ความเฮงซวยแห่งใจที่มักโทษคนอื่น

ความเฮงซวยแห่งใจที่มักโทษคนอื่น

324
0
แบ่งปัน

**** “ความเฮงซวยแห่งใจที่มักโทษคนอื่น” ****

เช้านี้มีเวลานิดหน่อย มาคุยกันหนุกๆซักเรื่อง ถึงเรื่องใจที่แสนเฮงซวย

มนุษย์เรานี่ แบ่งความเฮงซวยออกได้หลายระดับมากมาย

แต่ที่เฮงซวยสุดๆก็คือ กลัวคนที่ตนเองข่มเอาไว้ด้วยอำนาจแห่งความรัก

ด้วยความหวงแหน ที่ตนเคยกดขี่เอาไว้ จะจากใจที่มีแต่สันดานเหี้ยๆของตนไป

แม่มักจะกลัวว่า ลูกอันเป็นที่รัก จะจากตนไป จะทิ้งตนไป เพราะลูกมันฉลาดขึ้น

มีเหตุมีผลมากขึ้น เห็นโลกแห่งความเป็นจริงกว้างขึ้น จึงกลัวและดูว่า ไม่เชื่อฟังตนอีกแล้ว

กลัวลูกจะทิ้งตนไป กลัวความโดดเดี่ยวเดียวดายที่ตนคิดเอา โกรธและอคติกับผู้ที่ลูกตนนิยม เดินตามด้วยความคิด กลัวลูกโง่ กลัวลูกโดนหลอก นี่..เป็นธรรมดาของใจโง่ๆ

ผัวกลัวเมียไม่อยู่ในคอกแห่งความคับแคบอารมณ์แห่งตน ที่ตนมักจะยัดเยียดอารมณ์แห่งตน ด้วยสันดานเหี้ยๆที่มีแต่อารมณ์

กดขี่ใจผู้คนให้ได้ตามอารมณ์ตนเอง เพื่อตอบสนองรูความคิดที่คับแคบเท่าที่ตนมี ไม่ยอมให้ใครที่ตนยึด ออกพ้นไปจากรูอันคับแคบแห่งใจตนนี้ นี่..ก็เป็นธรรมดาของใจที่มันโง่ๆ

ลูก ผัว เมีย เพื่อน คนในครอบครัว ที่ฉลาดขึ้น มีหนทางเลือกเดินในชีวิตมากขึ้น เห็นความจริงมากขึ้น คลายความงมงาย ในสิ่งที่โดนยัดเยียดมากขึ้น

เหล่าพวกใจคับแคบ มันดูว่า คนของตนที่เคยเชื่อฟังตน อยู่ภายใต้กรอบอารมณ์แห่งตน มันกำลังแหกคอก..

ข้านี่ชี้ให้คนเห็นความจริง ตรง และชัดเจนในครรลองชีวิตที่เกิดมา

ชี้ให้เห็นคุณค่าของชีวิตที่เหลืออยู่ว่าจะจัดการอย่างไรกับมัน

ชี้ให้ออกจากความงมงาย และรู้จักตัวตนและอารมณ์แห่งใจตน ให้มีที่ยืนบนโลกใบนี้

สิ่งดีๆที่เป็นความจริงที่ชี้ มันคือความอัปรีย์จัญไรของใจที่มันตีบตันและคับแคบของใครหลายคน ที่มันยึดอยู่แต่ความคิดเดิมๆ คือให้ได้ดั่งใจตน

มีผู้คนมากมายเดือดร้อนเพราะไม่รู้ว่าคนของตนมันฉลาดขึ้น

ไม่รู้ว่าคนของตนมันมองเห็นความงี่เง่าของตน ว่ามันมีแต่อารมณ์ที่ไร้แต่เหตุผล

ใจที่คับแคบและไร้เหตุผล มันก็เลยระเบิดขึ้นมาด้วยความคับแคบ

มันคับแคบด้วยความกลัวว่าคนของตน จะฉีกตัวหนีห่างจากไป กลัวว่าคนของตนจะไม่ได้ดั่งใจตน กลัวว่าคนของตนจะหลงงมงายในสิ่งที่ตนไม่เห็นด้วย

แต่ตนไม่เคยดูใจตนที่มันน่าเบื่อและงี่เง่ายัดเยียดแต่ความต้องการ ของตนเองให้แก่ใครๆ

ขีวิตมันย่อมหาหนทางแห่งความเป็นอิสระ เมื่อพบเจอความจริงเท่าที่ปัญญาตนจะผัสสะและลูบคลำได้ มันก็ย่อมอยากหาทางออกให้แก่ใจตนเองอิสระ

แต่ความตีบแคบของความเป็น พ่อ แม่ ผัว เมีย เพื่อน ที่ไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่ตนไม่เห็นด้วย ดูว่าเขางมงาย

แต่ตนไม่ดูใจตนว่าตัวของตนนั้นมันก็งมงายแต่อารมณ์ของตนเท่านั้น ไม่ยอมรับอารมณ์ใครที่ไม่ยอมรับอารมณ์ตน

นี่เป็นความเลวของใจเจ้าของที่ตนเองมันมองไม่เห็น

ไม่ยอมเปิดประตูใจยอมรับความเป็นจริงแห่งใจของผู้อื่นบ้าง

นี่เป็นความหวงแหน ยึด ว่าสิ่งที่ตนเป็นตนเห็นนั้นต้องถูก

ความคิดว่าถูกแห่งใจตน ยัดเยียดให้แก่คนของตน ว่ากูถูกๆๆๆๆ มึงต้องเชื่อฟังแต่ความคิดกู

เมื่อคนใกล้ตัวไม่ฟัง ก็ดูว่าเขาแหกคอก แหกไปจากความคิดและอารมณ์ตนที่คิดว่าถูก

ไอ้พวกนี้ มันก็เลยด่ากราดไปยังคนอื่น ที่คิดว่าเป็นตัวการทำให้คนของตนเองนั้นเปลี่ยนแปลงไป

โทษผู้อื่นโทษคนนั้นโทษคนนี้ แต่ไม่โทษใจตนที่มีแต่สันดานเหี้ยๆ ข่มคนด้วยอารมณ์สันดานร้ายๆใส่คนที่ตนรัก

คนฉลาดนี่ มันจะเห็นความเปลี่ยนแปลงของคนใกล้ชิดว่าเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ถูกหรือผิด

นี่..พอใครเปลี่ยนแปลงผิดไปจากที่ตนเคยเป็นเคยเห็น กลายเป็นผิดไปหมดและฟาดงวงฟาดหาง

ด้วยความเป็นใจสัตว์ที่มีแต่อารมณ์ที่ไม่ได้ดั่งใจทำลายเขาไปทั่ว

ข้านี่มักโดนพวกที่มีอคติมันฟืดฟาดอารมณ์ใส่อยู่เสมอ

แต่ไอ้พวกนี้มันดีแต่หดอยู่ในรูนั่นแหละ ดีแต่ขู่ฟ่อดๆๆ ในเงามืดที่ใครๆได้ยินแต่เสียงแต่พลางตัวไม่ให้ใครเห็น

ผิดถูกยังไง ไม่พอใจอะไร มันต้องเข้ามาไถ่ถาม

ไม่ใช่มีแต่อารมณ์เพียวๆแห่งตน ที่ยึดเอาแต่ความเห็นตนแล้วทำร้ายขู่เข็นคนของตนด้วยโทสะ ที่ไม่ได้ดั่งใจตน

ด้วยการโทษผู้อื่นที่ตนยังไม่ได้รู้จักเขาอย่างเพียงพอ

คนที่มันฉลาดขึ้น ย่อมหาหนทางที่จะขยับขยายออกไปสู่แสงสว่างที่เห็นชัดประจักษ์ตา

คนที่โง่ทึบอับปัญญา มันก็จะยึดแต่รูอันมืดทึบของตน และให้ทุกคนต้องยัดเยียดอยู่แต่ในรูที่มันมืดมนและมืดอับทึบนั่น

พึงแข็งแรงด้วยใจที่มีปัญญา และพึงเข้าใจว่า

คนที่มีแต่อคติ มันไม่ยอมฟังเหตุฟังผลใครอยู่แล้ว

อธิบายไปให้ใจที่อุดอยู่ในรู มันไม่รับฟัง

ขอให้อยู่อย่างยอมรับมัน ว่าใครๆมันก็เป็นธรรมดาของมันเช่นนั้นเอง

เช้านี้ขอให้แข็งแรงๆๆๆด้วยหัวใจที่มีปัญญา…

พระธรรมเทศนา ณ วันที่ 20 ธันวาคม 2559 โดยพระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง