แหกกฏ

แหกกฏ

319
0
แบ่งปัน

*** “แหกกฏ” ***

อาจมีคำถามจากเด็กคนหนึ่งว่า

” ทำไมกุต้องตัดผมสั้นผมเกรียนด้วยวะ มันเกี่ยวกับผลการเรียนกันตรงไหน

มันดูเป็นวัฒนธรรมที่งี่เง่า เด็กฝรั่งไม่เห็นต้องตัดต้องเกรียนกันเลย เขาก็มีความคิดความฉลาดเหนือเด็กเรา ”

“” ไอ้หนูเอ้ย ตัดผมสั้นตัดผมเกรียนน่ะ มันไม่เกี่ยวกับผลการเรียนหรอก

แต่มันเป็นการฝึกให้แกน่ะ หัดยอมรับกฏของสังคม ยอมรับวินัย ยอมรับสิ่งที่แกไม่ได้ดั่งใจ เพื่อเตรียมใจเตรียมพร้อมตั้งแต่วัยเด็ก ให้หัดอยู่ร่วมได้กับสังคม เมื่อถึงวันเวลาที่แกเจริญเติบโตขึ้นมา

คนเรานั้น มันมองเห็นแค่ความคิดตน ว่าตนนี่ มันคิดถูก

มักมองเห็นสิ่งอื่นที่ดูไม่เข้าท่า ตามตรรกะมัน นั่นไม่สมควร นั่นมันเกี่ยวอะไรกับการดำเนินชีวิต

และมักมีแต่ปัญหากับความคิดตน เพราะเหตุแห่งไม่ลงรอยกับความคิดผู้อื่น ด้วยคำถามว่า ทำไมๆๆๆๆ

เด็กคนหนึ่ง บอกว่า มันได้ยินเพลงชาติแล้วคลื่นใส้ สะอิดสะเอียนในการที่จะต้องมายืนทำความเคารพบทเพลง

การหมอบกราบ การไหว้ครู การทำพิธีกรรมต่างๆ ดูมันไม่เข้าท่า

เอ..แล้วไอ้ที่มันมาวิจารณ์สังคมที่เขาทำกันมานี่ มันเข้าท่านักแล้วรึ

ดูอย่างคนฉลาด มันก็ดูเหมือนว่า ทำอะไรกันวะ ไม่เห็นจะสำคัญอะไรเลยต่อชีวิตกุ

มองกว้างๆซิ..อย่ามองแค่จากรูแคบๆของตน

สังคมที่หล่อหลอมและเป็นอยู่ยืนยาวมาได้ ก็อาศัยเปลือกเหล่านี้แหละห่อหุ้มไว้

ความเป็นไทยนี่ มันยืนยงมาได้ ก็เพราะอาศัยประเพณีที่มันสมมุติขึ้นมากันนี่แหละ

ประเทศอื่นก็เหมือนกัน ประเพณีใครประเพณีมัน

การนอบน้อมต่อผู้ใหญ่ มันเป็นความภาคภูมิใจของผู้น้อย ที่ได้กระทำ

นี่เป็นผู้ที่จะเจริญต่อไปในสังคม วันหนึ่งเป็นผู้ใหญ่ ผู้น้อยกว่าเราเขาก็ให้ความเคารพเราเช่นกัน

เรากราบแม่ กราบครู เรากราบคุณของท่าน คุณค่าของท่านมันยิ่งใหญ่ กราบได้อย่างหมดใจ

เรากราบพระพุทธ กราบเจดีย์ ไม่ได้กราบอิฐกราบปูน เรากราบคุณแห่งศาสดาผู้นำปัญญา

ท่ออันหนึ่ง ดูด้านหน้าก็เป็นทรงกลม นั่นมันก็ถูกสำหรับผู้เห็น

แต่คนด้านข้างเขาเห็นเป็นทรงกระบอกน่ะ เขาก็ถูกเหมือนกัน

ความเห็นความถูกต้องของแต่ละคน มันทะเลาะกันตาย ถ้าต่างไม่ฟังเหตุผลกัน

ความถูกต้องที่เรายึด มันไม่ใช่ความเป็นจริงน่ะ มันเป็นแค่ถูกในสิ่งที่เราเห็น

การตัดสินว่าสิ่งนั่นสิ่งนี่ ผิด ล้าหลัง ไม่ใช่ ไม่ควร นั่นมันถูกเราแหละ มันไม่ใช่ความเป็นจริง

คนเรามันมีหลายเหล่าดุจดอกบัว

จมใต้น้ำก็มี ปริ่มน้ำก็มี พร้อมบานก็มี บานแล้วก็มี

ถ้าคิดว่าบัวเราถูก บัวอื่นก็ผิดหมดแหละ ไม่แยกแยะว่ามันมีหลากหลาย

สังคมนั่นมันมีเปลือกห่อหุ้มรักษา เปลือกบางอย่าง มันก็ดูงี่เง่าแหละ

แต่เพราะเปลือกที่งี่เง่านี่แหละ ชาติไทยเราจึงเดินทางมาได้จนถึงวันนี้

คนฉลาดนั้นเขาไม่ได้กินเปลือกหรอก เขาแกะเปลือกเพื่อกินแต่เนื้อเยื่อ

เปลือกนั้นเขาทิ้ง แต่เนื้อเยื่อนั้น มันจำเป็นต้องมีเปลือกรักษา

เด็กบางคนนั้น มองไม่เห็นคุณค่าแห่งความเป็นเปลือก

มันมองแต่มุมที่มันเห็นว่า เปลือกมันแดกเข้าไปไม่ได้

ทำไมคนเราจะต้องไปใส่ใจเปลือกที่ดูงี่เง่าและไม่มีคุณค่า

เราซื้อมะพร้าวมาแกงกะทิ เราเอาเปลือกมาแกงกะทิด้วยรึเปล่า

ถ้าไม่เอามาแกง แล้วเราซื้อเปลือก ซื้อกาบ ซื้อกระลา ซื้อเนื้อ ซื้อน้ำมาทำไม

ในเมื่อเราสนใจและจะเอาแต่กระทิที่ซ่อนอยู่ในเนื้อมะพร้าว อย่างงี้ก็โง่ซิวะ

คนเราขอให้มองโลกตามความเป็นจริงซิ

เราอาจฉลาดรู้ว่าการแทะเสาปูนนี่ มันโง่หลาย

แต่สังคมเมืองเขาพากันแทะกันน่ะ เราฉลาดนัก ก็ไปอยู่รูคนเดียวไม่ต้องแทะซิ

คนฉลาดน่ะ มันก็แทะเสาปูนอย่างคนอื่นเขาแทะนั่นแหละ

แต่แทะด้วยความรู้ว่ามันโง่ กับคนอื่นแทะด้วยความไม่รู้ว่ามันโง่

ผลมันมีความเป็นอยู่ต่อชีวิตที่แตกต่างกัน

แบ้งค์พันมีคุณค่าต่อการดำเนินชีวิต มันก็คือกระดาษแผ่นหนึ่งนั่นแหละวะ

ลองเอากระดาษเอสี่ เขียนตัวเลขซักสิบล้านส่งให้ซิ

มันก็แค่กระดาษไม่มีคุณค่าอะไรนั่นแหละ อย่างดีก็ไว้เช็ดขี้ แสบตูดอีก

ชีวิตนั้นเราอยู่กับสมมมุติ อะไรๆเราก็สมมุติขึ้นมาให้เราได้รู้ว่าอะไรเป็นอะไร เพื่ออะไร ดำเนินอย่างไร

สมมุติน่ะ มันไม่จริงหรอก มันแทนค่าสิ่งที่เราเราต้องการรู้ต้องการสื่อ

บางพวกเขายังเอาฆวยมานับถือเป็นเทพเจ้าเลย คนฉลาดนักจะว่าอย่างไร

สังคมเขาว่าไง เราก็อยู่ไปเหอะในสังคม เพราะเรามันอยู่ในสังคม

ถ้าเราอยากให้โลกนี้เต็มไปด้วยสีเขียวดั่งใจเราด้วยความโลกสวยของเรา

มีแต่ไอ้บ้าเท่านั้น ที่คอยถือป๋องสีแต่งแต้มโลกทั้งใบให้มันกลายเป็นสีเขียวของคุณมึงที่อยากให้มันเป็นสีเขียว

จะง่ายกว่าไหม ที่จะใส่แว่นสีเขียว เพื่อดูโลกทั้งใบให้เป็นสีเขียวเฉพาะมึง มันจะได้ไม่ต้องไปเดือดร้อนใคร

เราเกิดมาเป็นคนไทย..ควรภูมิใจในความเป็นเรา อย่าแหกคอกแหกกฏสังคมไทยนักเลย..

พระธรรมเทศนา ณ วันที่ 7 มิถุนายน 2561

โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง