ตัณหาที่พากันปาราชิก

ตัณหาที่พากันปาราชิก

368
0
แบ่งปัน

***** “ตัณหาที่พากันปาราชิก” *****

หวัดดียามค่ำๆ เอามาอ่านกันยามเช้าๆ

เรื่องผู้หญิงกะพระนี่ มันปรปักษ์กัน

พระนี่หากเป็นพระดีจะอดกลั้น และละอายใจที่จะกระทำความใคร่ตัวเอง

หรือที่จิ๊กโก๋เรียกว่าชักว่าวนั่นแหละ ท่านไม่กล้า

แต่พวกกำลังน้อยนี่ คาวไปทั้งกุฏิเชียวล่ะ

ยิ่งพวกห่างไกลครูบาอาจารย์ทางจิตนี่เรียบร้อย คุมตัวเองไม่ได้

พอผู้หญิงเข้าใกล้ หำแข็งหมด ทนไม่ได้ แค่ได้กลิ่นฟิโลโมนของเหล่าเธอ
พุทโธเป็นนมโตเกลี้ยง

พระที่นี่ก็เป็น ข้าก็ต้องแก้จิตให้ ที่นี่มีแต่พระหนุ่มๆ รุ่นกระทิงเปลี่ยวทั้งนั้น

แน่นอน ร้อนแรง..

แต่เขามีความละอายชั่วสูง โดนข้าขู่ว่าใครชักว่าว ผีมันรู้ มันจะกิ๊วๆๆ เอา และมันจะมาฟ้องข้าด้วย ท่านก็เลยไม่กล้ากัน

พระที่นี่ บริสุทธิ์สาวเอย ถึงจริตจะเพี้ยนๆ นั่นมันเรื่องของจริต

แต่เรื่องธรรม เรื่องจิต เรื่องความบริสุทธิ์นี่ พวกเขามีพอรักษาตัว
ยกเว้นเรื่องกลิ่นขี้เต่า บางองค์เหม็นชิบหาย..!!

เรื่องจิตที่ปรุงแต่งราคะนี่ ข้าว่าจะอธิบายขยายความให้ฟัง

อะไรมันเป็นเหตุปัจจัย ทำให้ราคะมันเกิด

ในตำรามันก็ว่ากันเป็นหัวข้อ มันขยายความให้เข้าใจ ลูบคลำด้วยปัญญาไม่ได้หรอก มันต้องสอดส่องอธิบายลงไปด้วยญาณ

ญาณในที่นี้คือความรู้แจ้ง ที่อาศัยเหตุปัจจัยขยายลึกลงไป

พระนธีบอกว่า พระอาจารย์ครับ ผมออกไปข้างนอกแล้ว
มันเกิดความกำหนัดมากเลยครับ

ทำสมาธิแล้วฟุ้งซ่าน เห็นแต่ฮี๋ลอยเต็มหน้าเลย
ปลงยังไงก็ไม่ลง ทำไงดีครับ..

นี่..พระนธีเขาเกิดทุกข์ เพราะมีฮี๋เป็นอุคนิมิต

ท่านก็พยายามทำสมาธิและพิจารณา ตามที่กำลังปัญญาตนมี ฮี๋มันก็ไม่หนีไปไหน

มันลอยมาลอยไป แปะหน้าแปะจมูกให้ชื่นใจทุกที

จึงเพ่งดูมันอย่างที่เคยฟังมา แต่ยิ่งเพ่งก็ยิ่งนึก ยิ่งปรุง นั่งหำแข็งให้ทุกข์ใจยิ่งขึ้น

ใครมาช่วยอธิบายตรงนี้หน่อยซิ ว่าจะทำไง ช่วยแก้จิตเคสนี้หน่อย

ข้าขี้เกียจ จะรอผู้รู้ธรรมมาแก้ให้ ลองหาวิธีมาดูซิ..??

ธรรมชาติของมนุษย์นี่ มันมีสัญชาตญาน

มันมีสัญชาตญานแห่งการเผยแพร่พันธุ์

สัญชาตญานตัวนี้ มันทำให้เกิดความกำหนัดในกาม

ที่จริงมันเป็นโปรแกรมอย่างหนึ่ง ที่อาศัยเหตุปัจจัยปรุงแต่ง

เกิดเหตุปัจจัยนี่ มันปรุงแต่งมาจากสัญญา ที่อาศัยการผัสสะ

ถ้าผัสสะทางด้านรูปเพศตรงข้ามน้อยลง ความกำหนัดก็จะมีน้อยลงตามส่วน
ยิ่งผัสสะมาก การปรุงแต่งก็ยิ่งมาก

โดยเฉพาะพวกนักบวช

เมื่อตนเองเข้ามาบวช มันโดนล้อมกรอบด้วยธรรมวินัย

สัญชาตญานโหดแห่งเพสมันก็เลยโดนกักขัง ด้วยเหตุปัจจัย

ความละอายเอย ความเป็นเพศพรหมจรรย์เอย คำว่าโลกวัชชะเอย มันข่มสัญชาตญาน

เมื่ออยู่ป่าอยู่วัดมันไม่เท่าไหร่ แต่เมื่อออกมา ได้พบ ได้เห็นผู้คน สันดานสัตว์มันก็จะเกิดก่อ

คนนั้นนุ่งขาสั้น คนนั้นนมโต คนนั้นร่องก้นเป็นกลีบ คนนั้นหน้าขาวเรียวสวย มันมากมายที่จะเห็น

โอย..สารพัดที่มันจะนึก

มันสะสมด้วยการแอบดูเขา เรียกว่าแอบดูโลก ดูด้วยสัญญานสันดานเก่าๆ

พอกลับวัดเข้าป่า กลับมานั่งสมาธิ ไอ้ที่บันทึกๆไว้นี่แหละ มันจะระบายออกมาเป็นโขยง

ที่สำคัญมันปรุงแต่ง เสริมเข้าไปจนหำแข็ง

ก็เพราะไปกดมันไว้นี่ เมื่อได้ทีมันก็ทะลักออกมาเลย

ไอ้พวกที่ชอบเล่นไลน์ เล่นเฟสนี่แหละตัวดี ในนั้นมีอะไรสารพัด ที่จะดู

เมื่อขาดความละอาย และกำลังใจต่อตนเอง ซึ่งเป็นธรรมชาติของใจ
ที่พ่ายแพ้อยู่แล้ว

ความกำหนัดยินดีมันก็เกิด

เมื่อเกิด มันเกินกำลัง ที่จะไประงับอารมณ์ที่มันปรุงแต่ง
จนเชี่ยวกรากได้

ผลก็คือสมาธิย่อมฟุ้งซ่าน ไม่เป็นสมาธิ

ใจมันไม่สงบละเคยสงบก็จะไม่สงบละ

ถ้าจะให้สงบ ก็ต้องชักว่าวกันล่ะสำหรับผู้ชาย มันจะได้ไม่ฟุ้งซ่าน เอาอาหารแห่งตัณหาทางกายป้อนให้มัน

พอน้ำแตกก็จะคลายอารมณ์ลงมา แต่นั่นแหละพ่ายแพ้จะติดใจกลิ่นฮี๋ขึ้นมาไม่รู้จบอีก

ส่วนชีก็ต้องเกาฝากันละ เพื่อผ่อนคลาย ผู้หญิงนี่ราคะจะหนักกว่าผู้ชายแต่เธอกดไว้เก่งกว่า

ผลก็คือสังฆาฑิเสส เป็นอาบัติหนัก ชีก็อาบัติหนัก สังฆาฑิเสสเหมือนกัน

นักบวชอาบัติหนักเกิดนี่ อย่าพึงหวังมรรคผล

มรรคผลมันไม่เกิดกับใจที่พ่ายแพ้หรอก นี่เป็นธรรมดา

บวชชีวิตนี้เป็นหมันแน่ อยากแก้ตัว ก็ต้องไปอยู่ปริวาส

ทีนี้ ไอ้พวกนี้ก็เลยเอาการอยู่ปริวาส มาเป็นเครื่องรองรับการชักว่าวซะเลย

ชักกันเพลินเลย เดี๋ยวค่อยไปอยู่กรรมชำระกรรมด้วยการอยู่ปริวาสกัน

นี่..พวกคิดเช่นนี้ ผิดพระธรรมวินัย ด้วยการคิดเอาเอง

ไร้ครูบาอาจารย์อบรม เป็นพวกทหารป่วยขี้แพ้

ไร้เรี่ยวแรงที่จะไปรบกับศัตรูกัน เป็นกิเลสหนากำลัง ยากที่จะต้านทาน

พวกอยู่ปริวาสนี่เป็นพวกทุศีลหนัก ทำบุญอะไรก็ไม่เกิดกุศล

พระพุทธองค์ท่านว่าอย่างนี้

เป็นโจรที่ขอแก้ตัวอีกครั้ง ที่ได้พลาดพลั้งไป ท่านอนุญาตให้แค่สองครั้งเท่านั้น

ครั้งที่สามนี่ไม่มี เพราะครั้งที่สองนี่ พลาดทุศีลแล้วมาอยู่ เพื่อชำระแล้วสึกออกไป

ครั้งที่สามนี่ พวกปาราชิก ปาราชิกคือพวกใจพ่ายแพ้ ต่อการครองเพศพรหมจรรย์

ที่มันไม่ยอมออก ก็คือพวกโจรปล้นศรัทธาเราดีๆ นี่เอง มันคิดเข้าข้างตัวเองทั้งนั้น

เพราะไม่มีใครรู้นี่ ว่ามันชักว่าวอยู่เนืองๆ มันไม่ได้มาชักกันที่ห้างโลตัส มันแอบชักกันในกุฏิเงียบๆ

ว่างแล้วสาวกันคาวคุ้ง ทั้งหลวงปู่หลวงพ่อก็ไม่เว้น ตัณหามันไม่ได้เลือกวัย

ผู้ชายน่ะผู้ชาย ลงว่าพ่ายละก็เสร็จทุกคน ความเงี่ยนมันไม่ได้ปราณีใคร ไม่ได้เลือกความเป็นเณรหรือท่านเจ้าคุณ

พรหมจรรย์จึงหายากในเพศนี้

ขอให้มีผู้รักษาขึ้นมาด้วยกำลังแห่งจิตเหอะ

สร้างความละอาย ในเพศพรหมจรรย์ให้เกิด

สิ่งที่จะเกิดกับใจดวงนี้ ในเพศพรหมจรรย์คือตัวปัญญา

ตัวปัญญาที่อาศัยสมาธิและศีล มันจะเกิดกับใจเจ้าของ ที่รักษาพรหมจรรย์

ธรรมตัวนี้ เชื่อข้าได้เลย มันจะทำให้เกิดปัญญาญาน

บวชแล้ว สำคัญ รักษาอย่าให้เกิดการผิดธรรมวินัย ในอาบัติหนัก

ถ้าเกิดกำหนัดยินดีนี่ อย่าไปโดนผู้หญิงด้วยเจตนา

ถ้าเธอเดินเข้ามาก็อย่าไปพูด ถ้าต้องพูดก็อย่าไปสบตา

ถ้าต้องสบตา ก็ให้คิดซะว่านี่เมียคนอื่น

เขาไม่ได้อยากได้ใคร่ดีอะไรกับเรา

ถ้าปลงไม่ได้ก็ให้เดินหนีเสีย

แต่นั่นแหละ..

ใจที่เกิดความกำหนัดขึ้นแล้ว มันจะเป็นไฟเผาใจเจ้าของล่ะ

ทำงานมันก็ไม่หายหรอก นั่งสมาธิมันก็ไม่ได้ ใจมันโดนเผา

เอารูปคนแก่รูปศพรูปเครื่องใน มาเพ่งมาพิจารณา มันไม่หายเงี่ยนหรอก เดี๋ยวมันก็เงี่ยนอีก

มันไม่มีใครเงี่ยนกับศพ กับสิ่งปฏิกูล กับของเหม็นของเน่า

โน่น..ไอ้น้องขาวๆ นมยวบยาบ ก้นดึ๋งๆ โน้น มันปรุงซะจนฮี๋มันลอยมาแปะหน้า

นี่..พระนธีท่านโดนมาอย่างนี้ ท่านก็เอาไอ้ที่ว่านี่แหละมาพิจารณา

แต่ว่าพอมันเกิดแล้ว พิจารณาไม่ตกหรอก

มันนึกเอามันก็ยิ่งชัด ยิ่งนึก ฮี๋ก็ยิ่งหอม ใจมันฟุ้งไปแล้ว

เวลาพูดน่ะง่ายหรอก แก้อย่างนั้น แก้อย่างนี้ ลองมาเป็นเหอะ ตายสนิททุกราย

ที่จริงเรื่องเหล่านี้มันเป็นอากาศ มันเป็นมโนจิต

คนกำลังอ่อนน่ะแก้ยากไม่มีวิธีแก้ มันแก้ใจตัวเองไม่ได้ ผลพ่ายแพ้มันแสดงตัวเองอยู่

เกิดแล้ว ก็ต้องตั้งสติ เอาปัญญาเข้าไปสอดส่ง อย่าแช่กับการพิจารณา ถอยออกมาก่อน

หากกระแสความกำหนัดรุนแรง ให้เดินเข้าหากลุ่ม มันจะชักว่าวกลางกลุ่มก็ให้มันรู้ไป เงี่ยนจัดขนาดนั้นก็ยอมมันไปซะ

ทำงานอะไรที่หนักๆ เดินจงกรมให้ไข่ตุงไปเลย เพื่อบรรเทามัน

ไข้น่ะ พอเกิดแล้ว กินยาใช่จะหายปุ๊บ มันใช้เวลา

ระวังอย่าให้เกิดไข้ นี่ง่ายกว่า ที่จะไปแก้ไข้

กำลังใจนี่สำคัญ หากมีครูบาอาจารย์ที่ทรงคุณทางจิต มันจะไม่กล้าทำการทุศีล
ด้วยเจตนาขึ้นมาหรอก

มันกลัวอาจารย์รู้ ผู้ฝึกปฏิบัติก็กลัวผีรู้ หากเคยสัมผัสทางจิตว่ามี

มันมีกำลังความละอายซ่อนอยู่ มันจะไม่กล้า

เมื่ออยู่คนเดียวเปล่าเปลี่ยว เดี๋ยวมันก็เกิดอีก ห้ามมันยาก
เพราะมันเป็นอาการแห่งจิต

ยิ่งไปกดมัน ด้วยกำลังแห่งความเป็นผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบด้วยแล้ว

กำลังมันยิ่งมาก ยิ่งต้านยาก เพราะใจมันคิดมันปรุง ห้ามมันไม่ได้

กำลังที่จะปราบมันได้ สำหรับผู้มีกำลังก็คือ

นั่งดูฮี๋ในอุคนิมิตนั้นแหละ ไม่ต้องไปพิจารณาอะไรมันหรอก มันไม่ลง

ดูมันเฉยๆ ให้สบายอารมณ์ ฆวยแข็งก็แข็งไป ให้มันแข็งให้พอ

ข้าเองก็เคยแข็งทั้งวันทั้งคืน มันไม่ยอมลงมันประท้วง มันอยากให้เกาหัวให้

ทำไงมันก็ไม่ยอม ไม่ได้เงี่ยนงี่อะไรมากมาย ถึงบทขึ้นมามันก็ลุกขึ้นมาประท้วงทวงสิทธิมนุษย์ชนการเป็นหำของมัน

นี่ถ้ามันประท้วงเกินสามวัน ข้าก็กะหวดด้วยไม้หน้าสามกลางหัวซักตุ๊บสองตุ๊บ

เมื่อเกิดขึ้นแล้ว ขอระวังใจไว้อย่างเดียว อย่าไปแสดงออกและกระทำมันขึ้นมา

อยู่เฝ้าดูมันไปอย่างนั้น

ความทุเลามันจะค่อยๆ จาง ไข้แห่งตัณหาบ้ากามก็จะค่อยๆ สร่าง

นี่..พอเกิดขึ้นแล้ว ขอแค่อย่าไปเติมเชื้อ ให้ไฟมันลุกโชน
ด้วยความยินดีในกำหนัดก็พอ

หากชนะได้ ศึกครั้งต่อไป เราก็พอที่จะมีกำลัง..!!

พวกผู้หญิงก็เน๊อะ นุ่งสั้นกันจัง นั่งทีฮี๋แทบจะแปะหน้าแปะจมูกพระ

คองี้เว้าเห็นร่องนม พระมันก็อดไม่ได้ซิ

พุทโธน่ะไม่ค่อยจำ ร่องนมกะฮี๋นี่จำได้ดี

เพ่งเมื่อใหร่มันลอยมาแปะหน้าทุกที

กำลังใจน้อย ทั้งกุฏิทั้งห้องน้ำคาวไข่ขาวกระจายฟุ้ง

แต่เดี๋ยวนี้พวกพ่ายแพ้ไม่จำเป็นต้องอาศัยสีกาแล้ว

มันมีพระล่อเณร พระล่อพระเพียบหลายวัด

พระตุ๊ดพระเกย์ก็เพียบ สวดมนต์เสร็จล่อตูดกัน ขาดจิตสำนึกเยอะแยะ

พระธรรมเทศนา ณ วันที่ 26 มกราคม 2560 โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง