ว่างก็มาร่วมสร้างพระกัน

ว่างก็มาร่วมสร้างพระกัน

319
0
แบ่งปัน

****** “ว่างก็มาร่วมสร้างพระกัน” ******

<<<< อาทิตย์นี้ เราจะไปช่วยพระอาจารย์เทเสาองค์พระสูง 5 เมตรกันนะ

>>>> ช้าไปแล้ว เสาห้าเมตรเราเทเสร็จหมดแล้วเมื่อวาน

ขอยืนไว้อาลัยด้วย
กับท่านที่ไม่ได้เท

เรา..ภูมิใจที่ได้ทำให้แก่แผ่นดินน่ะ
เราทำกันเสร็จทุกวัน

เสาร์ที่แล้ว เราเทไปแปดต้น
เมื่อวาน สามต้น คนไม่มีหรอก

ไอ้พรเทและแบกหินทรายปูนกันเอง
ให้ลูกอมไปสองเม็ดค่าสินสอดน้ำใจ

มีโอกาสมาเหอะ
ชีวิตที่ได้สร้างมหาทานเช่นนี้
ใช่ว่าจะมีโอกาสกันง่ายๆ

คนอื่นเขาไม่มีโอกาสอย่างเราหรอก
บุญไม่ถึงที่จะได้ตอบสนอง

พวกเราบุญเยอะ
บุญมันลอยมาจรดจ่อคอหอย
หลายคนยังไม่อ้าปากงับเลย
น่าเสียดายๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ จริงๆ

ทิ้งเวลาไปกับเรื่องที่เป็นอากาศแห่งชีวิตเยอะไป
เรื่องของความถูกใจ ครอบครัว นู่น นั่น นี่ เยอะไป

เวลาถอยหมดลงไปทุกวัน

ข้าน่ะทิ้งชีวิตทั้งชีวิต
พวกเราทิ้งไม่ได้

มีโอกาศ แต่ไม่ยอมตักตวงเอาเยอะๆ
เสียดายๆๆๆ กับโจทย์ที่แสนง่าย

เปิดไพ่แทง ยังแทงยังทำกันไม่ค่อยถูก

ทำบ่อยๆ ถี่ๆ เยอะๆ เถิด
เราจะเป็นเศรษฐีมหาเศรษฐี เลยเชียว

อัตภาพนี้แสนลำบาก
เพราะเราสร้างเหตุมาไม่เพียงพอ

ชาตินี้ยังเสือก สร้างไม่พอเพียงกันเข้าไปอีก
ทั้งๆ ที่มีโอกาสได้การงานชั้นดี

เป็นเด็กเส้นแท้ๆ แล้วไม่ยอมเข้าเรียน

น่าเสียดายๆๆๆๆ ไม่รู้จะพูดพรันพรือดีนิ
มีโอกาศแล้วปล่อยมันไปซะนี่

เราสละทั้งเงิน เวลา แรงกาย แรงใจ
นี่…มหากุศลมหาบุญที่ก้องไปทั้งสามโลก

ใครว่านั่งสมาธิได้บุญมากกว่า
กุไม่เชื่อหรอก พูดแบบโม้ๆ ของคนไม่รู้จริง

การร่วมใจร่วมแรง สละ ทุกอย่างนี่แหละ
มันเป็นทั้ง ทาน ศีล สมาธิ และปัญญา

ใจเราจรดจ่อกับสิ่งเดียว คือ ทาน
ที่ได้สละเป็นชั่วโมงๆ

นั่งสมาธิเฉยๆ ไม่ได้เกิดประโยชน์อะไรกับใคร
แค่ใจตนสงบนิ่งเงียบ

อิกัวน่าข้า มันก็สงบนิ่งทั้งวันเช่นกัน
มันว่างซะจนเป็นอริยะอิกัวน่าแล้ว

แต่ใจที่ใช้กายออกแรง สละ เวลา
ทั้งแรงและทรัพย์ เป็นทานที่ หายาก
มากกว่า ทาน ที่นั่งเงียบๆ เฉยๆ

มึงมากันก็แล้วกัน
เชื่อกุๆๆๆ

ใครไม่มาก็ช่างแม่งมัน
ได้ทำมาถึงขนาดนี้ก็พอใจมากแล้ว

—————–
ลูกศิษย์ >>> งั้นที่พระอื่นๆ พูดว่า การนั่งสมาธิกรรมฐานคือที่สุด มากกว่าการสร้างโบสถ์วิหาร สร้างพระ ที่เราเชื่อมาตลอด ไม่จริงรึคะ?

พระอาจารย์ <<< มันมีนัยยะตุ๊ก

แกกินแต่ข้าว ไม่ออกกำลัง สบาย
มีแต่อมโรคและอ้วนตุ้ยนุ้ย ไร้ทรวดทรง

พระพุทธเจ้า สร้างบารมีมาจนตรัสรู้
ไม่ได้เกิดจากการนั่งเฉยๆ

แต่ต้องเอาแรงกายแรงใจ หยาดเหงื่อหยดเลือดเข้าฝ่าฟันน่ะ
นี่เป็นคำตอบ ที่เราเห็นได้

ท่านไม่ได้นั่งเฉยๆ ทุกๆ ชาติ หรือสร้างบารมีด้วยการนั่งเฉยๆ

จะมาบอกว่านั่งสมาธิได้มากกว่าบุญอย่างอื่นนี่ ไม่ถูกเลย

มันเป็นคำพูดของเกจิอาจารย์ที่จำๆ มา
ด้วยกาลแห่งการตรึกตรองของตน

ท่านมีสติปัสฐานสี่ไว้ทำไม
คนเรา เจริญธรรมได้ทั้ง เดิน ยืน นอน นั่ง

ฉะนั้น จะเอานั่งเพียงอย่างเดียวว่าเป็นบุญใหญ่
นี่เป็นเด็กน้อยเข้าใจกัน

นางวิสาขา พระสารีบุตร พระโมคลา
พระกัสปะ บรรลุมรรคผล
ไม่เห็นว่าจะมีใคร นั่งสมาธิมาก่อนซักคน

ได้บุญใหญ่ด้วยปัญญาเห็นชัดด้วยการฟัง
และโน้มใจตามด้วยกันทั้งนั้น

เมื่อบวชแล้วจึงมาทำสมาธิ เพื่อเป็นวิหารทาน

ถ้าเข้าใจตามร่องนี้
จะเห็นว่า พระอาจารยต่างๆ ของเรา
พูดและให้ความเห็นยังไม่ถูกต้องนัก

คือถูกแค่ส่วนเดียวแล้วยึดเอา
มันจึงกลายเป็นธรรมที่โต่ง

ไม่เกิดความเป็นมัชฌิมา
โอเคนะ บอกว่า กุขี้เกียจๆๆๆๆๆๆ ไม่เชื่ออีกเหรอ…

พระธรรมเทศนาโดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง

วันพฤหัสบดีที่ ๑๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๙ พุทธสถานบุญญพลัง