปลกๆ สร้างปาฏิหาริย์แปลกๆ

เช่นนี้เพื่อเรียกศรัทธาของหมู่เหล่าสาวก

ยุคนี้ มักจะกล่าวอ้างว่า มาช่วยโลกมนุษย์

กล่าวอ้างว่า อยากให้มนุษย์ได้มีธรรม

แค่มาเข้าทรงร่ายรำ ทำท่าแปลกๆ หน้าแปลกๆ

นี่มันทำให้ผู้คนงมงายกะท่าทาง และพฤติกรรม มันจะเป็นธรรมกันตรงไหน

ร่างทรงจะมาช่วยอะไรได้

ในเมื่อร่างทรงเองก็ยังยึดหลงงมงายอยู่

ธรรมซักตัว ก็ไม่กระดิกหู มีแต่ขอให้เชื่อกูๆ

ถ้ารู้ธรรมจริง มันก็จะไปสู่สุคติ ไม่ต้องมาลงแฝงในร่างคนเพื่อทำมาหากิน

บางตำหนัก ก็หนักไปในทางทำท่าทางแปลกๆ

เหล่าสาวกก็ยกมือท่วมหัวประลกๆ

ทำเสียงอู้อี้ ถลึงตา วาดลวดลาย กวาดไม้กวาดมือ

จริงๆมันเป็นอาการของคนบ้าโรคจิตน่ะ

คนดีเขาไม่ทำกัน

ลงประทับร่างเสร็จกินหมากบ้าง นู่นนี่บ้าง

เหมือนมาแสดงมายากลให้ดู

เสร็จแล้วก็จากร่างไป ไม่มีเหี้ยอะไรที่จะมาช่วยใครได้เลย

เหล่าสาวกก็พากันนอบน้อมแหละ

ศรัทธามากก็จ่ายมากแค่นั่นเอง

นัยว่าจ่ายแล้วตนจะร่ำรวยขึ้น

โง่น่ะ ตามสิ่งเหล่านี้

เทพเทิบไม่มี ที่มี มีแต่ผีทั้งนั้น

ข้านี่เจอเหล่าพลังงานมามากต่อมาก

มาแฝงกายน้องๆข้าก็เยอะ

อาทิษมารกายเหล่านี้นี่มี

แต่เขาก็อยู่ในเขตแดนของเขา เท่าที่วิบากจะอำนวย

ที่มาสิงมาแฝงเพื่อจุดประสงค์สิ่งใดสิ่งหนึ่งนี่ก็มี

แฝงแล้วก็จบไปจากไป

ไอ้ที่เร่ร่อนไร้ที่อาศัยนี่ก็มี

ร่อนไปเร่มา พอได้แฝง มีผู้คนเคารพนับถือ

กิเลสตัณหามันก็เกิดแหละ

ทีนี้มันมาบ่อยเลย ถ้าร่างยังมีสัญญากับมัน

อยู่ๆไป ก็เป็นเจ้าพ่อเจ้าแม่ นั่น นู่ นี่กันไป

สร้างตำหนักหาสาวกกันใหญ่ แล้วอ้างว่า ลงมาโปรดลูกโปรดหลาน เป็นเทพยิ่งใหญ่ไปนู่เลย

คนฉลาดนั้น มันไม่ต้องมาร่ายรำ ทำหน้าพิลึก สร้างท่วงท่าหลอกลวงใครให้เขาเชื่อว่าตนเป็นนั่น นู่ นี่หรอก

ข้าเองก็เคยเจอ เป็นวิญญาณฤษี จู่ๆก็มาแฝงคนของข้าที่วัดถ้ำผาพิรุณ

นั่นแค่มาแสดงเพื่อทำการต้อนรับข้า และเชื้อเชิญให้ข้าแสดงธรรม เพื่อเป็นกุศลต่อวิญญาณพวกเขา

ไม่เห็นว่าเขา จะมาแฝงร่างเพื่อมาแสดงธรรมให้ข้าฟัง

เพื่อนเอ๋ย..ถ้าผีที่มาแฝงร่าง เป็นผู้เข้าถึงความดีแห่งธรรม

พวกเขาก็คงไม่ต้องมาใช้คำอ้าง ว่าลงมาเพื่อสร้างบารมี

ผู้มีบารมี มีธรรม ไม่ลงมาเสือกในโลกมนุษย์เช่นนี้

ที่ลงมาเสือกนี่ ผีเร่ร่อนทั่วไปทั้งนั้นแหละ

รู้สึกอะไรไหม ว่าทำไมร่างทรง ถึงได้แต่งตัวแบบตัวละครในรูปวาด

อย่างเทพนี่ ต้องแต่งตามลักษณะของอินเดีย

อย่างหนุมาน ซึ่งเป็นเรื่องแต่ง ก็ดันมีวิญญาณเทพหนุมาน

อย่างพระแม่อุมา พระศิวะ พระพิฆเนศ หรืออะไร

สิ่งเหล่านี้เป็นสมมุติขึ้นมาเพื่อตั้งนามและเป็นที่ตั้งแห่งใจ

แต่เหล่าร่างทรงก็มักอ้างสิ่งเหล่านี้ เพื่อความศรัทธาของหมู่คน

และอ้างตนว่าเป็นพระผู้เป็นเจ้าเหล่านี้ ลงมาโปรดโลก

คนนี่..มันก็โง่หลายนะ

อย่างร่างปู่ฤษีนี่ ต้องใส่ชุดลายหนังเสือ

ซึ่งจริงๆแล้ว ห่มหนังเสือนี่ มันเป็นคำแต่งของนิทานและพวกลิเก

เขาแต่งคำให้เห็นว่า ฤษีอยู่ป่าต้องห่มหนังเสือเท่านั้น ห่มหนังกวาง หนังหมี หนังช้างอะไรไม่ได้

ทีนี้ ฤษีเมืองไทยต่างก็ต้องห่มหนังเสือ

ถ้าไม่ห่มหนังเสือ ก็จะไม่ใช่พวกฤษี

นี่แหละ..งมงายตามๆกันมาจากนิทาน และเรื่องเล่า

เลยกลายเป็นการแต่งกายเลียนแบบนวนิยาย และลิเกกันไป

ยายข้าก็เป็นร่างทรง เชิญมาทรงแล้วนั่งนิ่งๆ ถามว่าเรียกมาทำอะไร

พวกผู้ใหญ่ก็จะถามในสิ่งที่ตนสงสัย เช่นของหาย ป่วยรักษาหมอไม่หาย

หรือโดนลมเพลมพัด วิกลจริต บ้าใบ้ โดนผีโดนของ

เขาจะเข้าทรงแล้วให้พ่อทวด หรือพ่อเฒ่าเป็นผู้แก้

หายมั่งไม่หายมั่งก็ว่ากันไปตามกำลัง นี่เขาเชื่อตายายที่เป็นผีกัน

ส่วนร่างทรงที่เป็นศาล มีการตีกลอง ตีฉาบเป็นการทรงแบบจีน

ทรงแล้วพูดภาษาจีน ทรงแล้วแสดงปาฏิหาริย์ต่างๆ

เช่นเอามีดฟันตัวฟันหลัง เอาเหล็กแหลมแทงปากแทงเนื้อ ลุยไฟ เดินบนมีด นั่งบนตะปู ฯ

ผู้คนก็อู้หู้ ข้านี่ก็ชอบไปดู ไปขอเต่าถวายที่เป็นขนมมากินเป็นตัวๆ

ร่างทรงมาแสดงปาฏิหาริย์ให้ดู ให้หวยมั่ง รักษาคนป่วยมั่ง ถูกบ้างผิดบ้าง หายบ้าง ไม่หายบ้าง ก็ว่าๆกันไป

ผู้คนก็พากันทำบุญ มีเงินเข้าศาล เป็นการเชื่อผี ว่าจะให้คุณ เงินสะพัดดีทีเดียว

คนเรานั้นไม่ฉลาดนัก ไปหวังไปพักพิงพึ่งพากับสิ่งเหล่านี้

มันทำให้เราสมองฝ่อ งอมืองอเท้าสวดมนต์อ้อนวอน บนบาลศาลกล่าว จากสิ่งที่ผิดไปจากชีวิตที่เป็นธรรมดา

อยู่ด้วยความคาดหวังว่าเราจะรวย เจ้าต้องช่วยเราได้ ชีวิตจะดีขึ้น

เรายอมจำนนต่อสิ่งเหล่านี้ด้วยความคาดหวัง

ให้ลูกให้หลานคาดหวังตาม สืบทอดต่อๆกันไป

เทพที่แต่ตัวประหลาดๆ ทำท่าทางประหลาดๆ ทรงเจ้าแม่กาลี แลบลิ้นกันมันแพล็บ

เจ้าแม่มีกันเป็นพัน เหนือ ใต้ กลาง ตะวันออกก็มี

ห่มส่าหลี เต้นทำพุงพะเยิบพะยาบ เป็นผีอินเดียท่าทางยังกะตลกคาเฟ่

เทพมาทำท่าทางเช่นนี้ เสียเกียรติภูมิเทพหมด

มันเหมือนคนบ้าวิปลาศ แต่งตัวแสดงออกท่าทางเพี้ยนๆ

คนเพี้ยนๆ จะมาโปรดสัตว์ช่วยเหลือโลกมนุษย์ ใครเชื่อมันก็บ้าแล้ว

พลังงานวิญญานน่ะมี แต่เป็นผีทั่วไปที่ตนนับถือเทพเหล่านี้นี้แหละ

คือโง่มาตั้งแต่เป็นมนุษย์ พอตายไป ก็ไปทึกทักว่าตนเองนั้นเป็นเทพนั่น นู่ นี่

มันเป็นการปรุงแต่งภวังค์แห่งตนน่ะ อาศัยรูปของผู้มีสัญญาต่อกันแสดงออกมา

ทุกคนมีวิบากเป็นของตนเอง ไม่มีใครมาดลบันดาลให้ได้หรอก

เลิกโง่และคาดหวังจากกรรมพิธีซะที มองโลกและยอมรับตามความเป็นจริงเถิด

วันหนึ่งตายไป ดีไม่ดีอาจมาเป็นผีแฝงร่างมาเป็นร่างทรงหลอกตนเองและผู้อื่นอีก

เรื่องจิตวิญญานนั้น มันซับซ้อนเกินเราเข้าใจ

แต่ยังไงก็ขอให้เรายืนด้วยตัวเราเอง อย่าไปพึ่งหวังจากสิ่งเหล่านี้เลย ส่วนใหญ่หลอกลวง..

พระธรรมเทศนา ณ วันที่ 6 มิถุนายน 2561

โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง