ผิดไม่ผิดกูขอด่าไว้ก่อน

ผิดไม่ผิดกูขอด่าไว้ก่อน

233
0
แบ่งปัน

**** “ผิดไม่ผิดกูขอด่าไว้ก่อน” ****

คนเรานั้น คาดไม่ถึงกันเสมอว่า

ความคิดกับความเป็นจริง มันคนละอย่างกัน

นักเลงคีย์บอร์ด มองจากจอที่เขาว่าๆกันมา

แล้วตนก็เอาสิ่งนั้นตัดสินเรื่องราวด้วยตรรกะแห่งตน

นั่นไม่ถูกนี่ไม่ถูก ประณามหยามเหยียดตามสันดานตน

ไม่ได้ตรึก ไม่ได้ตรอง ขอแค่สะใจ และว่าตามๆกัน

แสดงความเป็นคนดีและห่วงใยในภาพที่เห็น

แล้วกระหน่ำย่ำยี อีกฝ่ายที่กำลังกระทำ

มีผู้คนมากมายตกเป็นจำเลยของสังคม

เพราะสังคมมันป่วยยากจะเยียวยาหาความเป็นจริง

ขอให้ได้ด่า ได้ย่ำยีร่วมขบวนกันก่อน

ก่อนที่จะฟังการพิสูจน์เหตุพิสูจน์ผลว่าความจริงมันเป็นเช่นไร

กว่าจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร

ผู้ที่ตกเป็นจำเลยของอารมณ์อันเฮงซวย

เขาก็จมดินไร้ที่ยืนในสังคมไปเรียบร้อยแล้ว

หวัดดียามสาย

เสียงร้องแห่งความถูกต้อง

ต่อให้แหกปากตะโกนแค่ไหน

มันก็เป็นเสียงเงียบซ่อนหลืบอยู่ภายใน

ด้วยใจของผู้ฟังที่ล้นด้วยอคติ


คำถาม >>> น้อมกราบสาธุธรรมนมัสการยามเช้าเจ้าค่ะ

การเห็นผิด และยอมรับในสิ่งที่ตนตัดสินว่าผิด
แล้วไปกราบขออภัย ขอให้ยกโทษให้
ผลนั้นยังจะเป็นบาปอยู่ไหม เจ้าคะ พระอาจารย์

พระอาจารย์ตอบ <<< บาประหว่างใจในสิ่งนั้นๆได้สางออกไป

แต่เหตุของบาปที่เป็นผลไปแล้ว

ท่านเหล่านั้นต้องรับผลไปตามเหตุปัจจัย

มันมีสัญญาของมันอยู่

ทางใจจางคลาย

ทางวาจาจางคลาย

ทางกาย มีวิบากต้องเผชิญ แต่ไม่รุนแรง มันอยู่ที่เหตุปัจจัยของวิบาก

คำถาม >>> กราบนมัสการครับพระอาจารย์

เป็นธรรมดาคนเรามักตัดสินจากผลที่เห็นก่อน

ไม่ว่าถูกใจหรือไม่ถูกใจเรียกว่าตัดสินจากกิเลสตัวเองทั้งนั้น

สิ่งนี้เราชอบ เราไม่ชอบ
มันมีบันทึกโปรเเกรมจิตเรา

เมื่อผลมันเเสดง ย่อมไหลไปกับกระเเส เรียกว่าตัดสินอย่างตัวกู

พระอาจารย์ตอบ <<< เพราะตัดสินจากสิ่งที่เห็น

ไม่ได้ตัดสินจากสิ่งที่ตนรู้เหตุรู้ผล

คนเราจึงเกิดความชิงชัง รัก อันเต็มไปด้วยอาการหลง

สัญญาที่อคติ ย่อมเป็นตัวดึงให้กระแสแห่งความถูกนั้นลงต่ำ

แม้ว่าสิ่งที่เห็นนั้น มันจะถูกต้องแค่ไหนก็ตาม

ความถูกต้องนั้น ก็ไม่ถูกต้องด้วยเหตุด้วยผลแห่งอคติ

คำถาม >>> กรณีป้าทุบรถเห็นได้ชัด สังคมออกมาด่าก่อน

คนรวยรังเเกคนจน ทำเกินกว่าเหตุ มารุมด่าป้า พอสังคมเริ่มเข้าใจ

คราวนี้ดราม่ามาด่าอีเจ๊เเทน อีไร้สามัญสำนึก จอดรถประสาพ่องดิ มักง่าย ฮ่าๆดูไปก็ขำ

สังคมไทยถูกปลูกฝัง สอนให้เป็นคนดีตั้งเเต่จำความได้

ยกตัวอย่าง เเม่สอนลูกดีเลว ก็จะอาศัยการเปรียบเทียบ สิ่งนั้นไม่ดี สิ่งนี้ดี คนนี้เลวอย่าไปคบ คนสูบบุหรี่เป็นคนไม่ดีอะไรเเบบนี้

คือตัดสินเลย ย้อมสอนให้เด็กเกิดความเเบ่งเเยก เเละเพ่งโทษโดยไม่รู้ตัว

เราจะเห็นนักเลงคีย์บอร์ด หรือคนดีๆในสังคมที่ออกมาด่าชาวบ้าน มีเเต่คนดีๆทั้งนั้น

เเต่ไม่เข้าใจว่า สิ่งใดคือสิ่งที่ถูกต้อง

พระอาจารย์ตอบ <<< ชีวิตสังคมไทย ทุกคนมักโดนเช่นนี้

เพราะคนดีๆโลกสวย มองจากมุมของตนที่เห็นแล้วตัดสิน

สิ่งเหล่านี้เป็นกรรม มันมีวิบากที่เราจะต้องรับผล

นั่นก็คือ คนอื่นที่เราไม่เคยรู้จัก เขาก็ก่นด่าเราด้วยความไร้เหตุไร้ผลเช่นกัน

มันเป็นภพ ทางใจ และวาจา ที่สื่อออกมา

แม้ไม่ครบทางกาย ไม่ครบองค์ประกอบแห่งเจตนา

แต่ภพมันก็ก่อเรียบร้อยแล้ว เจ้าของก็ต้องเสวย

เมื่อเราเสพข่าวด้วยความสงบไม่ได้

ต้องด่าต้องดราม่าตามสายตาที่เห็น

นั่นแหละ..ตัวเราที่มันเป็น สันดานเรามันประเภทมนุษย์เพ่งโทษ

ขาดเหตุขาดผล ขอแค่สะใจและออกความเห็นหาพวกหาพ้อง

ถล่มสิ่งที่เห็นด้วยอคติไว้ก่อน

คนที่ตัดสินด้วยการเห็น และอคติกับสิ่งที่เห็นโดยขาดการตรอง

นี่เป็นคุณภาพของสัตว์ อันเป็นสินค้าเกรดต่ำ ไม่คู่ควรที่จะไปเกิดเป็นมนุษย์อีกต่อไป

พระธรรมเทศนา วันที่ 28 กุมภาพันธุ์ 2561

โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง