ดวงตาเห็นธรรมต้องมีหลักใจ

ดวงตาเห็นธรรมต้องมีหลักใจ

371
0
แบ่งปัน

***** “ดวงตาเห็นธรรมต้องมีหลักใจ” *****

วันนี้เป็นอาสาฬหบูชา ..

ย้อนไปเมื่อ 2600 ปีที่แล้ว ณ.ป่าอิสิปมฤคทายวัน แขวงเมืองพาราณสี

พระพุทธองค์เจ้าได้ปฐมเทศนาให้แก่ปัญจวัคคีย์ทั้งห้า ในวันขึ้น 15 ค่ำ เช่นเดียวกับวันนี้

วันนี้ถือเป็นกำเนิดวันพระสงฆ์ ที่ครบพระรัตนไตร

พระอัญญาโกณฑัญญะ ได้เกิดมีดวงตาเห็นธรรมตรงตามความเป็นจริง

เกิดเป็นพระสงฆ์องค์แรกในศาสนานี้

เกิดเป็นล้อธรรมจักร ขับเคลื่อนยังปัญญาให้เกิดแก่มวลมนุษย์ชาติ

อะไรคือดวงตาเห็นธรรม..

การมีดวงตาเห็นธรรมนี่ เป็นภาวะตื่นรู้ขึ้นมาตรงตามความเป็นจริง

ว่าสรรพสิ่งเกิดขึ้นมาเป็นธรรมดา และดับลงไปเป็นธรรมดา

ไม่มีใครไปบังคับบัญชา ให้มันเป็นอย่างนั้นให้มันเป็นอย่างนี้ได้ดั่งใจ

มันตื่นรู้ขึ้นมา อย่างง่ายๆ ไม่ได้ซับซ้อนอะไรใดๆ

เป็นเพียงแต่คนทั้งหลายขาดหลักใจ ในความเข้าใจกับปัญญาญานที่เกิดสิ่งเหล่านี้

ความเข้าใจเช่นนี้ ใครๆก็เข้าใจได้ แต่ทำไมใครๆจึงไม่มีดวงตาเห็นธรรมเหมือนพระอัญญาโกณฑัญญะ

ในวันนี้ พระปัญจวัคคีย์ทั้งห้า ก็ได้ฟังธรรมร่วมกัน ธรรมบทเดียวกัน จากพระพุทธองค์เหมือนๆกัน

แต่ทำไม พระอัญญาโกณฑัญญะถึงมีดวงตาเห็นธรรมเกิดขึ้นองค์เดียว

การมีดวงตาเห็นธรรม มันเป็นเจโตปริยญาน ที่เกิดจากการประมวลจิต แล้วแตกโพล๊ะขึ้นมา

การแตกออกมาแห่งปัญญา ที่โดนอัดโดนย้อมมาเป็นเวลานาน ตลอดอนันตกาล

ได้รับการถอดถอนสิ่งที่มีสิ่งที่เป็น ด้วยตัวมันเองที่เกิดการหลงผิด ที่ไม่รู้ว่ามันผิด

ผิดในที่นี้ เป็นอุปาทานจิตที่มีเราเข้าไปเป็นเจ้าของ

กลับมาเกิดความเข้าใจที่ถูกตรงตามปัญญาญานที่เห็นตรงตามความเป็นจริง

มันเหมือนอาการเกิดปิ๊งขึ้นมา สว่างขึ้นมาว่าใช่ๆๆๆ ไม่มีข้อโต้แย้ง

ภาวะจิตจำยอมและจำนนต่อความเป็นจริงในปัญญาญานที่เกิด

หลักแห่งอริยสัจในวันนี้ที่พระอัญญาฯ ได้เกิดมีดวงตาเห็นธรรม ไม่ใช่ความหมายแห่ง ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค อะไรนั่น

แต่เป็นหลักแห่งเหตุแห่งผล ที่เห็นตรงตามความเป็นจริงว่า ธรรมชาติมันเป็นของมันเช่นนี้

หลักอริยสัจก็คือหลักเหตุหลักผล

ทุกข์นี่เป็นผล สมุทัยเป็นเหตุ

สมุทัยนี่เป็นผล ตัณหาที่ผุดจากใจไม่รู้จบนี่เป็นเหตุ

ตัณหาเป็นผล เวทนาเป็นเหตุ

เวทนาเป็นผล ผัสสะเป็นเหตุ ฯฯฯ

เมื่อมาประมวลเข้าด้วยปัญญาญาน ภาวะเจโตอันรู้แจ้งตรงตามความเป็นจริงมันก็เลยเกิด

เกิดดวงตาเห็นธรรมตรงตามความเป็นจริงในความเป็นธรรมดาของสรรพสิ่ง

บุรุษผู้มีดวงตาเห็นธรรมตรงตามความเป็นจริง ย่อมมีหลักใจในการร้อยเรียงใจเข้าสู่หนทางมรรคผล

เราทั้งหลายแม้รู้นัยแห่งธรรมเช่นนี้ ยังเข้ามรรคผลไม่ได้เพราะเรามันขาดหลักใจ

หลักใจนี่สำคัญ..

แม้มีดวงตาเห็นธรรม แต่ขาดหลักใจตามเหตุปัจจัย

ใจดวงนี้ก็จะหวลไปก่อกำเนิดภพ ให้เป็นสมุทัยจนเกิดความทุกข์ใหญ่ตามมาไม่มีที่สิ้นสุด

หลักใจคือความตั้งมั่นที่จะฝืนความรู้สึก ในสิ่งที่ไม่ถูกไม่ควรและเป็นอกุศล

พระดีๆมากมายทั้งหลาย พ่ายแพ้ต่ออกุศล เป็นเพราะขาดหลักใจที่จะนำมายึดเหนี่ยว

พวกเรานั้น รู้ทั้งรู้ว่ามันเป็นบาปเป็นอกุศล แต่เราก็ยังทำไม่ฝืนใจตน

การใหลไปตามกระแสแห่งใจตน ในเหตุในผลในปัจจัยที่ไม่สมควร

มันเป็นสมุทัยที่ก่อเกิดทุกข์ทั้งหลาย ที่จะวนเวียนมาสู่ใจโดยไม่รู้จบ

เรารู้แล้วว่า สิ่งหนึ่งสิ่งใดเกิดเป็นธรรมดา สิ่งใดสิ่งหนึ่งนั้นย่อมดับไปเป็นธรรมดา

รู้ทั้งรู้แต่ขาดหลักใจตั้งมั่นยึดเหนี่ยวในความละอายใจ

มันก็แพ้พ่ายเพราะความเสือกของตัวกู

ที่เอาตัวกูนี่แหละ เข้าไปเป็นเจ้าของธรรมดานั้นซะทุกเรื่อง

รู้ทั้งรู้ว่ามันเป็นธรรมดา แต่เสือกทำลายความเป็นธรรมดาด้วยการ “กูเป็น”

ขอสาธุคุณในวันอาสฬหบูชา ขอให้มีดวงตาเห็นธรรมและมีหลักใจ

พระธรรมเทศนาวันที่ 8 กรกฎาคม 2560 โดยพระอาจารย์ ธรรมกะ บุญญพลัง