จิตประภัสสรต้องย้อมด้วยกุศล

จิตประภัสสรต้องย้อมด้วยกุศล

312
0
แบ่งปัน

***** “จิตประภัสสรต้องย้อมด้วยกุศล” *****

พรุ่งนี้เป็นวันอาสาฬหะบูชา ต่อด้วยวันเข้าพรรษา
นี่ผ่านมาห้าสิบกว่าปีแล้ว

ข้านี่เกิดราวตีห้าจึงอยู่ระหว่างวัน อาสาฬหะบูชากับวันเข้าพรรษา

เขาว่าคนเกิดวันพระวันเจ้าอะไรนี่ เป็นคนมีบุญ เป็นคนดีมาเกิด

แต่เท่าที่จำความได้ ข้านี่มีแต่เรื่องเหี้ยๆตัวเป้งๆทั้งนั้น

เขาว่าจิตเดิมๆนี้บริสุทธิ์ สว่างสดใสเป็นประภัสสร

คำนี้นี่หลายคนคงไม่เข้าใจ ว่ามันประภัสสรยังไง เห็นหลายคนพูดจัง

คำว่าจิตเดิมแท้นี่ มันเนื่องด้วยอวิชา จิตนี่มีเหตุมาจาก อวิชา

อวิชานี่เป็นตัวเหตุแห่งการก่อเกิดจิต ไม่มีอวิชา จิตก็ไม่มี

ที่เราปฏิบัตินั้นก็เพื่อดับอวิชา อวิชาดับจิตก็ดับ เมื่อเหตุดับ ผลก็ดับ

มันดับไปตามกฏอิธทับปัจจยตา

เอาความไม่รู้มาเป็นความสว่าง สดใส ประภัสสร คำๆนี้ มันก็ว่ากันไปมั่ว

ความหมายจริงๆที่ท่านต้องการสื่อในกาลหนึ่ง ในขณะที่ยังเป็นเด็กทารกน่ะ

เด็กทารกนี่ ยังไม่รู้อะไรดีอะไรชั่ว ยังไม่สะสมได้รับการย้อมปรุงแต่งสมมุติอะไรเข้าไป

ยังมีธรรมชาติแห่งความว่างเปล่าในรูปร่างใหม่

แต่จิตดั้งเดิม ที่มาก่อรูปผ่านวิบากวิญญานมาเป็นนามรูปนี่

มันอาจเคยเป็นไอ้อัปรีย์ชน ที่โลกรับไม่ได้มันก็มีของมัน

คำพูดที่กล่าวว่า จิตดั้งเดิมเป็นสว่างสดใสเป็นประภัสสร เราจึงควรปฏิบัติเพื่อ กลับคืนไปสู่จิตเดิม

เพื่อที่เราจะได้ก้าวเข้าไปสู่ประตูนิพพาน จึงเป็นเรื่องที่จำเขามาพูด และพูดด้วยความโง่ๆ

จิตประภัสสรนี่ เรียกว่าจิตที่ยังมีความสว่างสดใส ยังไร้การย้อมด้วยกุศลและอกุศล

เป็นจิตสำหรับรูปใหม่ เพื่อรองรับสิ่งต่างที่พร้อมจะบันทึกทางอายตนะ

เด็กนี่ มันยังว่างเปล่าด้วยกุศลและอกุศล

ถ้าหากตายตอนเป็นทารก จิตดวงนั้นก็ต้องกลับมาก่อรูปอีก มันเข้านิพพานซะที่ไหน

สมัยก่อน อาร์มี่ ลูกสาวข้า ก่อนมาเป็นลูกข้านี่ เคยเป็นลูกของเจ้าแก้ว ลูกหลวงตาจักษ์มาก่อน

เจ้าแก้วมันแท้ง จิตดวงนั้นจึงไม่ได้เกิดกำเนิดออกมาดูโลก

วิญญานวนเวียนอยู่ราวเจ็ดปี จึงได้มาก่อกำเนิดเป็นรูปในท้องเมียข้า ตามเหตุสัญญากุศลวิบาก

ป่านนี้คงโตเป็นสาวไปแล้ว

นี่ถ้าเกิดไปเจอกัน ผิดใจอะไรกับเจ้าแก้ว มันคงชกกันตาย

มันไม่รู้ได้หรอกว่าเจ้าแก้วนี่ อดีตเคยเป็นแม่ของมัน

นี่..การข้ามชาติข้ามภพไปแล้ว มันก็จบๆกันไป ไม่มีพ่อมีแม่ มีผัวมีเมียกันอีกแล้ว

ทุกชีวิตมีวิบากของตน เป็นเครื่องดำเนิน

วิบากการดำเนินนี้มาจากไหน..

ก็มาจากการกระทำ ทางกาย วาจา ใจ ที่จิตมันมาก่อรูปครองรูปที่เป็นเราๆนี่แหละ

ความเป็นประภัสสรแห่งจิตนี่มันมีกันทุกคนแหละ

มันอยู่ที่ว่า เราจะย้อมจิตดวงนี้นี่ ให้มันเป็นสีอะไร

ถ้าย้อมมาทางกุศล ผลมันก็ไปทางหนึ่ง

ถ้าย้อมมาทางอกุศล ผลมันก็ไปอีกทางหนึ่ง

เราเป็นผู้เลือกเป็นผู้กำหนดเส้นทางของเราเอง

ไม่มีใครหรือพระเจ้าที่ไหนจะมาบันดาลให้เราเป็นนั่น นู่น นี่ไปได้หรอก

ทำดีแล้วพระเจ้าสาปส่งเพราะไม่ถูกใจพระผู้เป็นเจ้า

ทำดีแล้วต้องถูกใจตามพระผู้เป็นเจ้าพอใจ จึงจะเป็นคนดีตามบัญญัติของพระผู้เป็นเจ้า

ตายห่าเลย..ชีวิตต้องขึ้นอยู่กับพระผู้เป็นเจ้า เกิดมาเป็นทาสอารมณ์ของพระผู้เป็นเจ้า

ผิดถูกพระผู้เป็นเจ้าเป็นผู้ตัดสิน

งั้นชีวิตนี้มึงจะเกิดมาทำไม…เกิดมาเพื่อไร้อิสระและเสรี

ทำดีเพื่อที่จะไปอยู่กับพระผู้เป็นเจ้า ที่มีแต่อารมณ์

นี่..ความเชื่อสร้างพระผู้เป็นเจ้าขึ้นมา และเอาพระผู้เป็นเจ้า ไว้ข่มขู่ผู้คน ให้หวาดกลัว

พรุ่งนี้เป็นวันอาสาฬหะบูชา ต่อด้วยวันเข้าพรรษา

ครั้งหนึ่งเคยเป็นรอบวันเกิดกำเนิดลืมตามาดูโลกของข้า

ชีวิตดำเนินมาถึงวันนี้ และพรุ่งนี้เป็นวันแห่งการครบรอบปี

ใจมันคอยคืนความอัปรีย์ที่เคยทำ ด้วยการอยู่ดำเนินไปเพื่อตอบแทนผืนแผ่นดิน

เกิดมาในพุทธศาสนา ได้เข้าพรรษารักษาศีลรักษาใจ

แม้เป็นช่วงแค่สามเดือนใกล้ แต่ขอให้ภูมิใจ ที่เราได้เกิดมามาโอกาสย้อมบุญ เป็นกุศลให้แก่ชีวิต

หวัดดีเช้าวันศุกร์ก่อนเข้าพรรษา ขอให้มีแต่ความเจริญและร่ำรวยๆๆ

พระธรรมเทศนาวันที่ 7 กรกฎาคม 2560 โดยพระอาจารย์ ธรรมกะ บุญญพลัง