พระธรรมวินัย และภิกษุณี ที่หายไป

พระธรรมวินัย และภิกษุณี ที่หายไป

240
0
แบ่งปัน

พระธรรมวินัย และภิกษุณี ที่หายไป>>คำถาม : ถามหลวงพี่ท่านว่า พระที่ใช้ Software ละเมิดลิขสิทธิ์ นี่ปาราชิกไหมครับท่าน

<<พระอาจารย์ : ท่าน..พืชพลังงาน และการเมืองไทย..!!

คำว่าปาราชิกนี่ มันเป็นนัยยะธรรมที่เกี่ยวกับเจตนาจากใจ

หนึ่งในนั้นคือ การขโมย

การขโมยนี้ มีตั้งแต่เจตนาเล็กๆ ไปจนถึงมหภาคแห่งเจตนา

หากเล็กน้อย ไม่ได้สร้างความเดือดร้อนใจให้แก่ใคร แก่เจ้าตัว หรือแก่โลก

ก็ไม่ถือว่าเป็นการขโมยที่เข้าข่าย ปาราชิก

การขโมยเงิน เพียงเล็กน้อย ท่านก็ยกให้ว่า ไม่ใช่ปาราชิก

แต่หากเป็นจำนวนมาก นี่เป็นปาราชิก

คำว่าปาราชิกนี่ คือความพ่ายแพ้ เป็นใจที่พ่ายแพ้

ใจเช่นนี้ไม่สามารถบรรลุมรรคผลได้ เพราะความพ่ายแพ้ที่ไม่ตั้งมั่นแห่งตนเป็นเหตุ

เป็นใจที่หนักมาทางอกุศลจิต จึงเป็นใจที่ขาดจากความเป็นพระ คือความที่มีใจอันประเสริฐ

เรื่องปาราชิก เป็นเรื่องเจตนาของเจ้าของเป็นเหตุ ไม่ใช่คนอื่นมายัดเยียดว่า

คนนั้นคนนี้ ปาราชิก

ในทางสงฆ์ หากละเมิดในสี่ข้อหลักที่ชัดเจน ถือว่าเป็นผู้มีใจ อันปาราชิก

คนที่มีใจปาราชิก แม้ผู้อื่นไม่รู้ แต่เจ้าตัวจะรู้ เมื่ออยู่ทำสังฆกรรมกับพระผู้ทรงศีล

พวกที่ใจปาราชิก จะมีนรกเป็นที่ไป เพราะเป็นใจที่เป็นโจร เกาะหากินศรัทธาจากผู้คนเลี้ยงชีพ…

>>คำถาม : วัดไหน พระใช้คอมพิวเตอร์ แล้วลงวินโดว์ ปลอม ก็ขโมยทรัพย์สินทางปัญญาของเจ้าของลิขสิทธิ์ เมืองไทยคงไม่มีสงฆ์แล้วละท่าน

ปกติสงฆ์ก็อยู่กันมาได้หลายพันปี แต่พอมี internet พระท่านใช้คอมพิวเตอร์ลงวินโดว์ปลอม มันคือการขโมยใช้จากเจ้าของลิขสิทธิ์ ซึ่งเป็นเจตนาอันแรงกล้าเพราะต้องซื้อคอมพิวเตอร์มาเป็นหมื่นแต่พระท่านก็ประหยัดค่าวินโดว์หลักพันบาท
แบบนี้ใจเป็นปาราชิก ที่ผมนำเสนอเรื่องนี้ก็สุ่มเสี่ยงกับอนันตริยกรรมพอดูนะท่าน แต่เราต้องสังคายนาพระไทย คัดพวกปาราชิกออกได้แล้ว

แล้วท่าน ธรรมกะ บุญญพลัง ใช้วินโดว์ ไรอยู่ครับ ส่วนผม ใช้ โทรศัพท์ post ครับ ฮิๆๆๆ ไม่มีใจเป็นปาราชิกครับ สาธุครับ ที่ท่านให้คำวินิจฉัยเป็นธรรมทานต่อกระผม ขอให้ท่านเห็นโสดาบันธรรมเร็วๆ นะขอรับ

ตามกฏหมายมหาเถรสมาคม เราจับสึก พระที่พิสูจน์ได้ด้วยตาเนื้อ ได้นี่ท่าน ช่วยดึงพวกเขาออกจากขุมนรก ได้ก่อนที่พวกเขาจะลาโลกเชียวนะท่านนะ แต่คาดว่าถ้านำเรื่องนี้ขึ้นศาลปกครอง ผมว่าวัดไทยร้างเอาเลยนะท่าน นรกหรือมรรคมีองค์แปดละที่นำเสนอเรื่องนี้นะ

<<พระอาจารย์ : พืชพลังงาน และการเมืองไทย … ท่านพูดอย่างไม่เข้าใจ

ท่านจะไปกล่าวตู่ว่า ใครปาราชิกนั้นไม่ถูก ทุกคนที่บวชเขาก็ว่ากันไปตามเหตุปัจจัย

หากเจตนานำมาใช้ คนส่วนใหญ่ไม่เดือดร้อน เป็นอาบัติเบา ไม่เรียกว่า ปาราชิก

เออ..ถ้าขโมยเกี่ยวกับทรัพย์สินที่มีมูลค่า ทำให้คนเขาเดือดร้อน นี่ก็ไปวินิจฉัยกัน

พระที่ใช้คอม ใช่ว่าจะรู้ว่าไหนแท้ไหนปลอมกันทุกคนไป พระในเมืองส่วนใหญ่ก็ใช้กันทั้งนั้น มันเป็นเรื่องของโลก ท่านใช้ตามโลก

เราจะไปตีขุมว่าพระทั้งหมดใช้ก็ไม่ได้

ที่นี่ก็ไม่ได้ใช้ ไฟไม่มี ที่ใช้แจกจ่ายธรรมนี่ น้องๆ มันซื้อโทรศัพท์มาให้

ซื้อแบตเตอร์รี่มาชาร์จให้ วินด้งวินโดว์อะไรไม่รู้จัก

หากไม่มีโทรศัพท์ใครมาก็ว่ายน้ำเข้ามาซิ 3 กิโล

เมื่อมีก็ใช้ให้มันเป็นประโยชน์ เราจะไปเอาข้อธรรมมาอ้างโน่นอ้างนี้มันไม่ถูก

สงฆ์ที่ อยู่เพื่อพระสัจธรรมก็มี

สงฆ์ อยู่เพื่อแสวงหาสัจธรรมก็มี

สงฆ์ อยู่เพื่อเผยแผ่สัจธรรมก็มี

สงฆ์ อยู่เพื่อประทุษร้ายสัจธรรมก็มี

มันมีมาตั้งแต่โบราณกาลแล้ว

ใครจะเลือกเป็นสงฆ์แบบไหน มันก็เรื่องของแต่ละสงฆ์

วิบากใครวิบากมัน พุทธศาสนาท่านชี้ ท่านไม่ได้ห้าม

ทุกคนมีสิทธิ์เสรีที่จะเลือกทางเดิน

จะไปนรกหรือสวรรค์ เราเจ้าของเป็นผู้เลือก

นรกสวรรค์ไม่ได้เกิดจากผู้ใดเข้าไปเสือก

เรา..ดูแลใจเราเองให้ดีๆ นี่ซิ โลกเขาสาธุโมทนา

คนดีไปชี้คนอื่นเหี้ย มันก็เหี้ยอีกตัวที่มันตัวใหญ่กว่าเหี้ยที่ชี้

เอาเหอะ เหี้ยที่รู้ตัวว่าเหี้ย ท่านว่า มันยังพอเป็นหงส์ บินทะยานขึ้นฟ้าได้

ส่วนหงส์ที่ใจเหี้ยนี่ซิ ชาตินี้อยู่อย่างเหี้ยๆ ไม่ต้องบิน

ขอเป็นกำลังใจนะครับ เราคุยกันหนุกๆ ตามจริตวิสัย..

เรื่องวินโดว์อะไรนี่ ผู้ที่มีเจตนากระทำเพื่อลดค่าใช้จ่าย หรือนำมาใช้ไม่ถือว่าปาราชิก มันก็เหมือนการฆ่าสัตว์

เขาฆ่ามาขายอยู่แล้ว เราจะซื้อหรือไม่ซื้อ กินหรือไม่กิน เขาก็ฆ่านำมาขายและมีอยู่เต็มตลาดอยู่แล้ว

เพียงแต่ผู้กิน หากไม่ได้ไปซื้อที่เขาฆ่ามาขาย แต่ดันไปสั่งให้เขาฆ่า เจตนาฆ่า รู้เห็นเป็นใจในการฆ่า อย่างนี้ซิ.. เรียกว่าใจที่เป็นบาปอันเกิดจากความอยากที่เกิดเจตนาชั่วจากเจ้าตัว

เรื่องวินโดว์อะไรนี่ก็เหมือนกัน ใครจะก๊อบไม่ก๊อบ โลกเขาก็ก๊อบกันโดยปกติกันอยู่แล้ว เขาไม่ได้ก๊อบเพราะเกิดจากเราต้องการเพียงคนเดียวซักหน่อย พอเข้าใจไหม..

>>คำถาม : กราบนมัสการพระอาจารย์ โยมข้องใจอยู่เรื่องหนึ่งเหตุใดสมัยโน้นผู้หญิงเมื่อถือครุธรรม 8 ประการ ได้จึงได้บวชเป็นภิกษุณี แล้วใยมิเคยได้พบเจอภิกษุณีในปัจจุบัน ถึงมีก็น้อยมากที่โยมได้ค้นหาในอินเทอร์เน็ตมา ขอความกระจ่างด้วยเจ้าคะ

<<พระอาจารย์ : อิ่ม บุญ…

สมัยก่อนโน้น ครุธรรมแปดประการ พระพุทธองค์ทรงตรัสเพื่อเป็นเขื่อนกั้นเหล่ามาตุคาม คือ ผู้หญิงที่จะเข้ามาบวช

ทีนี้ เมื่อผ่านมาในยุคหลังๆ เหล่านักแปล มันไปแปลตรงคำตรัสที่ว่า

เมื่อมีมาตุคามเข้ามาอยู่ในสัจธรรมที่เราได้ประกาศออกไป 1,000 วัสสา หรือ 1,000 ปี ก็จะเหลือแค่ 500 ปี

นี่..มันมาจับใจความตรงนี้ ทำให้เหล่าเกจิอาจารย์ที่ไม่ปราดเปรื่องในคำตรัสและนัยยะธรรม รังเกียจมาตุคาม

เพราะเป็นสาเหตุทำให้สัจธรรมถดถอยลงไปเหลือ 500 ปี

นี่..ตรงนี้เป็นเหตุหนึ่งที่เหล่าคนโง่ๆ ตีความ และทำให้ภิกษุณีเริ่มสูญหายไป และไม่ได้รับการยอมรับมากขึ้นเรื่อยๆ

ทั้งๆ ที่ ศีล 311 ข้อของภิกษุณี ก็ยังคงมีอยู่ในพระธรรมวินัย

นี่แหละ พวกมากเรื่องมากความ เรียนมากรู้มากวินิจฉัยมาก สงสัยมาก มรรคผลจึงไม่เกิดขึ้นกับใจ

และเหตุนี้ จึงเป็นที่มาของการมีพุทธศาสนา 5,000 ปี ให้เป็นอุปาทานของพวกบ้าวิชา

ขยายคำแห่งการที่พระพุทธองค์ได้ทรงตรัส ให้ความหมายไม่ถูก

ในบาลีท่านจึงใช้คำว่า “เนยยัตถะ” คือคำที่จะต้องมีผู้อธิบาย

แต่ผู้อธิบาย เอาโคตรพ่อโคตรแม่มันมาอธิบาย พุทธศาสนาจึงมีอายุแค่ 5,000 ปี ตามคำบอกเล่าสืบๆ ต่อๆ กันมา

นี่เพราะการตีความในเรื่องมาตุคามเข้ามาบวช คือพระนางปชาบดีโคตมี มาเป็นเหตุแห่งการบวช

เมื่อพระอานนท์ร้องขอ พระองค์ท่านจึงให้เหตุให้ผล

ที่สุด… ก็ทรงอนุญาต แต่ภิกษุณีทั้งหลาย จะต้องรักษาและมั่นคงในครุธรรมแปดประการ

เมื่อพระนางปชาบดีฯ ตอบตกลง พระพุทธองค์ท่านก็ทรงอนุญาต ภิกษุณี ก็จึงมีกำเนิดเกิดมานับแต่นั้น

และเรื่องพุทธศาสนา 5000 ปี ข้าก็ลงไปแล้วถึง สามตอน ไปหาฟังกันเอาเอง

เที่ยงนี้ ข้าจะเข้ากรุงเทพแล้ว มีอะไรมาคุยกันสดๆ เลย ที่กรุงเทพ ได้รู้ได้ฟังกว้างขวางกว่าเยอะ เที่ยงนี้สวัสดี

*****************************************

พระธรรมเทศนา จากบทธรรม เรื่อง พุทธศาสนา 5,000 ปี ตอนที่ 2
ณ วันที่ 21 ตุลาคม 2557
โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง